ฝันร้ายที่ต๋ากู่
โดย...อรุณ จิรชวาลา
โดย...อรุณ จิรชวาลา
ผมหายไป 3 สัปดาห์ สัปดาห์แรกอยู่ที่ประเทศจีน กลับมาไม่กี่วันไปพม่าต่อ ที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟังวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับจีน ส่วนพม่าคงต้องรอโอกาสต่อไป
ไปจีนครั้งนี้ไปกับคณะทัวร์ของคุณดวงดาว สุวรรณรังษี ตากล้องมืออาชีพชื่อดังที่รู้จักกันดีในวงการสื่อ เป้าหมายหลักของเราคืออุทยานจิ่วจ้ายโกว รองลงไปคือธารน้ำแข็งต๋ากู่
ก่อนอื่นต้องขอบรรยายให้ฟังว่า จิ่วจ้ายโกวแปลว่าลำธารแห่งหมู่บ้านทั้งเก้า หมายถึงหมู่บ้านชาวทิเบตที่ตั้งเรียงรายริมลำธารในหุบเขาแห่งนี้ที่อยู่ทางตะวันออกสุดของ
เทือกเขาหิมาลัย
ส่วนต๋ากู่ แปลว่า ธารน้ำแข็งแห่งทิเบต ประกอบด้วยธารน้ำแข็งใหญ่เล็กกว่าสิบแห่งบนยอดเขาสูง โดยช่วงความสูงกิโลเมตรสุดท้ายต้องขึ้นไปด้วยกระเช้าลอยฟ้าที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 4,800 เมตร หลายคนเกิดอาการโรคแพ้ความสูงทั้งๆ กินยาป้องกันไว้แล้วล่วงหน้า
เราเลือกไปกลางฤดูหนาว ซึ่งไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว เพื่อหลีกเลี่ยงการเบียดเสียดยัดเยียดกันในจิ่วจ้ายโกว นอกจากนี้ ตากล้อง มืออาชีพของเราต้องการไปเก็บภาพทะเลสาบกับน้ำตกที่มีหิมะและน้ำแข็งปกคลุม ผมเห็นคุณดวงดาวกับเพื่อนร่วมอาชีพอีกคนถ่ายรูปเก็บไว้นับพันรูป เข้าใจว่าเธอมีแผนจะจัดนิทรรศการภาพถ่ายจากทัวร์จีนในเร็ววันนี้ แฟนคลับของเธอเชิญติดตามผลงานนะครับ
เราบินจากกรุงเทพฯ ไปลงเฉิงตู แล้วนั่งรถทัวร์ขึ้นเขาที่เรียงรายซ้อนกันขึ้นไปเป็นลำดับ ผ่านบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเดือน พ.ค. 2008 ซึ่งสถิติทางการจีนบอกว่ามีคนตาย 7 หมื่นคน แต่ชาวบ้านแถวนั้นบอกตายไปแสนคน
ที่น่าทึ่งคือ แม้จะเห็นซากปรักหักพังหลงเหลืออยู่ไม่น้อย แต่ที่เห็นดาษดื่นมากกว่าคืออาคารพาณิชย์และที่อยู่อาศัย รวมทั้งสาธารณูปโภคต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาใหม่ โดยรัฐบาลจีนยอมทุ่มเทงบประมาณลงไปเป็นจำนวนมหาศาล ส่วนหนึ่งเพื่อเอาใจคนในพื้นที่ ซึ่งจำนวนมากมีเชื้อสายทิเบต
ผมนึกไม่ถึงมาก่อนว่าบนเทือกเขาจะมีชุมชนขนาดใหญ่อย่างเมืองเม่าเซี่ยนและเมืองซงพาน ซึ่งต่างมีประชากรนับแสนคน เม่าเซี่ยนอยู่ก่อนถึงทางแยกไปต๋ากู่ ส่วนซงพานอยู่ก่อนถึงจิ่วจ้ายโกวไม่มากนัก
ระหว่างทางจากเฉิงตูไปเม่าเซี่ยนและจากเม่าเซี่ยนไปต๋ากู่ ปัญหาที่หนักอกที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวต่างถิ่นอย่างพวกเราคือห้องน้ำ ซึ่งนอกจากจะหายากแล้ว ยังอุบาทว์กว่าที่เราคุ้นเคยในประเทศไทยเป็นอันมาก ส่วนที่จิ่วจ้ายโกว สถานการณ์ห้องน้ำดีขึ้น อาจเป็นเพราะชื่อเสียงระดับโลกและมีโรงแรมระดับ 3-5 ดาวเป็นจำนวนมาก
ณ จุดพักเข้าห้องน้ำจุดสุดท้ายก่อนขึ้นกระเช้าลอยฟ้าที่ต๋ากู่ ผมได้เจอกับฝันร้ายที่ยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำมาจนถึงทุกวันนี้
บริเวณดังกล่าวอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 3,000 เมตร แม้ท้องฟ้าจะแจ่มใส แต่อุณหภูมิก็ต่ำกว่าจุดเยือกแข็งหลายองศา สรรพสิ่งโดยรอบถูกปกคลุมด้วยหิมะกับน้ำแข็ง น้ำในก๊อกไม่ไหล เพราะถูกน้ำแข็งอุดตัน
ผมเปิดประตูห้องน้ำแล้วถึงกับผงะ เพราะภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือของเสียจากการขับถ่ายเกือบจะล้นโถ โชคดีที่ความหนาวทำให้กลิ่นไม่โชยรุนแรง
ผมถอยออกมาตั้งหลัก บอกตัวเองว่าทางที่ดีต้องพยายามทำใจให้ได้ ทนปวดต่อไปก็ไม่แน่ว่าสถานการณ์ข้างหน้าจะดีขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็ต้องใช้เวลาอีกหลายวินาทีเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนที่จะเปิดประตูบุกเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง ในใจนึกถึงเพื่อนร่วมคณะอีกหลายคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุภาพสตรีจะน่าเห็นใจ
เป็นพิเศษ
โปรดอย่านึกว่าผมสนุกกับการเอาเรื่องสกปรกมาเล่า ผมมีประเด็นที่อยากจะพูดถึงต่อไป นั่นก็คือ ทันทีที่ตื่นจากฝันร้าย สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในใจคือปั๊มน้ำมัน ปตท. ผมนึกในใจว่าหากเป็นการเดินทางในประเทศไทย เรื่องทำนองนี้จะไม่เกิดขึ้นเป็นอันขาด เพราะเมื่อนึกอยากเข้าห้องน้ำ ก็เพียงบอกคนขับให้แวะปั๊ม
ปั๊มน้ำมันในบ้านเรานอกจากจะมีห้องน้ำที่ค่อนข้างสะอาดและเป็นมาตรฐานแล้ว ส่วนใหญ่ยังมีร้านสะดวกซื้อและร้านกาแฟสดอยู่ในบริเวณปั๊มด้วย หลายแห่งมีศูนย์อาหาร และบางแห่งเป็นช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ในตัวที่มีพร้อมทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และธนาคาร
ความลำบากที่ประสบมาด้วยตัวเองในประเทศจีนทำให้ผมมองเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามีในบ้านเรา ซึ่งผมคงต้องขอยกความดีนี้ให้กับ ปตท. ในฐานะผู้บุกเบิกและผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศ
เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกขอบคุณ ปตท. เพราะก่อนหน้านั้น ความรู้สึกที่ผมมีต่อ ปตท. คงไม่ต่างจากคนไทยจำนวนมากที่รู้สึกว่า ปตท. เป็นแดนสนธยา ใช้อำนาจรัฐที่มีอยู่ในมือเอาเปรียบคู่แข่งและสังคม เพื่อสร้างความร่ำรวยให้กับตัวเองและพวกพ้อง
แรงจูงใจให้ผมเขียนเรื่องนี้ในวันนี้ไม่ใช่เพื่อชม ปตท. แต่ผมต้องการส่งเสริมและเรียกร้องให้ ปตท. รู้จักต่อยอดความสำเร็จในธุรกิจปั๊มน้ำมันในประเทศ และใช้ประโยชน์จากจุดแข็งด้านธุรกิจบริการของไทยไปแข่งขันในตลาดต่างประเทศและตลาดโลก
ผมอยากจะเชื่อว่า บนสองข้างถนนนับหมื่นสายในประเทศจีนและในอีกหลายประเทศ หากมีปั๊ม ปตท. ตั้งอยู่เหมือนในบ้านเรา คือมีพร้อมทั้งห้องน้ำสะอาด ร้านกาแฟสด และร้านสะดวกซื้อ จะต้องได้รับความนิยมจากผู้ที่สัญจรไปมาอย่างแน่นอน ซึ่งจะทำให้กิจการของ ปตท. รุ่งเรืองโดยไม่ต้องพึ่งพาอำนาจรัฐ
เป็นโอกาสดีที่ ปตท. จะพิสูจน์ตัวเอง เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นในสังคมไทย เผื่อจะช่วยให้หลุดจากการเป็นเป้าหมายหลักของการปฏิรูปพลังงาน
การไปบุกตลาดปั๊มน้ำมันในต่างประเทศของ ปตท. นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อตัว ปตท. เองแล้ว ยังอาจมีอานิสงส์ให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กอื่นๆ ที่ถือโอกาสติดสอยห้อยตามไปด้วย
ผมอยากเห็นธุรกิจขนาดใหญ่ของไทย ไม่เฉพาะ ปตท. ไม่เพียงเก่งเฉพาะในบ้าน แต่สามารถออกไปแข่งขันและเติบโตในตลาดโลกได้อย่างองอาจ


