posttoday

เจ้าฟ้าฉิมใหญ่ เจ้าจอมมารดา ในพระเจ้ากรุงธนบุรี (จบ)

30 พฤศจิกายน 2557

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) ทรงเป็นผู้ชำระคดีนี้ พระราชพงศาวดารบันทึกเหตุการณ์ตอนนี้ว่า

“...ทรงพิจารณาได้ความเป็นสัตย์สมดังหนังสือฟ้อง ผู้ต้องหาซัดถึงข้าราชการอีกหลายคน คือ เจ้าพระยาพลเทพ (บุนนาค บ้านแม่ลา) คน 1 พระยาเพ็ชรปาณี (กล่อม) คน 1 พระยาพระราม (ทอง) คน 1 พระอินทรเดช (กระต่าย) คน 1 จมื่นสท้านมณเฑียร (อ่อน) คน 1 นายขุนเนน หลานเจ้าพระยาพลเทพ คน 1 สมิงรอดสงคราม คน 1 สมิงศิริบุญ (โดด) บุตรเจ้าพระยามหาโยธา คน 1 สมิงพัตเบิด (ม่วง) คน 1 สมิงปอนทละ คน 1 รวมข้าราชการที่ร่วมคิดการขบถ 10 คน...”

ส่วนในจดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี บันทึกเหตุการณ์ตอนนี้ไว้ว่า

“...ณ วันจันทร์ เดือน 10 ขึ้น 3 ค่ำ เจ้าพระยาอภัยภูธรจับเจ้าฟ้ากรมขุนกษัตราที่ทวาร 2 ชั้น...”

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชวิจารณ์ความตอนนี้ว่า

“...จับที่ประตูสองชั้นนี้เป็นการกึกกักกันมาก ว่าปล่อยให้เสลี่ยงเข้ามาในประตูสองชั้นแล้วปิดประตูทั้งสองข้าง เมื่อเวลาจับนั้นเจ้าฟ้าเหม็นเอามือตบขา พูดติดอ่างว่าจะจับข้าไปข้างไหน...”

เมื่อพิจารณาคดีเสร็จสิ้นลงมีพระบรมราชโองการให้ถอดเจ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิต และประหารชีวิตเสีย ปรากฏหลักฐานในจดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวีว่า

“...ณ วันพุธ เดือน 10 ขึ้น 5 ค่ำ สำเร็จโทษ ตัดไม้ไม่ไว้หน่อ ฆ่าพ่อไม่เลี้ยงลูก สำเร็จโทษเสียด้วยกัน ณ วัดปทุมคงคา (คนอื่น) ทั้งนั้น ประหารชีวิตที่สำเหร่...”

ผู้ที่ถูกสำเร็จโทษมีพระอนุชาต่างมารดาของเจ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิต คือ พระองค์เจ้าชายอรนิภาและพระขนิษฐา พระองค์เจ้าหญิงสำลีวรรณ ซึ่งถูกข้อหาสมรู้ร่วมคิด และผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่น ได้ถูกลงโทษประหารชีวิต รวมทั้งพระโอรสทั้งหมดในเจ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิต ทั้งหมดถูกสำเร็จโทษด้วยวิธีการถ่วงน้ำ

เจ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิต หรือหม่อมเหม็น มีพระโอรสธิดา ทั้งหมด 13 พระองค์ คือ

1.หม่อมเจ้าชายใหญ่

2.หม่อมเจ้าหญิงตลับ

3.หม่อมเจ้าหญิงป้อม

4.หม่อมเจ้าชายสุวรรณ

5.หม่อมเจ้าหญิงยี่สุ่น

6.หม่อมเจ้าชายหนูเผือก

7.หม่อมเจ้าชายสวัสดิ์

8.หม่อมเจ้าหญิงสาลี

9.หม่อมเจ้าหญิงสารภี

10.หม่อมเจ้าชายเล็ก

11.หม่อมเจ้าหญิงมุ้ย

12.หม่อมเจ้าชายแดง

13.หม่อมเจ้าหญิง (ไม่ทราบพระนาม)

ในจำนวนนี้ทราบแต่เพียงว่าหม่อมเจ้าหญิงสารภี ประสูติแต่หม่อมห้ามชื่อ หม่อมคลี่จากสกุลอมาตยกุล ซึ่งพระยากระสาปนกิจโกศล (โหมด อมาตยกุล) ได้จดบันทึกไว้ว่าเป็นคนในสกุลอมาตยกุล ความว่า “...บุตรหลวงยศคงชื่อสิงเป็นบุตรเขยเจ้าพระยาธรรมา (มั่ง) แล้วได้เป็นหลวงยศแทนบิดาคน 1 น้องหลวงยศคงเป็นหญิงชื่อหม่อมคลี่เป็นห้ามหม่อมเหม็นคน 1 มีบุตรกับหม่อมเหม็นเป็นหญิงชื่อภีคน 1...” แต่หม่อมห้ามท่านอื่นๆ นั้นไม่พบว่ามีการบันทึกเกี่ยวกับหม่อมห้ามของหม่อมเหม็นไว้เลย และต้องสืบหากันต่อไป

หลังคดีกบฏเจ้าฟ้าเหม็น เจ้าฟ้าเหม็นถูกถอดพระยศและถูกสำเร็จโทษ ส่วนพระโอรสทั้งหกถูกประหารชีวิตทั้งหมด ขณะที่พระธิดาที่ยังเหลืออยู่ก็ถูกถอดให้มีพระยศเป็น คุณ หรือ หม่อม และยังพบว่าพระธิดาของหม่อมเหม็นสองท่าน คือ หม่อมเจ้าตลับและหม่อมเจ้าหอ ปรากฏตัวเมื่อคราวพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปกรุงเก่าทางชลมารค ระหว่างนั้นก็มีเรือเก๋งพายเข้ามาเคียงเรือพระที่นั่งอย่างไม่เกรงพระอาญา นำโดยเจ้าจอมมารดาน้อย (ธิดาพระอินทรอภัย) พร้อมด้วยหม่อมเจ้าอีกสองท่านดังกล่าว เรื่องนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชหัตถเลขาเล่าความแก่เจ้าจอมมารดาพึ่ง ดังปรากฏความว่า “...อยากจะใคร่ให้เอาไปตัดหัวเสียตามสกุลพ่อมัน แซ่นี้มักเป็นเช่นนั้นเหมือนคุณสำลี...ข้าได้ยินว่าคนพวกเจ้าตลับ เจ้าครอกหอ ไปด้วย พวกนั้นเป็นพวกใกล้เคียงกับยายป้าน้อยของเต่า เต่าอย่าไปไถ่ถามว่ากล่าวอะไรวุ่นวายน้อยมันจะด่าให้อายเขา...”

ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้สืบเชื้อสายของหม่อมเหม็นได้รับพระราชทานนามสกุลว่า “อภัยกุล”

ข่าวล่าสุด

ชี้จุด วิ่งฟรี มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน - นครราชสีมา ต้องไปจุดไหน?