posttoday

ญาดา พฤกษชาติคุณ เด็กไทยตัวเล็กๆ สู่จุดยืนเวทีระดับโลก

07 มิถุนายน 2558

ด้วยวัยเพียง 17 ปี ญาดา พฤกษชาติคุณ กลายเป็นคนที่สปอตไลต์จากทั่วโลกส่องมาทาบที่เธอ

โดย...สุภชาติ เล็บนาค

ด้วยวัยเพียง 17 ปี ญาดา พฤกษชาติคุณ กลายเป็นคนที่สปอตไลต์จากทั่วโลกส่องมาทาบที่เธอ ด้วยความสามารถที่โดดเด่นหลากหลาย รวมถึงความคิดที่อยากสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคม ทำให้วัยรุ่นธรรมดาคนนี้ได้รับความชื่นชมจากคนทั่วโลก

ปัจจุบันญาดาศึกษาอยู่ในคณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และคณะเศรษฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยเวลส์เลย์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ และเตรียมไปฝึกงานที่บริษัทโซเชียลเน็ตเวิร์กชื่อดังของโลก “Facebook” ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

หากเล่าประวัติผิวเผิน ญาดาก็เหมือนเด็กหญิงทั่วไป เธอเกิดและเติบโตที่ จ.เชียงใหม่ เรียนประถมศึกษาที่ Chiang Mai International School แต่หลังจากอายุ 12 เธอก็เริ่มเข้าเรียนที่ THINK Global School ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ ที่ย้ายประเทศไปเรื่อยๆ ทุกภูมิภาคทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเอกวาดอร์ จีน ภูฏาน อาร์เจนตินา ฯลฯ โดยปักหลักอยู่ประเทศละ 2 เดือน

มอตโตของ THINK Global School ก็คือ “อย่าสอนให้ฉันคิดอะไร” แต่สอนฉันว่า “คิดอย่างไร” แทน หรือ “Don’t teach me what to think, teach me how to think.” โดยวิธีการรับเข้านั้นถือว่ายากมาก เพราะรับเด็กนักเรียนเพียงปีละไม่กี่คน ส่วนคนที่โรงเรียนคัดเลือกเข้าไป ก็จะต้องมีทัศนคติที่ดี มีความรู้-ประสบการณ์ที่กว้างขวาง เพื่อผลิตเด็กหนุ่มสาวที่มีความรู้กว้างขวาง พูดได้หลายภาษา ให้เป็น “พลเมืองของโลก” ที่แท้จริง

“ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะสูง แต่เราก็ได้ทุนการศึกษาครอบคลุมเกือบทั้งหมด ซึ่งก็ทำให้เราเห็นโลกกว้างขึ้น และทำให้เราได้มองอะไรไกลกว่าอยู่แค่ในเมืองไทย” ญาดา เล่าให้ฟัง

เธอบอกอีกว่า การที่ได้เรียนกับโรงเรียนนี้ ทำให้เมื่อตอนอายุ 15 ปี เธอได้เดินทางไปมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก และยังทำให้ได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง ได้เรียนรู้ภาษาที่หลากหลาย รวมถึงได้พบกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ จากทั่วโลก ซึ่งหากอยู่เมืองไทยก็คงไม่ได้รับโอกาสมากขนาดนี้

หลังจากนั้น 3 ปี ญาดาก็ได้ก่อตั้งโครงการ Light Footsteps Initiative โดยเริ่มจากการที่ได้เห็นเด็กจำนวนมากที่อยู่ในโรงพยาบาลอย่างสิ้นหวัง ไร้แรงบันดาลใจ และถูกมองว่าไม่มีตัวตน ญาดาจึงอยากทำโครงการเพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็กในโรงพยาบาลทั่ว จ.เชียงใหม่ โดยมีที่ปรึกษาคนสำคัญคือพ่อและแม่ ที่เป็นหมอด้วยกันทั้งคู่ (รศ.นพ.ไพรัตน์-ศ.พญ.จุฬาภรณ์ พฤกษชาติคุณ)

“เราไม่เห็นเลยว่า คนเหล่านี้จะสามารถใช้ชีวิตอยู่นอกโรงพยาบาลอย่างไร เพราะเด็กที่อยู่ในโรงพยาบาลไม่มีกำลังใจ ร่างกายก็ป่วยตลอดเวลา สิ่งเดียวที่เราจะสามารถให้ได้คือ ให้สิ่งที่เรียกว่า ‘ความหวัง’ กับพวกเขา”

นอกจากนี้ เธอยังมีความสามารถเป็นนักเต้นตัวยง โดยเข้าโรงเรียนสอนเต้นมาตั้งแต่ยังเด็ก จึงคิดว่าน่าจะอาศัยการเต้นเป็นจุดเปลี่ยนให้กับเด็กที่อาจถูกมองว่ามี “ปมด้อย” ได้สามารถฉายแววอย่างภาคภูมิในสังคม และอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ โดยไม่ต้องถูกตีตราจากสังคมภายนอกอีกต่อไป

“ก่อนหน้านี้เคยสอนเด็กคนหนึ่งซึ่งป่วยเป็นมะเร็ง หลังจากเราสอนเสร็จก็พบว่าเธอมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก และหลังจากนั้นเราก็พบว่ามีเด็กที่ป่วยในโรงพยาบาลอีกเป็นจำนวนมากเลยที่อยากให้เราไปสอนเต้นให้เขา ถึงกับบอกว่า ขอให้เราได้เรียน ได้เต้น ได้แสดงออกอะไรบ้างเถอะ ดีกว่าปล่อยให้นอนรอความตายเฉยๆ ในฐานะที่เรียนเต้นมา 8 ปี เราก็ไม่เคยรู้ว่าการเต้นจะสามารถเปลี่ยนชีวิต และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ในโรงพยาบาลได้ขนาดนั้น” ญาดา เล่าให้ฟัง

“ด้วยเหตุนี้ โครงการเราจึงเริ่มต้นจากตั้งเป้าหมายไว้ว่า อยากให้เด็กที่อยู่ในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะป่วยด้วยโรคไหน ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง หรือโรคร้ายแรงอื่นๆ ก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ ซึ่งกิจกรรมที่เราจัดให้มีตั้งแต่การให้เต้นออกกำลังกาย หรือเต้นแบบเป็นรูปแบบจริงจัง หรือกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ ตั้งแต่ร้องเพลง เล่นดนตรี โดยมีอาสาสมัครจากทั่วโลกเข้ามาร่วมทำกิจกรรมกับเด็กๆ เพื่อเพิ่มพลัง และลบข้อจำกัดให้พวกเขาเลิกกลัว เลิกประหม่า และเลิกรู้สึกว่าความเจ็บป่วยที่ตัวเองมีเป็นจุดด้อย” ญาดา เล่าให้ฟัง

ญาดาเชื่อว่า เด็กป่วยในโรงพยาบาล โดยเฉพาะเด็กที่เข้ารับการรักษาด้วยโรคเรื้อรัง หรือโรคระยะสุดท้าย จะสามารถยืนอยู่ด้วยใจรักและความฝันก่อนที่จะเจ็บป่วย เพราะฉะนั้น จึงหวังจะจุดประกายความฝันที่มีก่อนจะป่วยมาเป็นพลังในการสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ และเอาชนะโรคภัยไข้เจ็บเหล่านี้

“เด็กที่ป่วยสามารถมีความสุขได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงสภาพของร่างกาย เด็กเหล่านี้อาจมีร่างกายหรือจิตใจที่ไม่สมบูรณ์ แต่เขาไม่ใช่สัตว์ประหลาด เรากำลังทำให้เขารู้ว่าตัวเองมีศักยภาพ และมีพลังไม่ต่างจากคนอื่นๆ ที่อยู่นอกโรงพยาบาล”

“Light Footsteps จะเน้นเพื่อเป็นผู้ให้คำปรึกษา เราจะไม่บอกว่าเขาต้องเต้นแบบนี้ ต้องร้องแบบนี้ หรือต้องเล่นกีตาร์แบบนี้ แต่เราจะให้เขาเต้นในแบบของเขา ตามความสามารถของเขา ให้เขาเชื่อมั่นในตัวเองมากที่สุด และให้เขาตระหนักได้ว่า แม้เขาจะเจ็บป่วย เขาก็สามารถที่จะมีพลังทำในสิ่งที่เขารักได้ และสามารถส่งพลังต่อไปยังคนอื่นได้อีกเรื่อยๆ” ญาดา บอกกับเรา

เธอบอกอีกว่า ล่าสุดมีอาสาสมัครจากทั้งมหาวิทยาลัยคอร์เนล รวมถึงมหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูวส์ รวมถึงจากสเปน แคนาดา สหรัฐ อังกฤษ มากกว่า 10 คน เข้ามาเป็นสตาฟฟ์ของ Light Footsteps Initiative ในช่วงปิดเทอม โดยได้ขยายสาขามากถึง 4 แห่งทั่วเชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างวางแผนที่จะเดินหน้าโครงการนี้ เพื่อไปยังภูมิภาคอื่นต่อไป

“ตอนนี้เราเริ่มจากเล็กๆ แต่พอเรามีอาสาสมัครจากหลายๆ ที่ทั่วโลก เราก็คาดหวังว่าเขาอาจจะนำความคิดเราไปต่อยอด หรือเราอาจจะขยายไปทำที่อื่นทั่วประเทศไทย เพราะวันนี้เราเพิ่งเริ่มได้แค่ 2 ปีเท่านั้น ยังมีช่องว่างให้ขยายโครงการออกไปได้อีกมาก” ญาดา บอกกับเรา

ถามว่าแหล่งทุนมาจากไหน ญาดา บอกว่า ทุนก้อนที่สำคัญที่สุดคือ มาจากการระดมทุนแบบ Crowdfunding โดยนำโครงการและผลงานมาแสดงในเว็บไซต์ เพื่อให้เกิดกระแสปากต่อปากต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้เห็นความทะเยอทะยานในการทำโครงการ รวมถึงขยายเครือข่ายผ่านเพื่อนๆ ทั่วโลกที่เคยเรียนด้วยกัน รวมถึงเข้าร่วมโครงการต่างๆ ให้เห็นความสำคัญว่าโครงการนี้จะเปลี่ยนชีวิตของเด็กที่มีปมด้อยได้มาก

“เราคิดว่าเราก็เป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่ง แต่เราอาจจะมีโอกาสที่ดีกว่าคนอื่น จึงอยากจะหาช่องทางในการแชร์สิ่งที่เราเคยเห็น เคยเจอมา นำมาแลกเปลี่ยน ให้วัยรุ่นคนอื่นได้เห็น แล้วให้เขารู้สึกว่าตัวเขาเองก็มีพลังที่จะสามารถเปลี่ยนอะไรบางอย่างได้ หรือทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เหมือนกัน” ญาดา ระบุถึงความตั้งใจอย่างแรงกล้า

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมบอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บอลวันนี้ วันเสาร์ที่ 20 ธ.ค. 68