posttoday

จุดเปลี่ยนของนักล่า สู่ผู้อนุรักษ์ "กว๊านพะเยา"

21 เมษายน 2558

ถ้าเราไม่หยุดล่า ปลาก็จะหายไปกับน้ำมือเราที่หาปลาโดยไม่มีสำนึก หยุดล่าจึงมีปลาให้ได้หากิน

โดย...สายอรุณ ปินะดวง

การยอมรับความผิดพลาดพร้อมกับเริ่มต้นเพื่อแก้ไข ฟังดูง่าย แต่ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายตามนั้น อย่างน้อยจุดเริ่มต้นที่จะยอมรับว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นคือความผิด ก็หาใช่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ยิ่งสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้น นำมาซึ่งรายได้จำนวนมากด้วยแล้ว คงน้อยนักที่จะมีใครใส่ใจถึงความผิด

“ปลาที่ผมได้มามากจากการช็อตในกว๊านพะเยา ทำให้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ชาวประมงด้วยกันตกใจ แต่ไม่มีใครกล้าทำเหมือนผม เทียบกับการหาปลาแบบปกติด้วยสุ่ม แห ได้ครั้งละ 70-80 บาท แต่เราได้ถึง 2,000 บาท” สมบูรณ์ บัวเทศน์ ชายวัย 64 ปี แห่งบ้านสันหนองเหนียว ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา เล่าถึงอดีตซึ่งเคยเป็นนักล่าแห่งกว๊านพะเยา ซึ่งใช้วิธีการผิดกฎหมายสร้างรายได้ให้อย่างเป็นกอบเป็นกำมานานหลายปี

แม้รายได้จากการทำผิดจะดี แต่ความกังวลถึงอนาคตก็ก่อตัวขึ้น

“สิ่งที่ทำให้ผมฉุกคิด คือ ปลาที่ได้ครั้งละมากๆ ถ้าไม่รักษาวันหนึ่งก็จะหายไปและไม่มีให้เราได้ล่ามันอีก ดังนั้นผมคิดในใจอย่างหนักกับตัวเอง” ลุงสมบูรณ์ เล่าถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ซึ่งทำให้อดีตนักล่ากลายมาเป็นนักอนุรักษ์แห่งกว๊านพะเยา

จากการติดตามพ่อไปหาปลาในกว๊านพะเยาตั้งแต่อายุได้ 7 ขวบ เด็กชายรู้สึกดีใจทุกครั้งที่ได้ปลา แม้ไม่รู้ว่าปลาที่จับมาได้นั้นสร้างรายได้กี่มากน้อย แต่รู้ว่าได้ปลาแล้วมีความสุข ยิ่งได้มากยิ่งชอบ

ถึงช่วงวัยหนุ่มทำงานสังกัดแขวงการทาง ครั้งหนึ่งไปประจำที่ จ.กำแพงเพชร ด้วยความเป็นคนชอบหาปลา เพื่อนรุ่นน้องที่ทำงานด้วยกันชวนไปจับปลาในแม่น้ำปิง ด้วยวิธีการใหม่ นั่นคือ “ช็อร์ตด้วยไฟฟ้า”

“เห็นน้องเขาช็อร์ตครั้งหนึ่งปลาลอยขึ้นมาตายเป็นกองครั้งละมากๆ ก็ชอบ ได้วิชาช็อร์ตปลาครั้งนั้นก็นำติดตัวมาใช้ที่กว๊านพะเยา ประมาณปี 2541-2542 ครั้งแรกที่ทำ ขายปลาได้ถึง 2,000 บาท เพราะปลามากจึงได้เงินมาก เทียบกับการหาปลาแบบปกติของชาวประมงกว๊านพะเยาในอดีต ได้ครั้งละ 70-80 บาท จากนั้นมาผมและหลานชายจึงใช้วิธีช็อร์ตปลา ล่าปลาจากกว๊านพะเยาทุกวัน” ลุงสมบูรณ์ เล่าถึงอดีตที่ความเป็นนักล่า

เมื่อความเป็นนักล่าของลุงสมบูรณ์หนักข้อขึ้น ร้อนถึงผู้ใหญ่บ้านที่ต้องหาวิธีจัดการเพื่อมิให้กลายเป็นแบบอย่างของคนหาปลารายอื่นๆ

“ผมนับถือผู้ใหญ่ฯ เสงี่ยมก๋าแก้ว มาก ได้มาหาผมถึงบ้านขอให้หยุดช็อร์ตปลา เพราะเป็นกติกาของหมู่บ้านและผลเสียต่อระบบนิเวศกว๊านพะเยา เรื่องกฎเกณฑ์สำหรับผมมันไม่ตื่นเต้นเท่ากับการได้ปลาครั้งละมากๆ แต่สิ่งที่ทำให้ผมฉุกคิดได้คือ ปลาที่ได้ครั้งละมากๆ ถ้าไม่รักษาวันหนึ่งก็จะหายไป หลังจากผู้ใหญ่กลับไปผมคิดในใจอย่างหนักกับตัวเอง ถ้าปลาหายไปเราจะไปหาปลาได้ที่ไหนอีก ลูกหลานจะอยู่ได้อย่างไร ถ้าเราหาปลากันแบบทำลายล้าง”

แม้จะเริ่ม “ฉุกคิด” แต่ก็ใช่เป็นจุดจบของนักล่า เพียงแต่การฉุกคิดนั้น นำพาให้ลุงสมบูรณ์ยอมเข้าร่วมประชุมหมู่บ้าน

“ในที่ประชุมสายตาทุกคู่ต่างจับจ้องผมอย่างไม่กะพริบตา ทุกคนคิดว่าคนที่เคยทำไม่ดีมาตลอด จะชวนมาทำการอนุรักษ์ปลาคงเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดของการประชุมมีมติยกมือทั้งหมดให้ผมเป็นประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านกว๊านพะเยาบ้านสันหนองเหนียว ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนถูกมัดมือชก” ลุงสมบูรณ์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นนักอนุรักษ์และเป็นจุดจบของนักช็อร์ตปลา

“ถ้าเราไม่หยุดล่า ปลาก็จะหายไปกับน้ำมือเราที่หาปลาโดยไม่มีสำนึก หยุดล่าจึงมีปลาให้ได้หากิน” ชายวัย 64 ปี ที่ยังแข็งแรงกล่าวด้วยถ้อยคำที่หนักแน่นจริงจัง จากประสบการณ์การทำประมงในกว๊านพะเยามาตลอดชีวิต

การเอาจริงเรื่องการอนุรักษ์ปลาและกว๊านพะเยา ขยายขอบเขตถึงการอนุรักษ์นกที่มาหากินในกว๊านพะเยาด้วย ครั้งหนึ่งมีข้าราชการใช้อาวุธปืนยิงนกในกว๊านพะเยา กลุ่มประมงพื้นบ้านจึงรวมตัวกันแจ้งความเอาผิดกับข้าราชการคนนั้น เป็นเรื่องราวใหญ่โต คดีถึงชั้นศาล

“พวกเราทำเพราะมีเจตนาปกป้องกว๊านพะเยา คิดให้รอบคอบอย่างเป็นระบบ หากเราล่าปลาอย่างไม่อนุรักษ์ ปลาก็จะหายไปเรื่อยๆ ไม่มีนกมาหาอาหาร กว๊านพะเยาจะไม่มีความสวยงามเป็นที่ท่องเที่ยวได้อีก เพราะระบบนิเวศเสียไปกับการทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์” ลุงสมบูรณ์ บอกถึงเจตนารมณ์ของการทำงานอนุรักษ์ ซึ่งวันนี้อดีตนักล่าปลามือฉกาจ ได้ทำให้บทบาทของกลุ่มอนุรักษ์แห่งกว๊านพะเยาเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปถึงการรักษาระบบนิเวศแหล่งอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวคู่เมืองพะเยา

ข่าวล่าสุด

Adobe Firefly รวมพลังโมเดลสร้างวีดีโอ สู่การใช้งาน Runway