posttoday

จุดอ่อนสก.สรรหาร้องเรียนช้าเข้าไม่ถึงปชช.

17 กันยายน 2557

สก.สรรหามาจากข้าราชการระดับสูง อาจทำให้เข้าไม่ถึงความเดือดร้อนของประชาชนในแต่ละพื้นที่

โดย...นิติพันธุ์ สุขอรุณ

ภายหลังสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) สิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งลงเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามกำหนดเดิมทาง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง สก. ทั้ง 50 เขตทั่วพื้นที่กรุงเทพฯทันที ทว่าผลจากประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 86/2557 เรื่องการได้มาซึ่ง สก. และ สข. เป็นการชั่วคราว สั่งงดการเลือกตั้ง สก.-สข. ไว้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

แต่เพื่อให้หน้าที่บริหารงานและดูแลจัดทำบริการสาธารณะประโยชน์ของประชาชนในกรุงเทพมหานครดำเนินต่อไปได้ จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการคัดสรร ผู้มีความรู้ความสามารถ โดยต้องเป็นข้าราชการ หรือเคยเป็นข้าราชการตั้งแต่ระดับ 10 เท่าขึ้นไป เข้ามาเป็นสก.สรรหา

ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น ทำให้สก.สรรหา เหลือเพียง 30 คน โดยขาดสก.ที่มาจากการเลือกตั้ง จึงเกิดเป็นคำถามตามมาว่า บทบาทหน้าที่การบริหารงานของสก. จากปกติที่มีอยู่ 61 คน ต้องรับผิดชอบ 50 เขตในกทม. เหลือเพียงครึ่งหนึ่ง ทั้งยังมาจากข้าราชการระดับสูง อาจทำให้เข้าไม่ถึงความเดือดร้อนของประชาชนในแต่ละพื้นที่ และล้าช้าในกระบวนการรับเรื่องร้องเรียน

สุทธิชัย วีรกุลสุนทร อดีตประธานสภากรุงเทพมหานคร (สก.กทม.) สะท้อนข้อจำกัดของการเหลือเพียง สก.สรรหา ที่ต้องทำหน้าที่บริหารฝ่ายนิติบัญญัติเพียงลำพัง ว่า รายชื่อสก.สรรหาส่วนใหญ่เป็นข้าราชการระดับสูง ซึ่งพฤติกรรมของข้าราชการมักทำงานเช้าเย็นกลับ แตกต่างจากสก.ที่มาจากสายเลือกตั้ง ที่ต้องลงพื้นที่รับฟังปัญหาโดยตรงจากประชาชนอยู่ตลอด จนได้รับความไว้วางใจให้ผ่านการเลือกตั้งมาได้ แต่ต้องยอมรับว่า กว่าที่บุคคลหนึ่งจะได้ขึ้นเป็นข้าราชระดับสูงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านการทำงานและมากด้วยประสบการณ์ถึงจะขึ้นมาเป็นผู้บริหาร

วิรัตน์ มีนชัยนันท์ อดีตสก.เขตมีนบุรี กล่าวว่า ข้อดีของสก.สรรหา คือ สามารถเดินหน้าปรับโครงสร้างการบริหารงาน เช่น ฝ่ายบุคลากร ฝ่ายกฎหมาย ได้โดยไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง รวมทั้งการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีวินัยมากยิ่งขึ้น เพราะในปัจจุบันงบประมาณจำนวนมากถูกใช้ไปกับการประชาสัมพันธ์ให้เป็นผลงานเพื่อผลต่อคะแนนเสียงในอนาคต ดังนั้นสก.สรรหา จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการโฆษณาหาเสียงให้แก่ตนเองและพรรคการเมือง แต่การเข้าถึงประชาชน ต้องอาศัยระยะเวลานาน ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ต้องลบจุดอ่อนให้ได้

นินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกทม. เชื่อว่า งานด้านบริหารจะเดินต่อไปได้ ซึ่งสก.ใหม่ต้องศึกษาพ.ร.บ.บริหารราชการกทม. ให้เป็นประโยชน์ต่อการบริการงาน อย่างไรก็ตามประชาชนยังสามารถโทรศัพท์ร้องเรียนปัญหาต่างๆ มายังศูนย์กทม.ที่เบอร์ 1555 ได้ตามปกติ และยอมรับว่า การเดินทางของเรื่องร้องเรียนจากประชาชนอาจใช้เวลาอยู่บ้าง

ด้าน ฉัตรชัย พรหมเลิศ ว่าที่ สก.สรรหา และอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย(ปภ.) กล่าวว่า หน้าที่ของสก.เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้นบทบาทคือ งานบริหาร ต้องพิจารณาข้อบัญญัติของกทม. พิจารณาเรื่องงบประมาณ และทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการกทม.ในการดูแลประชาชน

ทั้งนี้ ตำแหน่งเดิมที่เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย สังกัดกระทรวงมหาดไทย มีความเชื่อมโยงทำงานเป็นเนื้อเดียวกับ กทม.อยู่แล้ว ในเรื่องของภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ดังนั้นการทำงานที่ผ่านมาจึงทำด้วยกันมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ต้องเข้าใจว่าทุกคนที่ได้รับการสรรหาเข้ามาเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ หลายคนเป็นอดีตปลัดกระทรวง เคยเป็นช้าราชการระดับ 10  จึงไม่ต้องสงสัยเรื่องความรู้ประสบการณ์ที่ผ่านระบบการทำงานมายาวนาน และเชื่อว่าความทุ่มเทของสก.แต่ละคนจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งต้องดูผลงานในระยะยาวได้พิสูจน์ตัวเอง

“หน้าที่ของสก.แต่ละคนควรทำเพื่อประชาชน ไม่ว่าจะมาจากการสรรหาหรือเลือกตั้ง หากไม่ทำก็ถือว่าทรยศต่อประชาชน ยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงการทำงานอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องอายุของสก.สรรหา จะอยู่จนครบวาระ 4 ปีหรือจะต้องสิ้นสุดไปตามคำสัญญาของรัฐบาล ส่วนตัวมองว่า การได้รับเลือกมาเป็นสก.นั้นมาด้วยกฎหมาย มาด้วยรัฐบาล ดังนั้นถ้าจะไปก็ต้องไปด้วยกฎหมาย” นายฉัตรชัย กล่าว

สำหรับ รายชื่อสก.สรรหาที่ได้รับการคัดเลือก ประกอบด้วย ข้าราชการประจำ 11 ราย อดีตข้าราชการ 17 ราย และภาคเอกชน 2 ราย ซึ่งแบ่งสายงานจากประสบการณ์ทำงาน ดังนี้

กลุ่มนักกฎหมาย อาทิ นายกิตติ บุศยพลาการ ผู้ตรวจการอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ,น.ส.ดวงพร รุจิเรข อดีตรองเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ,นายนิรันดร์ ประดิษฐกุล อดีตรองเลขาธิการ ป.ป.ช. และนายอัครวัฒน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา กรรมการร่างกฎหมายประจำสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

กลุ่มที่มีประสบการณ์ทำงานร่วมกับ กทม. อาทิ ร.ต.ต. เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ อดีตปลัด กทม. ,นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย,นายพรเทพ ศิรวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย ,นางวรรณวิไล พรหมลักขโณ อดีตรองปลัด กทม.

กลุ่มทหาร พล.อ.โกญจนาท จุณณะภาต อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ,พล.ต.โชติภณ จันทร์อยู่ ฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ,พล.ต.สุทธิชัย วงศ์บุบผา อดีตผู้บัญชาการศูนย์การเคลื่อนย้าย กองทัพบก

กลุ่มตำรวจ พล.ต.ท.ธีรศักดิ์ ง่วนบรรจง อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล ,พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการกองปราบปราม ,พล.ต.ท.พลบูรณ์ ชำนาญกูล อดีตผู้บังคับการอำนวยการ ตชด.

นอกจากนี้ สก.สรรหา จะเริ่มประชุมนัดแรกในวันที่ 24 ก.ย.นี้ เพื่อแต่งตั้งประธาน และรองประธานคนที่ 1-2 ต่อไป จากนั้นจะแบ่งสายงานดูแลภายในกทม. ทั้ง11 คณะอาทิ สำนักการโยธา สำนักการแพทย์ สำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักอนามัย  

 

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมบอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บอลวันนี้ วันเสาร์ที่ 20 ธ.ค. 68