ล้างทุจริตคลังเจอตอ เป็นพิษเศรษฐกิจเป็น.ภัยรัฐบาล
โดย...เกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง
โดย...เกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง
นโยบายปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น กลายเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งถือเป็นเดิมพันที่สูงของรัฐบาล เพราะหากทำไม่ได้ คะแนนนิยมของรัฐบาลก็จะดิ่งลงเหวได้ง่ายๆ
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ออกมารับลูกนโยบายเต็มตัว โดยยอมรับว่าหน่วยงานของกระทรวงการคลังมีการทุจริตกันรายวัน โดยเฉพาะกรมจัดเก็บภาษี พุ่งเป้าไปที่กรมศุลกากร และกรมสรรพากร และมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
การออกมารับตรงไปตรงมา ถือว่า สอดคล้องกับผลสำรวจหลายสำนัก ที่พบว่า กรมศุลกากรเป็นหน่วยงานที่มีการทุจริตอันดับต้นๆ ของประเทศ
อย่างไรก็ตามการล้างทุจริตในกรมศุลกากรไม่ใช่เรื่องง่าย เห็นได้จากกรณีการขนสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้านมาไทย ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ในจุดที่ไม่ใช่ด่านผ่านแดน ไม่ใช่จุดผ่อนปรน แสดงว่าการทุจริตครั้งนี้มีการทำกันเป็นขบวนการ และผู้ที่ทำมีอิทธิพลและอำนาจ
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ออมาระบุว่า กรณีดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของกระทรวงมหาดไทย ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้ามาเกี่ยวข้อง และมีการยุยงชาวบ้านให้มาต่อต้านเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรที่เข้าไปตรวจยึดสินค้าที่นำเข้าไม่ถูกต้อง
แม้เรื่องดังกล่าวจะทำให้ทหารนั่งไม่ติด ต่างออกมายืนยันพร้อมจะจัดการกับทหารที่แตกแถว ทำผิดกฎหมายทันที เพราะกระทบต่อทหารและรัฐบาลที่มาจากทหารเข้าอย่างเต็มแรง ในฐานะที่รัฐบาลทหารชุดนี้ประกาศจะปราบทุจริต แต่ลูกน้องกลับไปทำผิดเอง
แต่จนถึงขณะนี้ทั้งกองทัพบก และ กระทรวงมหาดไทย ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดกับข้าราชการที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ทำให้กรมศุลกากรเดินหน้าแก้ทุจริตไม่ได้
นายสมหมาย ระบุว่า การทุจริตภายในกรมศุลกากรเป็นที่รู้กันว่า เป็นการร่วมมือทั้งทหาร ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร หาก 3 ส่วนนี้จับมือกันเมื่อไหร่ การทุจริตที่เกิดขึ้นจะทำให้ประเทศเสียหายอย่างหนัก แต่ทางตรงข้าม หากทั้งสมส่วนนี้ช่วยกันแก้ปัญหาทุจริต ก็จะประสบความสำเร็จได้
การทุจริตที่ทำกันอย่างเป็นกระบวนการดังกล่าว ทำให้ปัญหาทุจริตส่วนใหญ่ในกรมศุลกากรไม่ได้รับการแก้ไข
กรณีของรถหรูที่หายไปจากเขตปลอดอากร และคลังสินค้าทัณฑ์ ถึง 500 คันโดยไม่ยอมเสียภาษี เป็นตัวอย่างของการทุจริตที่ทำกันเป็นขบวนการ ทั้งนักการเมือง คนมีสีที่เป็นเจ้าของบริษัทนำเข้ารถหรู และเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร ที่รู้เห็นเต็มใจปล่อยให้นำรถหรูออกยังไม่ถูกต้อง แม้ว่าจะมีการตามรถมาได้ 200 คัน แต่รถที่หายไปอีก 300 คัน ก็ยังไม่ยอมมาเสียภาษีให้ถูกต้อง แม้กรมศุลกากรจะมีการฟ้องร้องผู้ประกอบการที่ทำผิดกฎหมาย แต่ก็สาวไม่ถึงเจ้าที่เป็นคนมีสีหรือมีอิทธิพลตัวจริงได้
ยังมีกรณีของกลางที่เป็นงาช้างที่นำเข้ามายังไม่ถูกต้อง มูลค่านับ 100 ล้านบาท หายไปจากห้องเก็บของกลางของกรมศุลกากรที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยห้องขังมีประตูเหล็กกุญแจล็อกอย่างแน่นหนา มีกล้องวงจรปิดเรียบร้อย แต่ของกลางก็ล่องหนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ผ่านไปร่วม 2 ปี แต่กรมศุลกากรยังไม่สามารถเอาผิดผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ได้แม้แต่คนเดียว เพราะเจ้าของงาช้างมีอิทธิพลคนมีสีที่ไม่ใครกล้าแตะ
ยังมีปัญหาทุจริตในกรมสรรพากร ที่ถือว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน โดยเฉพาะการทุจริตขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ส่งออก ที่มีการปลอมใบขอคืนภาษี ทำให้กรมสรรพากรสูญเสียภาษี 4,000 ล้านบาท เรื่องแดงมากว่า 1 ปี แต่กรมสรรพากรยังไม่สามารถเอาผิดใครได้แม้แต่รายเดียว
ขณะที่การเอาผิดผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องถึง 18 คน เป็นผู้บริหารระดับซี 9 ถึง 4 คน และเจ้าหน้าที่อีก 14 คน ก็ถูกเตะถ่วงการตรวจสอบทำผิดวินัยมานานกว่าครึ่งปี ยังไม่สามารถสรุปผลได้ จนถูกต้องข้อสังเกตว่ามีการดึงเรื่องเพื่อช่วยให้พ้นผิด ทำให้การปราบทุจริตของกระทรวงการคลังล้มเหลว เพราะผู้เกี่ยวข้องเป็นคนมีสี เป็นนักการเมืองมีอิทธิพล ส่วนข้าราชการก็มีการวิ่งเต้นให้พ้นผิด
ไม่ใช่กรมภาษีของกระทรวงการคลังเท่านั้น ที่แก้ปัญหาทุจริตล้มเหลว ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐที่มีการทุจริตของผู้บริหาร ร่วมมือกับนักการเมือง หลายกรณีกระทรวงการคลังก็นิ่งดูดายไม่ยอมเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด แต่ความเสียหายตกตกอยู่กับธนาคาร เช่น การทุจริตในธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) จนหนี้เสียสูงถึง 34 หมื่นล้านบาท แต่ไม่สามารถเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งที่ผลสอบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุชัดว่ามีความไม่ชอบมาพากลอย่างไร
หรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ที่ผลสอบของ ธปท. ระบุว่า มีการปล่อยสินเชื่อ โดยมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับคนใกล้ชิดนักการเมืองระดับสูงของประเทศ แต่กระทรวงการคลังไม่เคยแม้แต่จะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ทำให้เชื้อการทุจริตในกระทรวงการคลังลุกลามมีการทุจริตกันเป็นรายวันเหมือนที่ นายสมหมาย ออกมาระบุ
ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า การปราบปรามทุจริตของกระทรวงการคลังที่ผ่านมาและที่กำลังดำเนินการอยู่ไม่ประสบความสำเร็จ ขณะที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ ถ่วงการพัฒนาประเทศ เพราะเงินจำนวนมากตกไปอยู่ในกระเป๋านักการเมือง ข้าราชการ ที่ทุจริต แทนที่จะได้นำไปพัฒนาประเทศ
การแก้ปัญหาทุจริตของกระทรวงการคลังที่ล้มเหลว กระทบต่อรัฐบาลอย่างหนีไม่พ้น ยิ่งมีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่หลายกรณี ยิ่งทำให้รัฐบาลเสียคะแนนนิยม และความศรัทธาในตัวของรัฐบาลก็จะเสื่อมเร็วขึ้น
นายสมหมาย กล่าวไว้ในเวทีสัมมนาการปราบทุจริตขององค์กรต่อต้านการทุจริต มีใจความที่น่าสนใจตอนหนึ่งว่า “มีคนบอกว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นมะเร็งร้าย ซึ่งผมว่าไม่ใช่เพราะคนเป็นมะเร็งร้ายตายไปหมดแล้ว แต่การทุจริตเป็นเหมือนโรคเบาหวาน รักษาไม่หายมากกว่า” สะท้อนภาพชัดเจนว่า การแก้ปัญหาทุจริตของประเทศไทยยากแสนสาหัส และมีความหวังที่จะสำเร็จเลือนลางเหลือเกิบ


