พาณิชย์ เตรียมปิดหาดพัทยา เยียวยาผู้ขายราชประสงค์
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับการจัดงาน
“รวมพลังเพื่อวันใหม่” ที่ปิดถนนสีลม ทำถนนคนเดินระหว่างวันที่ 2829 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่ามีผู้ประกอบการจากเหตุการณ์ความไม่สงบมาเข้าร่วมงานทั้งสิ้น 1,650 ราย ไม่นับรวมแผงลอย รถเข็นต่างๆ อีกจำนวนมาก โดยในการจัดงานผู้ค้าสามารถนำสินค้ามาจำหน่ายมียอดรวม 2 วัน 140 ล้านบาท มีประชาชนมาเลือกซื้อสินค้ากว่า 4 แสนคนเมื่อเป็นเช่นนั้น ทำให้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เตรียมจัดงาน
“รวมพลังเพื่อวันใหม่” ที่พัทยา โดยจะปิดชายหาดพัทยาทำเป็นถนนคนเดิน แล้วให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองจากราชประสงค์ ประตูน้ำ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสีลมมาขายสินค้า ซึ่งจะเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการ และช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมทั้งช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนในพื้นที่“
ตั้งเป้าที่จะจัดงานวันเสาร์อาทิตย์นี้ ถ้าเตรียมการได้ทัน โดยคาดว่าจะมีประชาชนมาเลือกซื้อสินค้า 2 แสนคน เงินสะพัด 100 ล้านบาท”สำหรับการจัดถนนคนเดินริมชายหาดพัทยาครั้งนี้ จะแยกพื้นที่เป็นโซนให้ชัดเจนว่าส่วนใดเป็นผู้ประกอบการจากพื้นที่ใด เช่น ราชประสงค์ ก็จะมีมุมเฉพาะผู้ประกอบการราชประสงค์ รวมถึงประตูน้ำ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสีลม ขณะเดียวกัน จะมีมุมธงฟ้า เพื่อขายสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพให้กับประชาชนด้วย
ส่วนการจัดงาน
“รวมพลังเพื่อวันใหม่” ที่ปิดถนนสีลม เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น นางพรทิวา กล่าวว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะสามารถช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์ให้กับย่านธุรกิจสีลมว่ากลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และมีความปลอดภัย ช่วยฟื้นฟูกำลังใจและความเชื่อมั่นของคนไทยที่สามารถดำเนินชีวิตและธุรกิจต่อไปด้วยความร่วมมือ ร่วมใจกันของทุกฝ่ายอย่างไรก็ตาม กระทรวงเตรียมที่จะของบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาลวงเงินประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อนำมาจัดงานในลักษณะนี้ และงานธงฟ้ามหาชน เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ โดยหลังจากจัดงานที่พัทยาจะจัดต่อที่นนทบุรี และนครสวรรค์ ส่วนงานธงฟ้าตามแนวชายแดน จะจัดที่มุกดาหาร วันที่ 17 มิ.ย.นี้ จากนั้นจะจัดที่หนองคาย และแม่สอด
ขณะที่ นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การจัดงานในช่วงนี้ กระทรวงได้เจียดงบประมาณของตัวเองจากส่วนต่างๆ มาใช้ในการจัดงาน เพราะต้องเร่งทำทันที เพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประกอบการ แต่ในระยะยาวจะต้องได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล ซึ่งเดิมขอไว้ 138 ล้านบาท ขอเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท


