แถลงเปิดคดีถอดถอน38สว.ชี้มติปปช.ไม่ชอบ
สนช. แถลงเปิดสำนวนดคีถอดถอน 38 สว. กรณีลงชื่อแก้ไขรธน. "กฤช" แจงคนแรกชี้มติ ป.ป.ช. ไม่ชอบ
สนช. แถลงเปิดสำนวนดคีถอดถอน 38 สว. กรณีลงชื่อแก้ไขรธน. "กฤช" แจงคนแรกชี้มติ ป.ป.ช. ไม่ชอบ
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้แถลงเปิดสำนวนคดีถอดถอนอดีต สว. 38 คน กรณีร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของ สว. โดย นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อที่ประชุม สนช. ว่า อดีต สว. 38 คน ถูกชี้มูลความผิดใน 4 กรณี ประกอบด้วย กรณีที่ 1 ร่วมลงชื่อเสนอญัตติร่างรัฐธรรมนูญและลงมติในวาระที่ 3 กรณีที่ 2 ร่วมลงชื่อเสนอญัตติร่างรัฐธรรมนูญและลงมติในวาระ 1- 3 กรณีที่ 3 ร่วมลงมือเสนอญัตติร่างรัฐธรรมนูญและลงมติในวาระ 1 และวาระ 3 กรณีที่ 4 ร่วมลงชื่อเสนอญัตติร่างรัฐธรรมนูญและลงมติในวาระ 1 และวาระ 2
นายกฤช อาทิตย์แก้ว ผู้ถูกกล่าวหาคนที่ 1 ชี้แจงว่า ประเด็นแรก คือ การลงชื่อของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ สส. พรรคประชาธิปัตย์ อาจไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์ มาตรา 61 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ป.ป.ช. ที่กำหนดให้ผู้ร้องให้มีการถอดถอนจะต้องมีการลงชื่อ พฤติกรรมของผู้ถูกร้อง การกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ และพยานหลักฐานที่เพียงพอต่อการวินิจฉัยของ ป.ป.ช ซึ่งสอดคล้องกับข้อบังคับการประชุมของที่ประชุม สนช. ข้อ 164 แต่เมื่อพิจารณาจากการลงชื่อของผู้ร้อง กลับพบว่าไม่ได้มีองค์ประกอบครบถ้วนตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย ป.ป.ช. และข้อบังคับการประชุม พบเพียงการลงชื่อของผู้ร้องเท่านั้น กอปรกับขนาดของตัวอักษรในการลงชื่อในเอกสารต่างๆ ของผู้ร้อง เช่น การลงชื่อของนายอภิสิทธิ์ มีขนาดไม่เท่ากัน
ประเด็นที่ 2 คือ รายงานสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ที่ลงมติชี้มูลความผิดของอดีต สว. 38 คน มิชอบ เพราะมีการลงชื่อของนายภักดี โภธิศิริ ที่พ้นจากการเป็นกรรมการ ป.ป.ช. แล้ว แต่ยังพบว่ามีการลงชื่อในการไต่สวนและลงมติของกรรมการ ป.ป.ช. ฉะนั้นการที่ สนช. รับสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. จึงไม่ชอบตั้งแต่ต้น นอกจากนั้นแล้วยังพบว่ามีการลงชื่อของ นางสุภา ปิยะจิตติ ที่ร่วมลงชื่อในมติของกรรมการ ป.ป.ช. ในวันที่ 15 พ.ค. พ.ศ. 2557 ขณะที่มีการประกาศชื่อแต่งตั้งนางสุภาในพระราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 9 ก.ย. พ.ศ. 2557 จึงเป็นเหตุผลสนับสนุนว่ามติของกรรมการ ป.ป.ช. มิชอบ
ประการที่ 3 ตามมาตรา 130 แห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ซึ่งระบุว่าถ้อยคำของสมาชิกในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมวุฒิสภา หรือที่ประชุมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการแถลงข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็น หรือออกเสียง ลงคะแนน ย่อมเป็นเอกสิทธิ์โดยเด็ดขาด ไม่สามารนำไปเป็นเหตุในการฟ้องร้องได้ ฉะนั้นกระบวนการในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว จะไม่สามารถนำไปเป็นเหตุฟ้องร้องให้ถอนถอดอดีต สว. 38 คนได้
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังเหลือการอภิปรายของผู้ถูกกล่าวหาอีก 5 คน ก่อนที่จะสิ้นสุดการแถลงเปิดคดีในวันนี้


