สถาบันพระธรรมทูตแพร่พุทธ ในสุวรรณภูมิ
สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ปรารถนาจะให้พระพุทธศาสนาสร้างความเป็นปึกแผ่นในภูมิภาค จึงส่งเสริมและอุปถัมภ์พระสงฆ์ 4 ประเทศ ให้ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมเชิงลึกในอินเดีย ด้วยความหวังว่าพระสงฆ์หรือพระธรรมทูตจะนำธรรมวิชัยจากแดนพุทธภูมิไปพลิกสุวรรณภูมิและโลกให้สุขสันติในที่สุด
สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ปรารถนาจะให้พระพุทธศาสนาสร้างความเป็นปึกแผ่นในภูมิภาค จึงส่งเสริมและอุปถัมภ์พระสงฆ์ 4 ประเทศ ให้ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมเชิงลึกในอินเดีย ด้วยความหวังว่าพระสงฆ์หรือพระธรรมทูตจะนำธรรมวิชัยจากแดนพุทธภูมิไปพลิกสุวรรณภูมิและโลกให้สุขสันติในที่สุด
สถาบันจัดโครงการนี้มาแล้ว 5 รุ่น จบไปแล้ว 149 รูป เป็นพระสงฆ์จากไทย สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ส่วนรุ่นที่ 6 มี 28 รูป เพิ่งปิดโครงการเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2557 ที่วัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร อินเดีย
สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ตั้งปณิธานว่า งานนี้ผมไม่ได้กำหนดเวลาทำ ไม่นำเวลามาเป็นตัวกั้น ชาตินี้ทำไม่สำเร็จ ชาติหน้าทำต่อ ผมมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นตัวอย่าง ทรงบำเพ็ญพระบารมียาวนานเมื่อทรงตรัสรู้แล้วก็ทรงพลิกความทุกข์ให้เป็นความสุข และพลิกปุถุชนให้เป็นอริยะ
ชัช ชลวร ประธานชมรมโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวในพิธีปิดโครงการ วันที่ 5 ต.ค. 2557 ว่า โครงการนี้เริ่มจากคณะผู้อบรมหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) อุปสมบทที่อินเดีย พ.ศ. 2550 เมื่อลาสิกขาแล้วก็คิดว่าจะทำอะไรให้แก่พระพุทธศาสนา จึงตั้งชมรมโพธิคยาวิชชาลัยขึ้นมาก่อน แล้วพัฒนามาเป็นสถาบันในปัจจุบัน ส่วนปัจจัยสนับสนุนให้สถาบันส่งพระสงฆ์มาอบรมที่ดินแดนพุทธภูมิก็มาจากผู้มีศรัทธาร่วมด้วยช่วยกัน แต่ไม่พอ มูลนิธิวีระภุชงค์ได้เข้ามาสนับสนุนส่วนหนึ่ง จึงบรรลุเป้าหมายได้
อบรมไปแล้ว 5 รุ่น รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 6 ซึ่งมี 28 รูป จากไทย สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม จึงขอฝากความหวังแก่พระธรรมทูตทุกรูปให้สื่อธรรมให้ถึงญาติโยม เพราะเป็นพระธรรมทูตต้องเผยแผ่ มิเช่นนั้นร้อนวิชา การเผยแผ่ไม่ต้องทำอะไรมาก ขอแต่ปฏิบัติดีเท่านั้น ก็ผูกใจชาวบ้านทั่วไปได้แล้ว
wวิปัสสนาช่วยได้
พระครูนิโครธบุญญากร (ดร.พระมหาปรีชา) หัวหน้าฝ่ายวิชาการ และศึกษาเชิงปฏิบัติการ แสดงความพอใจที่พระธรรมทูต รุ่นที่ 6 มีความมุ่งมั่นในการศึกษาอบรมด้วยฉันทะและวิริยะอย่างยอดเยี่ยมเป็นเวลา 3 เดือน ในแดนพุทธภูมิ
พระครูนิโครธบุญญากร ซึ่งรับผิดชอบในการบรรยายกลุ่มวิชาพุทธภูมิศึกษา และนำศึกษาเชิงปฏิบัติการ เห็นความแตกต่างพระธรรมทูตรุ่นต่างๆ ว่า รุ่นที่ 6 นี้เชื่อฟังและไม่สร้างปัญหาหนักใจแก่อาจารย์และผู้ปกครอง เรื่องนี้น่าจะเป็นอิทธิพลจากการฝึกอบรมวิปัสสนากรรมฐานที่สำนักปฏิบัติธรรมโมลี อ.ปากช่อง เป็นเวลา 1 เดือน ตามการแนะนำของสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และกรรมการมหาเถรสมาคม ทำให้พระธรรมทูตมีใจหนักแน่นมั่นคง เมื่อมาในแดนพุทธภูมิได้ปฏิบัติเช้า สาย บ่าย และเย็น ก่อนเข้าคลาสอบรมทุกวัน วันละ 30 นาที ซึ่งแต่ละรูปมีความพอใจยิ่ง
ตามโปรแกรมการฝึกอบรม 90 วัน ผู้เข้าอบรมต้องเคลื่อนที่ไปฝึกอบรมในสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น สาวัตถี พุทธคยา ราชคฤห์ ลุมพินี และพาราณสี เป็นต้น แต่ไม่ไกลเกินเวลาที่จะสัตตาหะจากสถานที่จำพรรษาคือวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ที่อยู่ใกล้กับสาลวโนทยาน ที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน เมืองกุสินครา รัฐอุตตรประเทศ (UP)
แต่ละสถานที่ที่ไปอบรมจะมีบรรยายว่า สถานที่นั้นๆ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานพระธรรมเทศนาเรื่องอะไร ตรัสพระสูตรอะไร แบบลงลึก
wทัศนะพระสงฆ์ 4 ประเทศ
วันที่ 5 ต.ค. ซึ่งเป็นวันปิดโครงการ ผู้แทนพระสงฆ์ทั้ง 4 ประเทศ ได้รับนิมนต์ให้ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ให้ที่ประชุมกรรมการบริหารสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ที่อุปถัมภ์โครงการได้รับฟังที่อาคารวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งมูลนิธิวีระภุชงค์ บริจาคทรัพย์ 15 ล้านบาท สร้างขึ้น (แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์) ในวัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร
คณะกรรมการสถาบันที่ร่วมพิธีปิดโครงการพระธรรมทูตรุ่นที่ 6 ได้แก่ พระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา พระเทพโพธิวิเทศ (วีรยุทธ์) หัวหน้าพระธรรมทูตไทย สายอินเดียเนปาล ชัช ชลวร ประธานชมรมฯ อภัย จันทนจุลกะ ประธานที่ปรึกษา และสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 พร้อมทั้งคณะอุบาสกอุบาสิกาจากประเทศไทย ร่วมรับฟัง
หัวข้อที่ผู้แทนพระธรรมทูต 4 ประเทศ พูด ได้แก่ เรื่อง พุทธพลิกโลก มรรคาสู่การเผยแผ่ได้อย่างไร
พระใส สุขปญฺโญ จากไทย กล่าวว่า เมื่อศึกษาพุทธประวัติเชิงลึกจึงพบว่านำมาเป็นแบบอย่างในการเผยแผ่พระธรรมคำสอนให้พุทธบริษัทได้ทั้งสิ้น พร้อมกับพูดความในใจว่า การเข้าร่วมโครงการได้ความรู้ใหม่ แต่คงต้องไปทำงานเก่า จึงคิดว่าเมื่อมีความรู้ใหม่ ต้องมีงานใหม่ด้วย
พระศรีธนญชัย สนฺตมโน จาก สปป.ลาว ซึ่งประทับใจกับวาทะของพระธรรมปริยัติเวที เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม ที่ว่า ทุกอิริยาบถ (ของพระ) คือการเผยแผ่ ได้กล่าวว่า ประสบการณ์ในการเดินทางจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่งในอินเดียในยุคปัจจุบันรู้สึกว่ายากลำบาก จึงคิดย้อนไปในอดีตครั้งพุทธกาลจะลำบากแค่ไหน แต่พระพุทธองค์ก็ไม่เคยลดละ ยังทรงแสดงธรรมโปรดเวไนยสัตว์ในที่ต่างๆ จนถึงเสด็จปรินิพพาน
ดังนั้น พระธรรมทูตในยุคปัจจุบันจะตามรอยยุคลบาท ต้องสร้างพละ 5 ได้แก่ ศรัทธาพละ วิริยะพละ สติพละ สมาธิพละ และปัญญาพละ พร้อมทั้งน้อมนำปัจฉิมโอวาทมาเป็นหลัก คือ มีสติให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท
พระสุข โกศล จากกัมพูชา กล่าวว่า โครงการนี้ทำให้ได้เห็นของจริง จากที่เห็นตามตำรา ก็ได้เห็นกับตา เป็นความรู้ที่สามารถนำไปเผยแผ่ให้ประชาชนชาวพุทธได้รับรู้และอนุโมทนาได้
พระเงิน อุปสนฺโต จากเวียดนาม กล่าวโดยสรุปว่า ในการเผยแผ่นั้นจะยึดหลัก 5 ข้อ คือ 1.ทำตัว ให้เรียบร้อยดีงาม 2.ทำใจ ไม่ให้เป็นไปตามอารมณ์ มิเช่นนั้นเผยแผ่ไม่ได้ 3.ทำเพื่อใคร ข้อนี้อยู่ที่การฝึกฝน เมื่อฝึกดีแล้ว ประชาชนก็ศรัทธา 4.ทำเพื่อธรรม เมื่อใดทำงาน เมื่อนั้นต้องมีธรรม เช่น มีสติและขันติ 5.ทำตามหน้าที่ ใครมีหน้าที่อะไรทำหน้าที่นั้น เช่น เป็นครู เป็นศิษย์ เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นต้น ต้องทำให้ดีและให้เรียบร้อย หลักธรรม 5 ข้อนี้ใช้แก้ปัญหาสังคมได้
wโอวาทพระธรรมวรนายก และพระเทพโพธิวิเทศ
เมื่อบรรดาพระธรรมทูตแสดงทัศนะจบ พระธรรมวรนายก ประธานโครงการ ให้โอวาทโดยย่อว่า เมื่อเป็นพระธรรมทูตต้องมีความองอาจ ให้ยึดหลักอ่านตัวเองออก บอกตัวเองได้ ใช้ตัวเองเป็น และเห็นตัวเองได้ โดยทิ้งท้ายด้วยวาทะว่า แคบนักมักขยับยาก กว้างมากไม่มีอะไรจะใส่สวม พร้อมกับบอกแนวทางเผยแผ่ว่า อย่าลืมหลักการอนุปุพพิกถา ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมจากง่ายไปหายาก เมื่อไปเผยแผ่ที่ใดก็ตาม
ในขณะที่พระเทพโพธิวิเทศ หัวหน้าพระธรรมทูตไทย สายอินเดียเนปาล เตือนพระธรรมทูตที่โยมอุปถัมภ์มาอบรมเชิงลึกในแดนพุทธภูมิว่าต้องทำหน้าที่ให้ดี ให้สมบูรณ์ อย่าให้โยมที่ตั้งความหวังไว้ผิดหวัง
พระธรรมทูตรุ่นที่ 7 จะตามมา เพราะการสร้างพระธรรมทูตเพื่อนำธรรมวิชัยจากแดนพุทธภูมิไปพลิกสุวรรณภูมิและโลกไม่ได้จำกัดด้วยเวลา ชาตินี้ไม่สำเร็จ ก็ขอเป็นชาติหน้า ตามปณิธานของ สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980


