ลำตะคองแล้งจัดถนนมิตรภาพสายเก่าโผล่

โคราชแล้งจัด ถนนมิตรภาพสายเก่า โผล่กลางอ่างเก็บน้ำลำตะคอง

ภาพประกอบข่าว

นายฉลองศักดิ์ จันทนะ ประชาชนที่อาศัยอยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา กล่าวว่า สถานการณ์ความแห้งแล้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาที่ได้ขยายเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญๆในจังหวัดนครราชสีมา เหลือไม่ถึง 30% จึงทำให้ที่อ่างเก็บน้ำละตำคอง อ.สีคิ้ว มีถนนโผล่ขึ้นกลางอ่างเก็บน้ำ ที่มีระยะทางยาวกว่า 15 กิโลเมตร ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมานานกว่า 19 ปี หลังจากเมื่อ พ.ศ. 2534 ในช่วงที่จังหวัดนครราชสีมาประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนัก

นายฉลองศักดิ์ กล่าวอีกว่า  ในปีนี้ระดับน้ำที่อ่างเก็บน้ำลำตะคองมีปริมาณน้ำที่ลดน้อยลงกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา  ซึ่งในช่วงเดือนมิ.ย.ของทุกๆปีน้ำจะต้องอยู่ระดับถนนพอดีรถสามารถสัญจรผ่านไปมาได้เพียงบางช่วง  แต่ปีนี้ระดับน้ำกลับห่างจากขอบถนนไปกว่า 500 เมตร ซึ่งถนนที่โผล่ขึ้นมานี้เป็นถนนสายเก่าหรือที่เรียกกันว่ามิตรภาพสายเก่า ที่เป็นเส้นทางออกจากบ้านท่างอย อ.ปากช่อง จนไปถึงบ้านท่าสูบใหญ่ อ.สีคิ้ว 

ด้านนายทรรศนันทน์  เถาหมอ ผู้อำนวยการชำนักชลประทานที่ 8  กล่าวว่า ถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด ก็คือที่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่และถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของชาวจังหวัดนครราชสีมา ที่ทำหน้าที่แจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่ถึง 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สีคิ้ว , อ.สูงเนิน , อ.เมือง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ

โดยปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ขณะนี้ไม่สามารถที่แจกจ่ายเพื่อการเกษตรกรได้อย่างสิ้นเชิง คงเหลือการระบายน้ำเพียงเพื่อหล่อเลี้ยงระบบนิเวศน์และให้ประชาชนได้ใช้ในการอุปโภคบริโภคในระบบประปาเท่านั้น ซึ่งปริมาณน้ำขณะนี้ยังเพียงพอที่จะสามารถปล่อยให้ประชาชนได้อุปโภคและบริโภคไปจนถึงฤดูแล้งปีหน้าอย่างแน่นอน แต่ไม่สามารถที่จะแจกจ่ายให้กับการเกษตรได้

เนื่องจากจะได้รับผลกระทบต่อน้ำอุปโภคบริโภค ซึ่งขณะนี้ทางสำนักชลประทานที่ 8 ได้แจ้งไปยังทางจังหวัดให้ประกาศให้เกษตรกรทุกพื้นที่โดยเฉพาะชาวนาเลื่อนระยะเวลาการเริ่มต้นเพาะปลูกข้าวนาปี จากกลางเดือนมิถุนายน  ไปเป็นกลางเดือนกรกฏาคม เพื่อดูท่าทีปริมาณฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ ว่าจะเพียงพอต่อการทำนาหรือไม่ แต่หากเกษตรกรยังไม่ฟังและดื้อรั้นก็จำเป็นที่จะต้องยอมรับผลที่จะเกิดขึ้น โดยจะไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือการชดเชยใดๆจากทางหน่วยงานภาครัฐทั้งสิ้น