248 อดีตสส.ส่อรอดถอดถอน
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 14 ส.ค. จะมีการลงมติว่าจะถอดถอนอดีต สส. จำนวน 248 คน ที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 เกี่ยวกับที่ของ สว.โดยมิชอบหรือไม่ ล่าสุดเสียงถอดถอนคงมีไม่เพียงพอ เพราะใช้เสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 หรือคิดเป็น 132 คน จากสมาชิก สนช.ทั้งหมด 220 คน
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 14 ส.ค. จะมีการลงมติว่าจะถอดถอนอดีต สส. จำนวน 248 คน ที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 เกี่ยวกับที่ของ สว.โดยมิชอบหรือไม่ ล่าสุดเสียงถอดถอนคงมีไม่เพียงพอ เพราะใช้เสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 หรือคิดเป็น 132 คน จากสมาชิก สนช.ทั้งหมด 220 คน
“ทิศทางของการลงมติในวันที่ 14 ส.ค. มีแนวโน้มว่า สนช.จะมีเสียงไม่พอสำหรับการถอดถอนอดีต สส. คาดว่าจะมีสมาชิก สนช.ลงมติถอดถอนมากที่สุด 100 คน แต่มีสมาชิก สนช.ลงมติไม่ถอดถอนไม่น้อยกว่า 120 คน” แหล่งข่าว สนช. เปิดเผย
สาเหตุที่สมาชิก สนช.ส่วนใหญ่เตรียมลงมติไม่ถอดถอนมีเหตุผล 2 ประการ ได้แก่ 1.ความผิดของอดีต สส.ไม่ชัดเจน เนื่องจากเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา ประกอบกับก่อนหน้านี้ สนช.ลงมติไม่ถอดถอนอดีต สว. จำนวน 39 คน ในกรณีเดียวกันมาแล้ว สนช.ก็ควรดำเนินการให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
2.ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาในทางการเมือง โดยมองผลของคดีถอดถอนจะมีผลต่อการเมืองในอนาคต หลังจากคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้ผู้ที่ถูกถอดถอนต้องถูกตัดสิทธิการดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต จึงเห็นว่าในเมื่อความผิดของอดีต สส. 248 คน ไม่มีความชัดเจนเพียงพอเมื่อเทียบกับคดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร อดีตนายกฯ สนช.ก็ไม่ควรลงมติถอดถอน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเงื่อนไขในทางการเมือง
ขณะที่วันที่ 13 ส.ค. ในการประชุม สนช. ตามขั้นตอนแถลงปิดสำนวนคดีด้วยวาจา นายวิชัย วิวิตเสวี ตัวแทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ย้ำว่า 248 อดีต สส.กระทำหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันว่า มีการกระทำการสับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญ มีหลักฐานเกิดขึ้นจริงในวันที่ 27 มี.ค. 2556
ด้าน นายสามารถ แก้วมีชัย ตัวแทนอดีต สส. 248 คน แถลงปิดสำนวนคดีด้วยวาจา ย้ำว่า ไม่มีเจตนาใดแอบแฝงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา สว.ทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย


