"ปรากรม"ผู้ต้องหาคดี112ผูกคอตายในคุก
กรมราชทัณฑ์แถลง"ปรากรม วารุณประภา" ผู้ต้องหาคดี112ผูกคอตายในคุกพล.อ.ไพบูลย์สั่งตั้งคณะกก.สอบข้อเท็จจริง
กรมราชทัณฑ์แถลง"ปรากรม วารุณประภา" ผู้ต้องหาคดี112ผูกคอตายในคุกพล.อ.ไพบูลย์สั่งตั้งคณะกก.สอบข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม กรมราชทัณฑ์ ได้ออกเอกสารประชาสัมพันธ์ ชี้แจงสื่อมวลชน ต่อกรณีที่มีผู้ต้องขังเสียชีวิต โดยมีสื่อมวลชนได้ติอต่อ สอบถามจากกรมราชทัณฑ์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
แถลงข่าวกรมราชทัณฑ์
เรื่อง ผู้ต้องขังเสียชีวิต
กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2558 เวลาประมาณ 22.00 น. จากเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี สังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯว่า ข.ช.ปรากรม วารุณประภา ผู้ต้องขังระหว่างสอบสวนในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งได้รับตัวไว้ควบคุมตามหมายขังของศาลทหารกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2558 ได้พยายามฆ่าตัวตายด้วยการใช้ผ้าจากเสื้อผู้ต้องขังที่ทางเรือนจำจ่ายให้ตามระเบียบผูกคอตัวเองกับลูกกรงห้องขังภายในเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรีโดยเวรรักษาการณ์กลางคืนในวันดังกล่าวได้ตรวจพบจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาและเปิดห้องขังเข้าไปให้การช่วยเหลือในทันที
ในเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องขังยังไม่เสียชีวิต จึงได้พยายามใช้เครื่องช่วยหายใจและให้การปฐมพยาบาล พร้อมกับนำตัวส่งทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในทันที จนกระทั่งนำตัวส่งถึงทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และได้รับแจ้งจากแพทย์ในเวลาต่อมาว่าผู้ต้องขังได้เสียชีวิตแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นมีดังนี้
1. ห้องขังที่เรือนจำชั่วคราว ไม่ใช่ห้องขังเหมือนเรือนจำปกติทั่วไป แต่ใช้อาคารที่ทำการของหน่วยทหาร ซึ่งมีประตูทึบผนังปูน 4 ด้าน ไม่สามารถมองตรวจตราจากภายนอกได้ ต้องเปิดประตูจึงจะมองเห็น ภายในห้องขังมีเครื่องหลับนอนผู้ต้องขัง ใช้ระบบขังเดี่ยว ผู้ต้องขังทั้งหมดไม่มีโอกาสพบกัน
2.การควบคุมผู้ต้องขังเวลากลางคืนจะมีเวรผลัดละ 1 คน คอยเดินตรวจตรา ซึ่งขณะนี้ เรือนจำชั่วคราวมีผู้ต้องขังรวม 5 คน ประกอบกับเป็นวันหยุดราชการ ไม่มีการสอบสวน ผู้ต้องขังถูกขังห้องเพียงลำพัง ไม่มีโอกาสพบคู่คดี จะมีการเดินตรวจเป็นระยะเท่านั้น
3.คดีนี้เป็นคดีสำคัญ ผู้ต้องขังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง อาจมีปัญหาในการปรับตัว เพราะเพิ่งรับตัวไว้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2558
การเสียชีวิตของผู้ต้องขังในครั้งนี้ เป็นการเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน จึงต้องดำเนินการชันสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และส่งศพให้สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวด้วย เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานรายงานผู้บังคับบัญชาต่อไป
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากนายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่า มีเหตุนักโทษผูกคอในเรือนจำ เมื่อเจ้าหน้าที่พบเห็นจึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลต่อมานักโทษไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงได้สั่งการให้ทำตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ โดยตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง แล้วรายงานผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการมายังสำนักงานรัฐมนตรีโดยด่วน
ด้าน ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ในคดีที่เกี่ยวข้องของเครือข่ายการกระทำความผิดมาตรา 112 ของ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานให้ทาง ปปง. ช่วยดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายดังกล่าวแล้ว ซึ่งหลงจากนี้ ทาง ปปง. จะต้องพิจารณารายละเอียดว่ามีการแจ้งข้อหากระทำผิดใดบ้าง และเข้ามูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของการตรวจสอบของ ปปง. หรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ตนจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ในวันที่ 29 ต.ค.นี้


