"ไปป์บอมบ์" ไม่เทพก็ทำได้
"ไปป์บอมบ์" คือระเบิดแสวงเครื่องที่ถูกนำมาใช้ก่อเหตุบึ้มกลางกรุงเทพมหานคร เมื่อคืนวันที่ 1 ก.พ.
โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์
“ไปป์บอมบ์” คือระเบิดแสวงเครื่องที่ถูกนำมาใช้ก่อเหตุบึ้มกลางกรุงเทพมหานคร เมื่อคืนวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
ระเบิดถูกประดิษฐ์ขึ้นเป็นการเฉพาะ โดยใช้ชิ้นส่วนของตะปู และท่อเหล็กห่อหุ้ม หน่วงเวลาด้วยระบบดิจิตอลผ่านนาฬิกาข้อมือ จุดชนวนด้วยรีโมทคอนโทลควบคุมสั่งการใน โดยถูกตั้งเวลาเมื่อลูกแรกระเบิด ลูกที่สองจะตามทันที อานุภาพระยะสังหาร 5-10 เมตร แม้ตำรวจจะบอกว่าคนก่อเหตุน่าจะไม่ได้มุ่งหวังถึงชีวิต เพราะแรงดันไม่สูงเพียงพอที่จะทำให้หมดลมหายใจ
ข้อมูลจากฝั่งตำรวจที่พอจะเผยแพร่ออกมาได้ แต่เหนืออื่นใด “ไปป์บอมบ์” ที่ว่า ถูกจัดทำขึ้นอย่างไร และเป็นผู้เชียวชาญประดิษฐ์ระเบิดแสวงเครื่องชนิดนี้ขึ้นมาก่อเหตุใช่หรือไม่
ตำรวจอีโอดีที่ลงพื้นที่เก็บหลักฐานวัตถุระเบิดเหตุการณ์ที่สยาม บอกถึงระเบิดชนิดนี้ว่า โดยทั่วไปแล้ว “ไปป์บอมบ์” เป็นระเบิดที่คนทำไม่จำเป็นต้องมีองค์ความรู้มากมายก็สามารถทำขึ้นมาได้ เด็กช่างกลก็ทำได้เช่นกัน โดยระเบิดชนิดนี้รูปแบบการทำขึ้นมาจะไม่ซับซ้อนมากนัก เหมือนกับระเบิดปิงปองที่ทำขึ้นมาเองได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้ความชำนาญระดับคนที่เกี่ยวข้องกับระเบิดทั้งทหารและตำรวจ
“ไม่ใช่ฝีมือระดับเทพอย่างที่เข้าใจกัน” นายตำรวจคนเดิม ย้ำ
“แต่จุดแตกต่างอยู่ที่การหน่วงเวลาการตั้งระเบิด เมื่อคืนที่พบนั้นระเบิดแสวงเครื่องชนิดนี้มีรูปแบบการทำที่ไม่แตกต่างจากปกติที่เคยเจอ แต่การตั้งเวลาพบว่ามีความชำนาญพอสมควร คือใช้แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์เป็นตัวกำหนดเวลาระเบิด ให้นาฬิกาเดินถอยหลัง และจะใช้รีโมทควบคุมอีกชั้นหนึ่งหากไม่เกิดการระเบิดขึ้น รีโมทตัวนี้มีระยะสั่งการราว 100 เมตร นั่นย่อมแสดงว่า ก่อนเกิดเหตุไม่กี่นาที คนร้ายน่าจะอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดระเบิด”
ตำรวจอีโอดีนายเดิม บอกอีกว่า การแตกต่างอยู่ที่วิธีการทำให้ระเบิด หากมือสมัครเล่นบางส่วนก็จะใช้สายชนวนเป็นตัวก่อเหตุ หากแต่คนที่ชำนาญหรือพอจะมีองค์ความรู้ด้านระเบิดบ้าง ก็จะใช้ระบบเวลานับถอยหลังเข้ามาเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเคยพบระเบิดชนิด “ไปป์บอมบ์” ที่ประกอบในลักษณะที่เกิดเหตุล่าสุด ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมารวม 8 ลูก คือ ที่ย่านบางเขนตำรวจเข้าตรวจสอบและพบรวม 3 ลูก ท้องที่สน.มีนบุรีอีก 3 ลูก และที่ใจกลางเมืองอีก 2 ลูก โดยระบบที่ใช้เพื่อจุดระเบิดที่ลักษณะใกล้เคียงกันกับเหตุที่สยามสแควร์ คือหน่วงเวลาถอยหลังด้วยแผงนาฬิกาดิจิตอล
“ตายครับ อยู่ใกล้ๆ ก็ตายได้ เพราะแรงดันมันสูงพอสมควร ถือบอกกันว่ามีอานุภาพสังหาร คำว่าสังหารก็คือต้องตาย เพียงแต่ระเบิดที่เกิดขึ้นล่าสุดอยู่ในจุดที่คนอาจจะไม่เข้าไปค้นหรือเดินผ่านให้พลุกพล่าน แต่เป้าประสงค์ของคนร้ายคงเป็นหน้าที่สืบสวนของตำรวจที่ต้องทำคดี”นายตำรวจอีโอดี ย้ำ


