บึ้มสมุย-เผา‘โค-อ๊อป’ ไล่ล่าคนร้ายป่วนใต้
เหตุคาร์บอมบ์และเพลิงไหม้พร้อมกันสองแห่ง ใน จ.สุราษฎร์ธานี ที่สหกรณ์สุราษฎร์ธานี (โค-อ๊อป)
โดย...กองบรรณาธิการโพสต์ทูเดย์
เหตุคาร์บอมบ์และเพลิงไหม้พร้อมกันสองแห่ง ใน จ.สุราษฎร์ธานี ที่สหกรณ์สุราษฎร์ธานี (โค-อ๊อป) และ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ตั้งอยู่ อ.เกาะสมุย เมื่อกลางดึกวันที่ 10 เม.ย. ทำให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงกลับมาตึงเครียด ประชาชนตื่นตระหนกในบรรยากาศความสุขช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์
ถึงแม้ทางการจะไม่กล้าฟันธงว่า ทั้งสองเหตุการณ์เชื่อมโยงกันหรือไม่ และไม่น่าใช่ฝีมือผู้ก่อเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่ขยายพื้นที่การก่อเหตุ หรือต้องการตอบโต้ที่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการผิดพลาด กรณีวิสามัญ 4 ศพ ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี จนแม่ทัพภาค 4 ต้องกล่าวขอโทษหลังพบว่านักศึกษาทั้งสี่ไม่ใช่แนวร่วมผู้ก่อการ
อย่างไรก็ตาม มีร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้องจากพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะเหตุคาร์บอมบ์ที่ห้างเซ็นทรัลฯ สมุย ที่พบว่า รถที่ใช้คาร์บอมบ์ถูกขโมยมาจาก อบต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของตัวอาคาร เมื่อคนร้ายขับรถกระบะนำระเบิดแสวงเครื่องพร้อมด้วยถังแก๊สไปจอดแล้วหลบหนี จุดระเบิดโดยโทรศัพท์มือถือคล้ายการก่อการร้ายในชายแดนใต้ แรงระเบิดทำให้รถบริเวณใกล้เคียงพังกว่า 10 คัน มีผู้บาดเจ็บ 8 ราย
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผูู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รุดไปที่เกิดเหตุ ตั้งปม 3 ประเด็น คือ 1.เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2.พนักงานโดนไล่ออกและเกิดความโกรธแค้น และ3.ประเด็นการเมือง
ขณะที่เหตุเพลิงไหม้อาคารร้านค้าของสหกรณ์โคออปสุราษฎร์ธานี จากกล้องวงจรปิดพบว่า มีประกายไฟเกิดขึ้นก่อนระเบิด 2 ครั้ง และครั้งที่ 3 ระเบิดได้ลุกท่วมตัวอาคารทั้งหลังอย่างรุนแรง แม้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่มูลค่าความเสียหายสูงถึง 50 ล้านบาท
ท่าทีจากรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งทางการเมือง โดยโยงไปยังเหตุระเบิดที่ศาลอาญาและสยามพารากอนเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งสามารถติดตามจับกุมคนร้ายเป็นขบวนการสนับสนุนกลุ่มเสื้อแดง
ที่สำคัญ ก่อนเกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่สมุยไม่กี่ชั่วโมง ปรากฏภาพในโลกออนไลน์ กลายเป็นหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตามล่า ชายชื่อ “เอ็มเสื้อแดง” มาสอบสวน หลังโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า “คืนนี้จัดหนักที่สุราษฎร์ ใครจะร่วมมือกับกูบ้าง เอามันให้_บหายไปเลย” พร้อมกับแปะข้อความ “ไม่เอารัฐประหาร ไม่เอา ม.44 เกลียด พวกสลิ่ม” ล่าสุดทหารคุมตัวได้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ที่บางกรวย จ.นนทบุรี
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกรัฐบาล ระบุว่า คนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะพบความเชื่อมโยงบางประการ
ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เจ้าหน้าที่มีเบาะแสของผู้ลงมือก่อเหตุแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอตรวจสอบรวมถึงการเชื่อมต่อโซเชียลมีเดีย แต่ดูจากศักยภาพไม่ใช่คนในพื้นที่แน่
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้ลงมือก่อเหตุจะเป็นกลุ่มจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ หรือเป็นคนร้ายที่มีความชำนาญการประกอบระเบิดในรถยนต์ที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนใต้ และได้รับการจ้างวาน เช่นที่เคยเกิดเหตุลอบวางระเบิดเมื่อปี 2556 บริเวณปากซอยรามคำแหง
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า แม้รถกระบะที่คนร้ายนำมาก่อเหตุมาจากการขโมยที่ จ.ยะลา แต่เชื่อว่าคนร้ายไม่น่าขยายความรุนแรงนอกพื้นที่
แหล่งข่าวจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) วิเคราะห์ว่า ปัจจัยที่เชื่อว่าไม่น่าเกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุจาก 3 จังหวัดภาคใต้ มี 2 ประการ คือ 1.กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังไม่มีขีดความสามารถมากพอที่จะออกมาปฏิบัติการนอกพื้นที่ อย่างมากที่สุดน่าจะอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 2.ยังไม่มีเหตุจูงใจในเชิงอุดมการณ์มากพอที่จะออกมาก่อความไม่สงบนอกพื้นที่
ขณะที่ ถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. ยืนยันเช่นกัน ไม่น่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบจากภาคใต้ เพราะอยู่นอกพื้นที่เป้าหมาย และไม่อยู่ในวัตถุประสงค์ของกลุ่มนี้ บางคนมองว่ากลุ่มนี้รับจ้างจากกลุ่มการเมือง เหมือนการวางระเบิดที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง
“คสช.ได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม เนื่องจากเป็นผู้สูญเสียผลประโยชน์ ทั้งอำนาจทางการเมือง จึงมีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่มนี้จะโต้ตอบเพื่อเป็นการดิสเครดิตการบริหารบ้านเมืองของ คสช. ซึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นฐานการเมืองเดิมของพระสุเทพ ปภากโร ด้วย” ถาวร วิเคราะห์
มุมมองจากนักวิชาการที่ทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เห็นว่า เป็นไปได้ทั้งสองทาง ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางการเมือง หรือการตอบโต้จากกลุ่มผู้ก่อการในภาคใต้
“ที่ผ่านมา การก่อความรุนแรงมีความพยายามขยายพื้นที่การก่อเหตุ เช่น ที่ภูเก็ตเมื่อปี 2556 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ”
ศรีสมภพ กล่าวว่า ถ้าเหตุระเบิดเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดภาคใต้จริง คงเป็นเพราะคนเหล่านึ้คิดว่าเกาะสมุยเป็นจุดอ่อนที่ไม่มีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ต่างจากในพื้นที่ชายแดนใต้
เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง ระบุว่า ขณะนี้เหตุการณ์ในภาคใต้ยังไม่สงบและถูกปราบปรามอย่างหนัก จึงมีความเป็นไปได้ที่ขบวนการก่อการร้ายอาจย้ายมาก่อเหตุที่ จ.สุราษฎร์ธานี หรืออาจเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ จากกรณีวิสามัญที่ทุ่งยางแดง
นิมุ มะกาเจ อดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามยะลา ระบุว่า ไม่อยากเชื่อมโยงไปถึงพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ เพราะเหตุการณ์แต่ละครั้งมีความสลับซับซ้อน อีกทั้งขณะนี้ข้อมูลยังไม่ชัดเจน ซึ่งปัญหาอาจเกิดได้ทั้งการเมือง ธุรกิจ หรือปัญหาส่วนตัว
หลักฐาน เบาะแสต่างๆ มีมากพอที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะล่าตัวคนร้ายได้ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่จับภาพ รถกระบะที่ลงจากเรือเฟอร์รี่ เข้ามายังเกาะสมุยได้ว่า สุดท้ายแล้วจะเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมือง หรือเป็นการตอบโต้จากผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดภาคใต้
อีกไม่นานมีคำตอบ...


