พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวีถูก‘ขังหลวง’
เมื่อผู้เขียนโชว์ภาพพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ให้เพื่อนที่ทำงานชม โดยมิได้บอกว่าเป็นใคร
โดย...สสต.
เมื่อผู้เขียนโชว์ภาพพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ให้เพื่อนที่ทำงานชม โดยมิได้บอกว่าเป็นใคร เพื่อนผู้นั้นบอกโดยไม่ลังเลว่างดงามมาก เมื่อทราบว่าเป็นสตรีสูงศักดิ์ในสมัยรัชกาลที่ 6 ก็มีความเห็นถึงการแต่งกายว่าทันสมัยเหมือนในยุคโมเดิร์น
ภาพพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ผู้เขียนได้มาจากสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ซึ่งเขียนคำบรรยายว่า พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ในรัชกาลที่ 6 ฉายเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2463 หลังจากประกอบพิธีหมั้น และโปรดเกล้าฯ สถาปนาหม่อมเจ้าหญิงวัลลภาเทวี พระธิดากรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ขึ้นเป็น พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี
เมื่อสืบค้นประวัติ ก็พบว่าสตรีสูงศักดิ์ท่านนี้สร้างประวัติศาสตร์หลายประการ จาก ม.จ.หญิง วรรณวิมล วรวรรณ ธิดาในกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ประสูติเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2435 ได้เป็นพระคู่หมั้นในรัชกาลที่ 6 ต่อมาถูกถอนหมั้นและถูกขังสนมหรือขังหลวงในพระบรมมหาราชวัง จนสิ้นรัชกาล เมื่อรัชกาลที่ 7 ทรงครองราชย์ จึงพระราชทานอภัยโทษปลดปล่อยจากขังหลวงให้มาประทับวังข้างนอก ที่เรียกว่าพระกรุณานิวาสน์ ขณะที่มีพระชันษา 33 ชันษา
จากนั้นท่านเป็นเจ้าที่เคร่งครัดและจงรักภักดีต่อพระพุทธศาสนา จนกระทั่งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2494 สิริพระชันษา 58 ปี
ตามประวัตินั้น สตรีสูงศักดิ์ท่านนี้มีหัวก้าวหน้าเป็นนักเขียน ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 เป็นครั้งแรก ในงานประกวดภาพเขียน ณ โรงละครวังพญาไท พระเจ้าอยู่หัวทรงพอพระราชหฤทัย จึงทรงสถาปนา ม.จ.หญิง วรรณวิมล ขึ้นเป็น “พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี” ในฐานะพระคู่หมั้น พร้อมพระราชทานตราปฐมจุลจอมเกล้า โดยมีพระบรมราชโองการตอนหนึ่งว่า
“จะกระทำพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในภายหน้า และเวลานี้จึงได้ทำพระราชพิธีหมั้นแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาหม่อมเจ้าหญิงพระองค์นี้ขึ้นเป็นเป็น พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ตั้งแต่นี้สืบไป”
แต่ต่อมาถูกถอนหมั้น สาเหตุที่ถูกถอนหมั้นมีหลายกระแส เช่น ขณะที่ทรงเป็นพระคู่หมั้น พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี พระชันษา 28 ปี มีความคิดล้ำหน้าสตรีสมัยนั้นทรงเขียนบทความชื่อ “ดำริหญิง” ในหนังสือรายสัปดาห์ มีทำนองเนื้อหาประมาณว่าส่งเสริมให้สตรีมีความเท่าเทียมกับบุรุษ เพราะสตรีก็มีความสามารถ และจะอุ้มชูหรือชักบุรุษให้ต่ำลงก็ทำได้ จนทำให้พระเจ้าอยู่หัวไม่พอพระทัย
และอีกกระแสหนึ่งคาดเดากันว่าไปแสดงพระกริยาไม่เหมาะสมต่อมหาดเล็กคนสนิทของพระเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยารามราฆพ (ม.ล.เฟื้อ พึ่งบุญ) ในขณะที่ประทับรถยนต์พระที่นั่งไปด้วยกัน เมื่อพระคู่หมั้นจะเสด็จลงจากรถ เจ้าพระยารามฯ ยื่นแขนให้พระคู่หมั้นจับตามธรรมเนียมฝรั่ง ทันใดนั้น!...พระวรกัญญาปทานทรงชักพระหัตถ์หนีพร้อมมีรับสั่งตำหนิเจ้าพระยารามฯ ด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมถึงธรรมเนียม เนื่องจากพระองค์เป็นพระราชวงศ์ฝ่ายในไม่สมควรที่ชายสามัญชนจะแตะต้องพระวรกายตามกฎมณเฑียรบาล เมื่อเป็นเช่นนั้นพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงกริ้ว เป็นเหตุให้พระเจ้าอยู่หัวทรงพิโรธ และถูกถอนหมั้นลง เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2464
นอกจากทรงถอนหมั้น ยังให้จองจำที่เรียกว่าขังหลวง โดยมีพระบรมราชโองการให้ท้าวนางจ่าโขลนนำโซ่ตรวนทองคำไปจับกุมพระองค์เจ้าวัลลภาเทวีมายังพระบรมมหาราชวัง แต่ด้วยทรงพระทิฐิมานะ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวีจึงไม่ทรงทูลขอพระราชทานอภัย กับทั้งยังส่งหนังสือ “ศกุนตลา” ที่พระราชทานกลับพร้อมขีดเส้นใต้กลอนบทเหล่านี้
ทรงภพผู้ปิ่นโปรดฦาสาย
พระองค์เองสิไม่มียางอาย พูดง่ายย้อนยอกกรอกคำ
มาหลอกลวงชมเล่นเสียเปล่าเปล่า ทิ้งให้คอยสร้อยเศร้าทุกเช้าค่ำ
เด็ดดอกไม้มาดมชมจนช้ำ ไม่ต้องจดจำนำพา
เหมือนผู้ร้ายย่องเบาเข้าลักทรัพย์ กลัวเขาจับวิ่งปร๋อไม่รอหน้า
จงทรงพระเจริญเถิดราชา ข้าขอลาแต่บัดนี้
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ถูกจำสนม หรือขังหลวง ในพระบรมมหาราชวังตลอดรัชกาล ภายหลังพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 มีพระบรมราชโองการให้ปลดปล่อยพระองค์ออกจากพระบรมมหาราชวังขณะมีพระชันษา 33 ปี และพระราชทานวังที่ประทับนามว่า “พระกรุณานิวาสน์” และสิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการสงบ ในเวลา 06.07 น. ของวันที่ 7 เม.ย. 2494 สิริมีพระชันษา 58 ปี หลังจากเข้าประทับรักษาพระองค์ในโรงพยาบาลศิริราชด้วยโรคพระวักกะพิการ เป็นเวลา 60 วัน


