ชมรมโพธิคยา เดินหน้าโครงการ พุทธพลิกสุวรรณภูมิ
ชมรมโพธิคยา 980 เดินหน้าโครงการพุทธพลิกสุวรรณภูมิ หลังจากประกาศโครงการเมื่อปีที่แล้ว (2557)
โดย...สมาน สุดโต
ชมรมโพธิคยา 980 เดินหน้าโครงการพุทธพลิกสุวรรณภูมิ หลังจากประกาศโครงการเมื่อปีที่แล้ว (2557) ปีนี้นิมนต์พระเถระชั้นนำจาก 5 ประเทศ (เพิ่มประเทศเมียนมา) มาให้ทัศนะ และกำหนดแนวทางเผยแพร่ร่วมกับพระธรรมทูต 140 รูป ที่ผ่านการอบรมจากดินแดนพุทธภูมิ เพื่อเชื่อมโยงชาวพุทธในสุวรรณภูมิ ที่โรงแรมโซฟีเทล อังกอร์ โภคีธรา กอล์ฟ & สปา รีสอร์ท จังหวัดเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อวันที่ 9-13 ก.ย. 2558
พุทธต้องนำ AEC
สุภชัย วีระภุชงค์ เลขานุการชมรมโพธิคยา 980 กล่าวเปิดประเด็นในการเสวนาภายใต้หัวข้อ ปฏิเวธธรรมนำสุวรรณภูมิเรืองรอง ว่า กลุ่มประเทศเออีซีจะเปิดตัว (ปลายปี 2558) แต่อาจไม่สำเร็จ ถ้าหากประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาไม่ร่วมมือ ชมรมโพธิคยา 980 จึงพยายามให้ประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาจับมือกัน พลิกมิจฉาทิฐิ เป็นสัมมาทิฐิ ให้ลดละการบูชาเงินตรา วัตถุนิยม มายกย่องคุณธรรม โดยปฏิบัติตามพุทธปณิธาน ที่ตรัสแก่พระอานนท์พุทธอนุชา ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน ว่า อานนท์ พระธรรมและวินัย จะเป็นศาสดาแทนตัวเราในอนาคต
พระมหาเถระ 5 ประเทศ ได้แก่ พระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง สะมะเลิก ประธานศูนย์กลางองค์การพระพุทธศาสนสัมพันธ์ลาว พระมหาวิมลธรรม วัดราชโบ เสียมราฐ ในนามสมเด็จพระอัครมหาสังฆราชาธิบดี เทพวงศ์ แห่งกัมพูชา พระธรรมวรนายก ในนามสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ประเทศไทย ท่านติช เทียน ตั๋ม รองประธานบริหารสภาคณะสงฆ์เวียดนาม (VBS) และพระคุณเจ้าเอนทปาละ สังฆนายก ผู้ทรงจำพระไตรปิฎกรูปที่ 11 แห่งสหภาพเมียนมา ทุกรูปกล่าวเปิดประชุมสรุปได้ดังนี้
โอวาทพระมหาเถระ 5 ประเทศ
พระอาจารย์ใหญ่ ดร.มหาผ่อง วัย 101 ปี ให้ข้อคิดว่า อย่าทำแค่การอบรมเสวนา แต่ขอให้ปฏิบัติด้วยจึงจะเข้าสู่เป้าหมายได้ไวๆ พร้อมทั้งพระและฆราวาสให้ละสังโยชน์ 3 ในเบื้องต้นให้ได้ จึงจะเป็นพุทธบริษัทผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพระพุทธศาสนา เพราะละสังโยชน์ 3 คือ สักกายทิฐิ (ความเห็นแก่ตัว) วิจิกิจฉา (ความลังเล สงสัย และสีลัพพตปรามาส (การล่วงละเมิดศีลธรรม) ได้จะเป็นอริยบุคคล และการละสังโยชน์ 3 ไม่ยาก สำหรับผู้มีจิตหมั่นเพียร ยึดพุทธภาษิต อัตตา หิ อัตตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งของตน
พระธรรมวรนายก กล่าวในนามคณะสงฆ์ไทย ว่า การประชุมพระธรรมทูต 6 รุ่น เพื่อเดินหน้าโครงการให้พระพุทธศาสนาขยายทั่วสุวรรณภูมิ ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราช (พ.ศ. 270-311) ได้ทรงริเริ่มมาก่อนแล้ว หลังจากสังคายนาครั้งที่ 3 เพื่อกำจัดการแอบแฝง การบิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์ กำจัดอสัทธรรมให้หมดไปแล้วทรงส่งพระธรรมทูตออกเผยแพร่ในดินแดนนี้ และถิ่นอื่นๆ
พระธรรมวรนายก ปราชญ์แผ่นดินในทางพระพุทธศาสนา กล่าวถึงพุทธบริษัท 4 ว่า คือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพระพุทธศาสนา บริษัทจะได้กำไร หรือขาดทุน อยู่ที่ผู้ถือหุ้น หากโกง บริษัทก็เจ๊ง ดังนั้นผู้ถือหุ้นต้องใจซื่อมือสะอาด
ท่านให้ข้อคิดว่า การจะให้บริษัทไปรอดหรือไม่รอด ผู้ถือหุ้นหรือผู้บริหารต้องมีจักขุมา หูไว ตาไว ธุรวา ฉลาดในการทำงาน อย่าทำเหมือนลิงสร้างกระท่อม เป็นการฉลาดแบบโง่ เพราะสร้างแล้วสร้างอีก ทดสอบแล้วทดสอบอีก ในที่สุดฝนตกก็ไม่ได้ใช้ เพราะลิงไปนั่งหลบฝนบนหลังคากระท่อม
ตอนท้ายท่านเตือนพระธรรมทูตว่า ต้องเป็นพระสงฆ์แห่งยุค สวดมนต์ได้ เข้าใจศาสนพิธี ศึกษาดี มีอุชุและสัมมาปฏิบัติ สีลาจารวัตรงดงาม ดังพระอัสสชิ นั่นแล
พระมหาวิมลธรรม วัดราชโบ กรรมการสงฆ์เสียมราฐ กล่าวในนามสมเด็จพระสังฆราชกัมพูชา ว่า พวกเราชาวพุทธมาอยู่ร่วมกันเป็นภราดรภาพ มีทุกข์สุขร่วมกัน ไม่ต้องแยกกัน เพราะเกิดมาเป็นมนุษย์ด้วยกัน มีบรมครูคนเดียวกัน และเกิดมามีชีวิตใต้ร่มเงาสุวรรณภูมิเหมือนกัน เมื่อยังไม่สามารถชี้ชัดว่า สุวรรณภูมิอยู่ตรงไหนให้ถือว่า 5 ประเทศเป็นสุวรรณภูมิก็แล้วกัน
ท่านติช เทียน ตั๋ม หัวหน้าคณะสงฆ์เถรวาทในเวียดนาม ได้กล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาความไม่สงบสุข ไม่มีสันติ ว่า ต้องเคารพความเป็นมนุษย์ และต้องปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน คือ ไตรสิกขา ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา
ท่านเอนทปาละ สังฆนายกเมียนมา ผู้ทรงจำพระไตรปิฎก กล่าวผ่านล่ามว่า ท่านเป็นผู้ปกครองวัดต่างๆ ในเขตย่างกุ้งและปริมณฑล ประมาณ 5,000 วัด จากวัดทั่วเมียนมา 6.1 หมื่นวัด รวมพระสงฆ์ทั่วประเทศประมาณ 551,077 รูป
ส่วนการปกครองสงฆ์ในเมียนมา มีวินัยและกฎหมาย 3 ภาคส่วน ที่ต้องยึดและปฏิบัติคือ 1.วินัย 227 ข้อไม่รวมอภิสมาจารอีกนับหมื่นข้อ 2.กฎหมายคณะสงฆ์ สังฆราชเป็นผู้ออกกฎ มีรวมกัน 600 กว่ามาตรา (ผู้แปลว่าเป็นเล่ม) และ 3.พระสงฆ์ก็เหมือนพลเมืองทั่วไปต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง
ท่านพูดถึงการเผยแพร่ว่า เมื่ออุปสมบทต้องทำหน้าที่ ศึกษาพระปริยัติ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ และปฏิเวธ ถ้าหากต้องการปฏิบัติภาวนา ก็มีสำนักภาวนารองรับถึง 625 สำนัก โดยมีสำนักศาสนยิกตา มหาสีสยาดอว์ เป็นหลัก
ในการปฏิบัติภาวนานั้นเป็นการปฏิบัติตามพระพุทธดำรัสที่ฝากไว้ หากไม่ปฏิบัติก็ไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด แต่สำหรับตัวท่านเองบอกว่าเป็นลูกพระพุทธเจ้าต้องปฏิบัติ และทรงวินัย เพราะถ้าวินัยหาย ศีลหาย ศาสนาพุทธก็หาย
สุดท้ายท่านให้กำลังใจชมรมโพธิคยา 980 และบอกว่า ถ้าจะก้าวต่อไปต้องมีจิตใจที่มุ่งมั่น และเข้มแข็ง


