posttoday

รางวัลนำจับ สำหรับข้าราชการ

05 กรกฎาคม 2553

....สมผล ตระกูลรุ่ง

รางวัลนำจับ เป็นนิติกรรมประเภทหนึ่ง เป็นการให้คำมั่นที่จะให้เงินจำนวนหนึ่ง เพื่อการกระตุ้นให้บุคคลใดก็ได้ กระทำการสิ่งหนึ่งสิ่งใดตามที่กำหนดเป็นเงื่อนไขไว้ ถ้าเป็นการตั้งรางวัลที่ต้องการจับโจรผู้ร้ายหรือนักโทษ เรามักจะเรียกว่า เป็นการตั้งค่าหัว

รางวัลนำจับ จึงใช้กับผู้กระทำความผิดที่จะต้องมีการจับกุมตามกฎหมาย โดยรางวัลนำจับ ถูกนำมาใช้เป็นรางวัลสำหรับข้าราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินๆ ทองๆ ซึ่งหลักๆ ก็คือ การจัดเก็บภาษี ซึ่งหน่วยงานการจัดเก็บภาษีหลักของประเทศมี 3 กรม สังกัดกระทรวงการคลัง คือ กรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต

ใน 3 กรมดังกล่าวมีเพียงกรมสรรพากรเท่านั้นที่ไม่มีรางวัลนำจับ ส่วนกรมศุลกากรนั้น รางวัลนำจับเป็นที่หมายปองของเจ้าหน้าที่ และน่าจะถือว่า เป็นกรมที่มีรางวัลนำจับสูงที่สุดมากกว่าสรรพสามิต อันเนื่องมาจากเป็นช่องทางผ่านของสินค้าต่างๆ

เหตุผลที่มีการให้รางวัลนำจับ ผมเดาเอาเองว่า น่าจะมาจากสภาพการทำงานที่แตกต่างกัน การทำงานของกรมศุลกากรกับกรมสรรพสามิต มีความเสี่ยงที่จะต้องไปตามจับกุมผู้ลักลอบขนสินค้า ซึ่งอาจเป็นผู้กว้างขวางหรือผู้ทรงอิทธิพล ที่มีอาวุธคุ้มกันการลักลอบหนีภาษี ส่วนกรมสรรพากรนั้นไม่ต้องไปไล่จับจึงมักจะไม่มีอันตรายเหมือนกระบวนการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี และเจ้าหน้าที่สรรพากร ท่านมีอำนาจเรียกผู้เสียภาษีมาพบที่กรมได้อยู่แล้ว

รางวัลนำจับที่ให้กับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร มีกำหนดไว้ตามมาตรา 102 ตรี พระราชบัญญัติศุลกากร มีอัตรารางวัลนำจับตั้งแต่ 10% สูงสุดถึง 55% แล้วแต่ฐานความผิด จะเห็นได้ว่าอัตราสูงสุดนั้น เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติได้รับเงินมากกว่ารัฐเสียอีก

นอกจากกฎหมายศุลกากรแล้วยังมีพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ. 2489 ซึ่งให้ใช้กับความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายศุลกากร กฎหมายการสำรวจและกักกันข้าว และกฎหมายการป้องกันการค้ากำไรเกินควร ซึ่งกำหนดรางวัลไว้ 1530%

การให้รางวัลนำจับกับเจ้าหน้าที่ เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมานานแล้วว่า ควรจะมีการจ่ายหรือไม่

ฝ่ายที่เห็นว่าควรจ่าย ให้เหตุผลว่าเป็นการให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติที่ต้องเสี่ยงชีวิต จะได้ทุ่มเทการทำงาน เพราะได้ผลตอบแทนโดยตรงจากการทำงาน ส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ก็จะให้เหตุผลว่าเป็นข้าราชการได้รับเงินเดือนอยู่แล้ว การที่จับกุมผู้กระทำผิดแล้วรัฐได้เงิน ผู้ปฏิบัติก็ได้รับการพิจารณาความดีความชอบอยู่แล้ว การให้รางวัลนำจับ จะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในระหว่างข้าราชการด้วยกันเองที่ใครๆ ก็อยากจะอยู่ฝ่ายที่ได้รางวัล รางวัลนำจับจึงควรให้กับประชาชนที่ชี้เบาะแสหรือช่วยเหลือทางราชการ

ปัญหานี้ได้ถูกหยิบยกขึ้นโดยรัฐบาลชุดนี้ ที่จะให้ลดเงินรางวัลนำจับเพื่อเป็นการลดการทุจริต

เชื่อเถอะครับว่า การทุจริตไม่ได้มาจากรางวัลนำจับ แม้จะลดเงินรางวัลหรือยกเลิกไปเลย ก็ไม่ได้ช่วยให้ข้าราชการหยุดการทุจริต

ข้อดีของรางวัลนำจับที่ผมเห็นคือ ทำให้ข้าราชการไม่กลัวนักการเมือง ในยุคผู้นำหน้าเหลี่ยมมีความพยายามที่จะสั่งให้กรมศุลกากรยุติคดีการจับกุมสินค้าเหล็ก ซึ่งมีวงเงินภาษีสูงถึงหลักพันหลักหมื่นล้านบาท ในคดีนั้นกรมศุลกากรไม่ยอมทำตามลมสั่งที่สั่งการด้วยวาจา ไม่กล้าที่ออกเป็นใบสั่ง เพราะจะกลายเป็นผู้ทำผิดกฎหมายเสียเอง ในคดีนั้นทำให้รัฐได้เงินภาษีไปจำนวนมาก และข้าราชการผู้เกี่ยวข้องก็ได้รับส่วนแบ่งไล่ตามลำดับตำแหน่งกันถ้วนหน้า

ส่วนข้อเสียนั้น การให้รางวัลนำจับ คือ การให้สินบนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งตามมาตรา 102 ตรี เองก็ใช้คำว่า เงินสินบนและรางวัลเมื่อมีสินบนที่จะได้ ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่กรมศุลกากรจนถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษที่จะเป็นผู้รับคดีไม้ต่อให้คดีใหญ่ๆ จึงทำทุกอย่างเพื่อจะให้ได้สินบน

จนบางครั้งทำให้ประชาชนจะเดือดร้อน เพราะบางคดีไม่น่าจะเป็นความผิด แต่เมื่อมีสินบนจำนวนมากล่อใจ ข้าราชการผู้เกี่ยวข้องจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สินบนที่สามารถคำนวณได้ล่วงหน้าแล้ว ความเดือดร้อนจึงเกิดขึ้นกับประชาชนผู้บริสุทธิ์

ข้าราชการของเรามีอำนาจเป็นเครื่องมือ และมักใช้อำนาจที่มีเพื่อประโยชน์ของตนเองมากกว่าประโยชน์ของทางราชการ

จะมีข้าราชการผู้มีรถประจำตำแหน่งสักกี่คน ที่ใช้รถประจำตำแหน่งในราชการจริงๆ เท่านั้น

ถ้าข้าราชการไทยเราจะมีความกระตือรือร้นทำงาน เพราะมีเงินสินบนให้ระบบราชการของเราจะอยู่ได้อย่างไร ศักดิ์ศรีของข้าราชการไทยอยู่ที่ไหน ถ้ายังทำงานเพื่อสินบน (ที่ถูกต้องตามกฎหมาย) ยังไม่นับรวมเงินสินบนล่างที่จ่ายกันใต้โต๊ะไม่มีใบเสร็จ

การที่ประชาชนตัดสินใจเข้ารับราชการ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า เงินเดือนน้อย เพราะรู้ว่าเมื่อเป็นข้าราชการแล้ว ยากที่ใครจะมาไล่ออก สวัสดิการการรักษาพยาบาล การศึกษาเล่าเรียนของบุตร รัฐก็จัดให้ แถมพอเกษียณอายุราชการ รัฐก็ยังเลี้ยงดูต่อไปอีกด้วยเงินบำเหน็จบำนาญ

การเป็นข้าราชการไทย จึงมีความมั่นคงในชีวิตอยู่แล้ว ซึ่งต่างกับเอกชนที่ต้องเตรียมตัวเตรียมเงินไว้ใช้สำหรับตอนแก่ ผู้ที่รับราชการจึงไม่จำเป็นต้องขวนขวายที่จะหาเงินไว้ใช้ตอนแก่

คนเขาจึงเรียกการทำงานของข้าราชการไทยว่า เช้าชามเย็นชาม

ฉะนั้น การสินบนหรือให้รางวัลพิเศษในการทำงาน จึงน่าจะนำมาพิจารณาทบทวนกันใหม่ว่า เหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบันและเป็นธรรมแล้วหรือไม่

อย่าให้บางคนเขาโจมตีได้ว่า มีสองมาตรฐานในระบบราชการ

ข่าวล่าสุด

Samsung ผนึก Google Gemini เผยโฉมครัว AI สุดล้ำที่ CES 2026