ลานปาล์มใต้ทยอยปิดกิจการ
ลานเทปาล์มน้ำมัน รายย่อยเมืองคอนทยอยปิดกิจการหนีขาดทุน หลังราคาตกต่ำต่อเนื่องรับซื้อแล้วไม่มีที่ส่งขาย
ลานเทปาล์มน้ำมัน รายย่อยเมืองคอนทยอยปิดกิจการหนีขาดทุน หลังราคาตกต่ำต่อเนื่องรับซื้อแล้วไม่มีที่ส่งขาย
นายจำลอง ชูแก้ว เจ้าของลานเทพิมานปาล์ม ตั้งอยู่หมู่ 15 ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการลานเทปาล์มน้ำมันรายย่อยทยอยปิดกิจการหนีปัญหาการขาดทุน หลังจากราคาตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ราคาเหลืออยู่ที่กิโลกรัมละ 2.70 บาท และรับซื้อแล้วไม่มีที่ส่งขายเพราะโรงสกัดน้ำมันทั้งใน จ.นครศรีธรรมราช และกระบี่ไม่รับซื้อ
นายจำลอง กล่าวอีกว่า ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก จนเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันในหลายจังหวัดภาคใต้ มีแผนเรียกร้องให้รัฐเร่งออกมาแก้ปัญหา
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรส่วนใหญ่เชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้ปาล์มน้ำมันราคาตกต่ำนั้นมาจากการนำเข้าปาล์มน้ำมันเข้ามาในประเทศ ขณะเดียวกันผลผลิตออกมามากจนล้นตลาด ส่วนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มส่วนใหญ่ไม่รับซื้อจึงระบายปาล์มน้ำมันดิบออกไปไม่ได้
“หากรัฐบาลไม่เข้ามาแก้ปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว เชื่อว่ากลุ่มเกษตรกรทุกจังหวัดในภาคใต้จะออกมาเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคาตกต่ำสุดขีด” นายจำลอง กล่าว
ขณะที่แกนนำกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์ม จ.สุราษฎร์ธานี ได้ประชุมกับตัวแทนภาครัฐและผู้ประกอบการโรงงานหีบปาล์มน้ำมันขอให้รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 4.20 บาท ซึ่งโรงงานจะรับซื้อในราคาดังกล่าว แต่มีข้อแม้ให้พาณิชย์จังหวัดนำเสนอต่อรัฐบาลจะต้องไปกดดันหรือไปขับราคาน้ำมันซีพีโอ โรงงานกลั่น หรือโรงงานดิฟาย อยู่ที่ราคา 28 บาท ถึงจะรับซื้อกิโลกรัมละ 4.20 บาท เปอร์เซ็นต์น้ำมันอยู่ที่ 17% และหากเปอร์เซ็นต์สูงกว่านี้ทางโรงงานจะรับซื้อในราคาที่สูงขึ้น
ด้าน นายลือชา อุ่นยวง ประธานสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่มีการตอบสนองตามที่เกษตรกรเรียกร้อง เกษตรกรชาวสวนปาล์มจะออกมารวมตัวเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลต่อไป
นายลือชา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ราคาปาล์มน้ำมันที่โรงงานรับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 2.80 บาท ส่วนราคาต้นทุนอยู่ที่กิโลกรัมละ 3.38 บาท ส่งผลให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก


