10รีสอร์ทดื้อแพ่ง เมินรื้อพ้นภูทับเบิก

กรมป่าไม้เตรียมยื่นให้อัยการบังคับคดี 10 รีสอร์ทดื้อแพ่งไม่ยอมออกจากพื้นที่ภูทับเบิก

นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมป่าไม้กำลังรอหนังสือสำคัญแสดงว่าคำพิพากษาถึงที่สุดจากอัยการ จากนั้นจะยื่นให้อัยการบังคับคดี 10 รีสอร์ทดื้อแพ่งไม่ยอมรื้อถอนออกจากพื้นที่ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เพื่อให้จำเลยปฏิบัติตามคำสั่งศาล หลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

นายมานพ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าที่ดินส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 จึงไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ กระทำการได้เพียง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ทำให้นายทุนไม่เกรงกลัว แม้ว่ากรมป่าไม้จะดำเนินการจับกุมและตรวจยึดจนเป็นคดีสู่ สภ.หล่มเก่า เมื่อประมาณ พ.ศ. 2555-2557

ทั้งนี้ รวมทั้งสิ้น 27 คดี ควบคุมพื้นที่ตลอดแนวภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งศาลพิพากษาไปแล้ว 10 คดี หนึ่งในนั้นมีคดีที่สำคัญ คือ โรงเตี๊ยมซึ่งเป็นร้านอาหารตั้งอยู่ริมถนนและเปิดบริการห้องพักบริเวณด้านหลัง

“โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 6 เดือน และปรับ 5,000 บาท แต่ศาลลดโทษจำคุก ให้รอลงอาญา 1 ปี เนื่องจากให้การสารภาพ และยังลดค่าปรับให้อีกกึ่งหนึ่ง จึงเสียค่าปรับ 2,500 บาท แต่ให้บริวารออกจากพื้นที่ ซึ่งจำเลยอุทธรณ์แต่ศาลพิพากษายืน ขณะนี้กรมป่าไม้กำลังรอหนังสือสำคัญแสดงว่าคำพิพากษาถึงที่สุดจากอัยการ จากนั้นกรมป่าไม้โดยสำนักฯ ที่ 4 พิษณุโลก จะยื่นให้อัยการบังคับคดีเพื่อให้จำเลยปฏิบัติตามคำสั่งศาล”นายมานพ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีรีสอร์ทที่มีคดีเดียวกันกับโรงเตี๊ยม คือ 1.ไร่เติมรัก 2.ริมธาร รีสอร์ท 3.ช้างทอง 4.สมบุญ รีสอร์ท 5.กาแฟแม่ล้ำ 6.เอนกาย@ทับเบิก 7.ยูงทอง 8.ทับเบิกวิลเลจ9.ภูทองคำ จะต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกัน เช่นเดียวกับรีสอร์ทที่เหลือ 27 ราย ก็ต้องถูกดำเนินคดีไม่มียกเว้นเช่นกัน

ด้าน นายสมบูรณ์ ศรีธรรม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วังบาล ได้ส่งหนังสือเชิญผู้ประกอบการ เจ้าของรีสอร์ท และร้านค้าบนภูทับเบิกเข้าร่วมประชุมแก้ไขปัญหาในการดำเนินกิจการบ้านพัก ร้านค้า เพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นในวันพุธที่ 14 ต.ค.นี้ เวลา 13.00 น. ณ คริสตจักรภูทับเบิก ต.วังบาล นอกจากนี้ ทาง อบต.วังบาล ยังได้ส่งหนังสือเชิญไปยังหน่วยราชการที่่เกี่่ยวข้องมาร่วมประชุมแก้ไขปัญหาดังกล่าว