เปิด12สมาชิกสปช. ตั้งลูกเมียรับเงินเดือนสภา
หลังสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถูกขุดคุ้ยเรื่องการตั้งเครือญาติลูกเมียมากินเงินเดือนของรัฐสภา
โดย...เจษฎา จี้สละ
หลังสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถูกขุดคุ้ยเรื่องการตั้งเครือญาติลูกเมียมากินเงินเดือนของรัฐสภา ในตำแหน่งผู้ช่วย ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ชำนาญการประจำสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กว่า 40 คน จนในที่สุดที่ประชุม สนช.มีมติให้เครือญาติลาออกทันที
ทว่า กระแสเรื่องตรวจสอบเรื่องลูกเมียนั้น ยังพุ่งเป้าไปตรวจสอบ สปช.อีก แต่ในขณะนั้นมีการเก็บหลักฐานไว้ไม่ยอมเปิดเผย กระทั่งสื่อมวลชนและภาคประชาชนต้องยื่นขอข้อมูลทางพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2540 จนในที่สุดจึงต้องมีการเปิดเผยข้อมูลออกมา
ทั้งนี้ ปรากฏว่ามีสมาชิก สปช. 12 คน ที่แต่งตั้งคนสกุลเดียวกันเข้ารับตำแหน่ง ผู้ช่วย ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ชำนาญการ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.กิตติภณ ทุ่งกลาง กรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปสังคม ชุมชน เด็กเยาวชน สตรี ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส และเลขาธิการ สร.กฟภ. ตั้ง ภัสสร ทุ่งกลาง เป็นผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว รับเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท 2.กูไชหม๊ะวันชาฟีหน๊ะ มนูญทวี กมธ.ปฏิรูปแรงงาน ตั้ง อาบีดีน มนูญทวี เป็นผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว รับเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท 3.จรัส สุทธิกุลบุตร ประธานที่ปรึกษาคณะอนุ กมธ.การมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน จ.พะเยา ตั้ง ณรงค์ชัย สุทธิกุลบุตร เป็นผู้ชำนาญการประจำตัว รับเงินเดือน 2 หมื่นบาท
4.เจริญศักดิ์ ศาลากิจ กมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ตั้ง พิสุทธิ์ ศาลากิจ เป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว รับเงินเดือน 2.4 หมื่นบาท 5.ทิวา การกระสัง กมธ.ปฏิรูปการกีฬา ตั้ง สกนธ์ การกระสัง เป็นผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว รับเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท 6.ธีรศักดิ์ พานิชวิทย์ กมธ.ปฏิรูปการปกครองท้องถิ่น ตั้ง ณัฐชนน พานิชวิทย์ เป็นผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว รับเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท
7.พล.อ.อ.มนัส รูปขจร กมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ตั้ง วัชรเดช รูปขจร เป็น ผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว รับเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท 8.วันชัย สอนศิริ กมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ตั้ง ฉัตรทิพย์ สอนศิริ เป็นผู้ชำนาญการประจำตัว รับเงินเดือน 2 หมื่นบาท 9.สยุมพร ลิ่มไทย กมธ.ปฏิรูปการเกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์การท่องเที่ยวและการบริการ ตั้ง อิศร์ ลิ่มไทย เป็นผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว รับเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท
10.สุวัช สิงหพันธุ์ กมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ตั้ง พ.ต.หญิง ธัญนุช สิงหพันธุ์ เป็นผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว รับเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท 11.อุทัย สอนหลักทรัพย์ กมธ.ปฏิรูปการเกษตรฯ ตั้ง พนิดา สอนหลักทรัพย์ เป็นผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว รับเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท และ 12.อุบล หลิมสกุล กมธ.ปฏิรูปสังคมฯ ตั้ง พนมดา หลิมสกุล เป็นผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว รับเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท
วันชัย หนึ่งในสมาชิก สปช. ที่มีรายชื่ออยู่ในตารางดังกล่าว ยอมรับว่า ได้ตั้งลูกสาวเป็นผู้ชำนาญการประจำตัวจริง รับเงินเดือน 2 หมื่นบาท แต่ตั้งมาทำงาน ไม่ใช่รับเงินกินเปล่า ซึ่งหากที่ประชุมคณะ กมธ.กิจการ สปช. (วิป สปช.) มีมติอย่างไรก็พร้อมที่จะทำตาม
เช่นเดียวกับ สยุมพร ที่ยอมรับว่า ได้แต่งตั้งให้บุตรชายในตำแหน่งผู้ช่วยดำเนินการ เพราะมีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าว ไม่ต่างจากเลขาประจำตัว ที่จะอำนวยความสะดวกในเรื่องเอกสารและการเดินทาง ความจริงเรื่องนี้จะต้องพิจารณาเป็นรายกรณี เพราะการผิดจริยธรรมน่าจะเป็นการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งมากกว่า เช่น การแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ชำนาญการ ซึ่ง 2 ตำแหน่งนี้ได้แต่งตั้งให้อดีตผู้ว่าฯ และอดีตรองผู้ว่าฯ จ.ระยอง เข้าดำรงตำแหน่ง จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่ง
“ถ้าตั้งบุตร ภรรยา เข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญ จะต้องชี้แจงให้ละเอียด ถ้ามีความรู้ความสามารถจริง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก สำหรับกรณีนี้หาก สปช.เห็นว่าผิดจริยธรรมจนต้องลาออกจากตำแหน่ง ผมก็พร้อมยอมรับมติ แต่ในเบื้องต้นจะให้ลูกชายลาออก เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย” สยุมพร ระบุ
ขณะที่ “สังศิต พิริยะรังสรรค์” กมธ.ปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สปช. กล่าวว่า การแต่งตั้งบุตร ภรรยา หรือเครือญาติ เป็นเรื่องไม่เหมาะสม จึงขอร้องให้สมาชิก สปช. ดำเนินการให้เกิดความโปร่งใส โดยให้เครือญาติลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว อย่างไรก็ตามพฤติกรรมดังกล่าวยังไม่ถือว่าผิดจริยธรรมหรือผิดกฎหมาย แต่หากในอนาคตยึดนิยามการทุจริตคอร์รัปชั่นขององค์การสหประชาชาติ จะถือเป็นการผิดจริยธรรมทันที นอกจากนั้นยังมีแนวโน้มที่การปรับปรุง พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตจะมีการบัญญัติไม่ให้แต่งตั้งบุคคลที่เป็นเครือญาติเข้าดำรงตำแหน่งต่างๆ เมื่อถึงเวลานั้นจะถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
“เรื่องนี้ สนช. (สภานิติบัญญัติแห่งชาติ) ได้ทำตัวอย่างเป็นบรรทัดฐานแล้ว เราก็ควรปฏิบัติตาม เพื่อความโปร่งใส ไม่ใช่ความผิด แต่จะทำให้สังคมตระหนักในการแต่งตั้งเครือญาติเข้ามาดำรงตำแหน่งต่างๆ ที่มีบทบาททางการเมืองมากขึ้น” สังศิต ระบุ
ด้าน “อรรถสิทธิ์ พานแก้ว” อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกว่า ไม่ติดใจกับการแต่งตั้งเครือญาติเข้าทำหน้าที่ผู้ช่วยดำเนินการ แต่มีข้อกังขาว่า ทำไม สปช.จะต้องมีผู้ช่วยดำเนินการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ มากถึง 5 คน เพราะไม่ได้มีความจำเป็นขนาดนั้น นอกจากนั้นยังมีประกาศของ สปช.เองในช่วงเริ่มต้นดำเนินงาน ว่าผู้ช่วย 1 ใน 5 จะต้องเป็นผู้ที่เคยสมัครรับคัดเลือกเป็น สปช. ประเด็นนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าสังเกตยิ่งกว่า
งานนี้ต้องรอดูว่า สปช.เหล่านี้จะแสดงสปิริตยอมให้เครือญาติลาออกเช่นเดียวกับ สนช.หรือไม่ น่าสนใจยิ่ง


