หนุ่มวัย41ตกตึกรพ.เสียชีวิต
ฉะเชิงเทรา-หนุ่มใหญ่วัย41ป่วยวัณโรคตกตึกรพ.พุทธโสธรเสียชีวิต ตร.คาดอาจกระโดดลงมาจากดาดฟ้า เนื่องจากทุกชั้นมีอุปกรณ์ป้องกัน
ฉะเชิงเทรา-หนุ่มใหญ่วัย41ป่วยวัณโรคตกตึกรพ.พุทธโสธรเสียชีวิต ตร.คาดอาจกระโดดลงมาจากดาดฟ้า เนื่องจากทุกชั้นมีอุปกรณ์ป้องกัน
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ร.ต.ท.หญิง ปภัสรา ปลั่งสมบัติ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รุดไปตรวจสอบเหตุผู้ป่วยวัย 41 ปี ตกลงมาจากตึกอายุรกรรมชาย เสียชีวิตที่ด้านข้างอาคารสิริโสธรารักษ์ ในโรงพยาบาลพุทธโสธร
ร.ต.ท.หญิง ปภัสรา กล่าวว่า ศพผู้เสียชีวิตมีร่องรอยยุบบริเวณหน้าอก จากการตกลงมากระแทกที่พื้น ส่วนรายละเอียด และบาดแผลตามร่างกายนั้นยังต้องรอให้ทางแพทย์ได้ทำการชันสูตรอีกครั้ง ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วพบว่าอาคารผู้ป่วยมีรั้วตาข่ายป้องกันที่ริมระเบียงทุกชั้น ซึ่งอาจจะกระโดดลงมาจากดาดฟ้าชั้น 10 ก็เป็นได้ เพราะที่ด้านบนไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน
นายเกียรติ อิสสะอาด พี่ชายผู้ตายให้การว่า แพทย์ระบุว่าน้องชายป่วยวัณโรคขึ้นสมอง และมีอาการปอดติดเชื้อ จึงได้ให้นอนพักรักษาตัวอยู่ภายในตึกอายุรกรรมชายดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ป่วยได้เกิดมีอาการจิตหลอน บอกว่ามีคนมาแอบถ่ายรูป และเกรงว่า จะถูกคนเข้ามาทำร้าย กระทั่งพบว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้จึงทราบว่าผู้ตายกระโดดตึกเสียชีวิตแล้ว
ด้าน นพ.วีระศักดิ์ อนุตรอังกูร ผอ.รพ.พุทธโสธร (เมืองฉะเชิงเทรา) กล่าวว่า คนไข้รายนี้ได้เข้ามาทำการรักษาตัวด้วยอาการไอเป็นเลือด และเหนื่อย เมื่อวันที่ 19 พ.ค.58 ที่ผ่านมา โดยแพทย์ได้ทำการวินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดอักเสพ หลังทำการรักษาด้วยการให้ยาฆ่าเชื้อและน้ำเกลือ อาการจึงดีขึ้นตามลำดับในทุกวัน โดยมีญาติผู้เป็นน้องชายมาเฝ้าไข้อยู่ด้วย และไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไร
มาในวันนี้คนไข้ได้หายตัวไปเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.เศษ จากนั้นจึงได้มีการตามหาตัวว่าคนไข้หายไปไหน จนมาพบว่าคนไข้ได้ลงมานอนกองอยู่ที่พื้นในสนามหญ้าข้างๆ ตึกแล้ว จึงสงสัยว่าน่าจะกระโดดตึกลงมาหรือไม่ หลังจากทีมแพทย์และพยาบาลเข้าไปดูจึงพบว่าได้เสียชีวิตแล้วในจุดเกิดเหตุ เมื่อทางแพทย์นิติเวชได้เข้าไปตรวจสอบจึงพบว่าสาเหตุของการเสียชีวิตมาจากปอดฉีกมีเลือดออกในปอดรุนแรง จึงได้ส่งศพไปยังห้องดับจิต
จากการที่คนไข้ได้เข้ามาอยู่กับทาง รพ.เมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมานั้น ก็ไม่ได้พบว่ามีอาการผิดปกติอะไรที่ต้องเฝ้าระวัง โดยปกติในระบบของทาง รพ.หากพบว่าคนไข้ที่มีอาการสุ่มเสี่ยงว่าจะมีปัญหาเรื่องทางจิต หรือมีอาการซึมเศร้า มีความเครียด ก็จะให้ญาติดูแลอย่างใกล้ชิดทุกราย และต้องประเมินเรื่องความเครียดทุกราย หากพบรายใดไม่น่าไว้วางใจก็จะจัดโซนให้มาอยู่ใกล้ๆ กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อจะดูแลได้อย่างใกล้ชิด แต่คนไข้รายนี้ก็ไม่ได้แสดงอาการเหล่านั้นมาก่อน ส่วนอาการป่วยนั้นก็ดีขึ้นในทุกๆวัน ที่จะสามารถหายกลับมาเป็นปกติได้
ขณะนี้จึงยังไม่รู้ว่า สาเหตุนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะตึกผู้ป่วยก็มีลูกกรงป้องกันการปีนป่ายหรือเล็ดรอดออกมาได้อยู่แล้ว ทาง รพ.เองก็แปลกใจเช่นเดียวกันว่าคนไข้นั้นตกลงมาจากทางไหน จึงสันนิษฐานได้ว่า มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่คนไข้จะสามารถหนีออกไปได้คือทางหนีไฟ เพื่อขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าแล้วกระโดดลงมา ขณะที่สาเหตุก็ไม่น่าจะใช่จากอาการของโรคที่ป่วย เพราะทั้ง 2 โรคที่ผู้ป่วยเป็นอยู่นั้นก็สามารถรักษาให้หายได้
หลังจากทีมแพทย์และพยาบาลได้เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับทางญาติแล้ว ทางญาติก็เข้าใจและไม่ได้ติดใจถึงสาเหตุของการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น และได้เตรียมเคลื่อนย้ายนำศพไปบำเพ็ญกุศลยังที่วัดเสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ตามประเพณีต่อไป


