ชาวสวนยางพะเยาหนีปลูกพืชระยะสั้นทดแทน
พะเยา-เกษตรกรสวนยางพาราจำใจกรีดยางก้อนถ้วยขาย บางรายหนีไปปลูกพืชระยะสั้นสร้างรายได้ทดแทน
พะเยา-เกษตรกรสวนยางพาราจำใจกรีดยางก้อนถ้วยขาย บางรายหนีไปปลูกพืชระยะสั้นสร้างรายได้ทดแทน
วันที่ 18 ตุลาคม 2557 นายสาย อิ่นคำ ประธานกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรยางพาราครบวงจรจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า ผลกระทบจากสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำที่ต่อเนื่องยาวนานมาเกือบปี จนถึงขณะนี้ยางก้อนถ้วน กก.ละ 20 บาท ยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 กก.ละ 40 บาท ทำให้เกษตรกรงดทำยางแผ่น ยังมีเพียงเกษตรกรที่เปิดหน้ายางแล้วกรีดเป็นยางก้อนถ้วยเพียงร้อยละ 50 เท่านั้น โดยสังเกตว่าจากช่วงสถานการณ์ปกติจังหวัดพะเยา จะมีปริมาณผลผลิตยางพาราเฉลี่ยวันละประมาณ 500-600 ตัน เมื่อราคาตกต่ำเกษตรกรไม่เปิดหน้ายางมีเพียงร้อยละ 50 ที่ยังเปิดกรีดเป็นยางก้อนถ้วยขายในลักษณะที่จำใจขายเฉลี่ยวันละ 200-300 ตัน เท่านั้น
นายสาย กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ให้ผลผลิตยางพาราสูงสุดในจังหวัดพะเยา คือ อ.เชียงคำ และ อ.ภูซาง โดยให้ผลผลิตกว่าร้อยละ 60 เนื่องจากเป็นพื้นที่แรกที่ปลูกยางพาราและมีการนิยมปลูกกันมากเป็นอันดับต้น ๆ ของจังหวัด มีการจัดตั้งกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ยางพารา ซึ่งเป็นสถาบันเกษตรกรมากตามไปด้วย
"อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำขณะนี้ ยังมีเพียงกลุ่มพ่อค้าที่รับซื้อยางก้อนถ้วยเพื่อนำไปส่งเข้าโรงงานแปรรูปยางพาราเป็นยางเครป เพื่อทำเป็นยางชั้นในของยางรถยนต์ มีการเปิดรับซื้อขายปกติ ส่วนเกษตรกรที่ไม่เปิดกรีดก็หันไปทำการเกษตรชนิดอื่น เช่น ปลูกพืชระยะสั้น ซึ่งเป็นพืชบริโภคและส่งขายในช่วงที่ยางพาราตกต่ำ สร้างรายได้ทดแทนเพราะไม่ต้องแบ่งรายได้กับใคร" นายสาย กล่าว


