posttoday

เด้งผู้การโคราชไม่สนองนโยบายสตช.

12 มีนาคม 2558

นครราชสีมา- ผบช.ภ.3 สั่งย้ายผู้การโคราชเหตุตั้งด่านไม่สนองโนบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติหวังส่วนแบ่งค่าปรับจราจรมากเกินไป

นครราชสีมา- ผบช.ภ.3 สั่งย้ายผู้การโคราชเหตุตั้งด่านไม่สนองโนบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติหวังส่วนแบ่งค่าปรับจราจรมากเกินไป

เมื่อวันที่ 12 มี.ค.พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้มีคำสั่งย้ายด่วนให้ พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และพ.ต.อ.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 โดยขาดจากตำแหน่งและหน้าที่ทางสังกัดเดิม และให้ พ.ต.อ. วณัฐ อรรถกวิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา รักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และให้พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา รักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เนื่องจากตรวจพบว่า ในพื้นที่มีการตั้งด่านตรวจไม่ถูกต้องตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)

พล.ต.ท. พิสัณห์ กล่าาวว่า สาเหตุของการสั่งย้ายผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เนื่องจากตรวจพบว่า มีการตั้งด่านตรวจไม่ถูกต้องตามนโยบาย และการตั้งด่านตรวจไม่ได้แสดงเห็นถึงความห่วงใยประชาชน แต่แสดงออกถึงการไล่ล่าส่วนแบ่งจากใบสั่งค่าปรับจราจรมากเกินไป ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 10 มี.ค.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเองบริเวณถนนสายราชสีมา-โชคชัย ต.หัวทะเล อำเภอเมืองนครราชสีมา และพบว่ามีการตั้งด่านตรวจไม่มีชื่อนายตำรวจที่รับผิดชอบ และไม่มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อให้เห็นเด่นชัด อีกทั้งด่านตรวจไม่ได้เน้นตรวจด้านความมั่นคง แต่เน้นไล่ล่าจับกุมประชาชนเพื่อส่วนแบ่งค่าปรับจากกฎหมายจราจร ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และไม่ปฏิบัติตามนโยบาย

นอกจากนี้ยังได้มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.กัมปนาท ฐาตุจิรางค์กูล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปักธงชัย จ.นครราชสีมา ให้ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ โดยไม่มีกำหนดเช่นกัน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย เนื่องจากไปตรวจเยี่ยมที่โรงพักแล้วไม่อยู่ โทรศัพท์ไปสอบถามแล้วอ้างว่าอยู่ที่่กรุงเทพ แต่จากการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์กลับพบว่า อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตรวจสอบพบเดินทางไปที่นั่นบ่อยๆ โดยไม่ได้ทำงานอยู่โรงพัก และใช้เวลาราชการในการเดินทางไปที่นั่น ซึ่ง สภ.ปักธงชัยเป็นโรงพักใหญ่ แต่หัวหน้าโรงพักไม่สนใจในการทำงานให้ประชาชน ตนจึงมีคำสั่งย้าย และตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว

ข่าวล่าสุด

มติสมช.ย้ำจบปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องคุยกันระดับทวิภาคี