กอ.รมน.คาดคาร์บอมบ์สมุย"โจรใต้"รับจ้างป่วน
โฆษก กอ.รมน.ระบุ ผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์ เป็นผู้ก่อความไม่สงบภาคใต้ แต่รับจ้างวาน จากผู้มีวัตถุประสงค์อื่น มาก่อเหตุ ยกเทียบ เหตุระเบิดหน้ารามฯปี 56
โฆษก กอ.รมน.ระบุ ผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์ เป็นผู้ก่อความไม่สงบภาคใต้ แต่รับจ้างวาน จากผู้มีวัตถุประสงค์อื่น มาก่อเหตุ ยกเทียบ เหตุระเบิดหน้ารามฯปี 56
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยว่า เหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถยนต์ชั้นล่างของห้างเซ็นทรัลพลาซ่า สาขาเกาะสมุย อ.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.58 เวลาประมาณ 22.35 น. มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง ต่อมาพบว่าเป็นการระเบิดจากรถยนต์ประกอบระเบิด สภาพรถเสียหายทั้งคัน
จากการตรวจสอบเป็นรถยนต์กระบะมาสด้า ไฟเตอร์ 4 ประตู ยกสูง 4×4 สีน้ำตาล ทะเบียน กข 4892 ยะลา ซึ่งก่อนหน้านี้วันที่ 31 มี.ค.58 คนร้ายจำนวน 7-8 คน ก่อเหตุปล้นชิงรถยนต์กระบะจากพนักงานขับรถ อบต.ละแอ ต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา ก่อนที่จะสวมทะเบียนปลอมและนำไปก่อเหตุที่เกาะสมุยดังกล่าว
ในเวลาใกล้เคียงกันได้เกิดเหตุเพลิงไหม้คลังสินค้าสหกรณ์สุราษฎรธานีจำกัด (โคออป) ต.หนองไทร อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จุดเกิดเหตุเป็นที่เก็บสินค้าสหกรณ์ติดกับศูนย์อาหาร ทำให้ที่เก็บสินค้าและศูนย์อาหารพังเสียหายเกือบทั้งหมด ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากเป็นเวลาปิดให้บริการแล้ว
ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่สันนิษฐานเบื้องต้นว่าอาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือสาเหตุอื่น
การตรวจสอบข้อมูลด้านการข่าวในสายงาน กอ.รมน. เบื้องต้นพบว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ที่มีเจตนาจะขยายพื้นที่ก่อเหตุรุนแรงเกินกว่าพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง
"แต่มีความเป็นไปได้ในกรณีผู้ลงมือก่อเหตุครั้งนี้เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ หรือเป็นคนร้ายที่มีความชำนาญการประกอบระเบิดในรถยนต์ที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่จักงหวัดชายแดนใต้ และได้รับการจ้างวานจากผู้จ้างวานที่มีวัตถุประสงค์อื่น ดังเช่นที่เคยเกิดเหตุลอบวางระเบิดเมื่อวันที่ 26 พ.ค.56 บริเวณปากซอยรามคำแหง 43/1 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ แต่ไม่ว่ามูลเหตุจูงใจหลักจะมาจากสาเหตุใด หรือหวังผลต่อสถานการณ์เช่นใด กอ.รมน. ขอประณามกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ กระทบต่อความสงบสุขของประชาชน และภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ "โฆษก กอ.รมน. กล่าว
ซึ่งคนร้ายในครั้งนี้เมื่อถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้อาจถูกตั้งข้อหาการก่อการร้ายหรือข้อหาร่วมกันฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันทำและมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น ฯลฯ ต้องระวางโทษสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด ต่อกรณีเหตุระเบิดดังกล่าว ขณะนี้ยังไม่มีการสรุปสาเหตุของเหตุการณ์แต่อย่างใด


