posttoday

5จอมหลีกไป...ตร.กล้าไหมจัดการแก๊งค์เช็ดกระจก

20 สิงหาคม 2557

“แก๊งเช็ดกระจก” มีอยู่ในทุกพื้นที่ทั้ง 88 สน. และนับเป็น “ปัญหาคาใจ” ที่ประชาชนต้องการให้จัดการเป็นลำดับต้นๆ

โดย... ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์

เรียกได้ว่า “โดนใจ” ผู้ใช้รถใช้ถนนในกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นอย่างยิ่ง กับผลงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ที่รวบตัว “แก๊งเช็ดกระจกรถยนต์” ซึ่งก่อกวนสร้างความรำคาญตามสี่แยกไฟแดง

จากพฤติกรรมการก่อเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการสาดน้ำสกปรกเข้าใส่รถ รุมเช็ดพร้อมทั้งขอเงิน หากไม่ให้ก็จะถูกด่าทอด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือหนักเข้าก็ทุบรถ ข่วนขีดสร้างความเสียหาย

แม้ว่าข้อหาที่สมาชิกแก๊งได้รับจะเป็นโทษสถานเบา คือข้อหาก่อสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน แต่ประชาชนก็ “พึงพอใจ” ที่กลุ่มคนเหล่านี้ถูกจัดการเสียบ้าง

เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่า “แก๊งเช็ดกระจก” มีอยู่ในทุกพื้นที่ทั้ง 88 สน. และนับเป็น “ปัญหาคาใจ” ที่ประชาชนต้องการให้จัดการเป็นลำดับต้นๆ

อย่างไรก็ดี แม้ว่าเจ้าหน้าที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ จะโชว์ฟอร์มเรียกดอกไม้และเสียงชื่นชมได้มาก

ทว่า นาทีนี้แก๊งเช็ดกระจกก็ยังออกอาละวาดอยู่ และปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไขชนิดขุกรากถอนโคนตามที่ประชาชนคาดหวัง

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) บอกว่า ถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรงในการป้องกันและปราบปรามกรณีนี้ และที่ผ่านมาก็เคยมีการกวดขันเรื่องนี้มาอยู่ตลอด แต่อยากชี้แจงว่าระยะหลังมานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมีภารกิจมากมาย ทำให้อาจปล่อยปละละเลยเรื่องการสร้างความรำคาญบนท้องถนนไป

“แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้น เชื่อว่าตำรวจก็ต้องเร่งปราบปรามอยู่แล้ว”พล.ต.ต.จิรสันต์ ระบุ

ด้าน พ.ต.อ.วีระวิทย์ วัจจนะพุกกะ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร ยอมรับว่า แม้พฤติกรรมของแก๊งเช็ดกระจกและกลุ่มคนเร่ขายพวงมาลัย หรือสิ่งของต่างๆ ตามท้องถนนและบริเวณสี่แยกไฟแดงจะผิดกฎหมายอย่างชัดเจน เพราะมีข้อห้ามชัดเจนว่าห้ามมิให้ลงมาเดินบนถนน เว้นแต่บนทางม้าลายสำหรับให้ประชาชนข้ามถนนเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังถือเป็นหน้าที่โดยตรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องจับกุมเพื่อดำเนินกฎหมาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ต่างไปจากแมวไล่จับหนู คือเมื่อไม่มีตำรวจอยู่ในพื้นที่ กลุ่มคนเหล่านี้ก็จะออกมาเดินเร่บนถนนเช่นเดิม

“ยอมรับว่าตำรวจไม่มากพอที่จะไปจับตาดูอยู่ทุกแยกไฟแดงแน่นอน แต่หากเราเห็นเราก็จะจับ และนี่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเหตุการณ์นี้”พ.ต.อ.วีระวิทย์ ระบุชัด

พ.ต.อ.วีระวิทย์ บอกอีกว่า ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนยังสามารถไปแจ้งตำรวจตามป้อมต่างๆ ที่กระจายอยู่ตามแยกไฟแดงได้ หากมาแจ้งก็จะดำเนินการจับกุมให้

สำหรับบทลงโทษของแก๊งเช็ดกระจกที่ผ่านมา อาจมีหลายคนที่มองว่าเบาเกินไปเมื่อเทียบกับมูลค่าความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น อาทิ การขีดข่วนรถจนเป็นรอย การทุบตีจนรถเสียหาย หรือการใช้น้ำสกปรกสาดใส่ที่เข้าข่ายสร้างความรำคาญ ซึ่งทั้งหมดก็สุดแล้วแต่จะพิจารณา

ด้วยข้อกฎหมายเป็นเช่นนี้ จึงทำได้เพียงว่ากล่าวตักเตือน แต่หากเกิดความเสียหายกับทรัพย์สินขึ้นจริงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น

“โพสต์ทูเดย์” ออกสำรวจสี่แยกใหญ่ใน กทม.พบว่ายังมีแก๊งเช็ดกระจกก่อเหตุอยู่อย่างเป็นปกติ และยังพบว่ามีผู้ยอมให้เงินเพื่อแลกกับความปลอดภัยเป็นจำนวนมาก

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเริ่มที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว เป็นแก๊งราว 15 คน อายุ 10-18 ปี เมื่อรถติดไฟแดงก็จะเดินออกมาเช็ดทันทีโดยไม่ถาม ขณะที่เด็กอายุน้อยๆ จะเดินขอเงินรถคันต่างๆ ที่จอดอยู่

ที่แยกอโศก-รัชดา พฤติกรรมในลักษณะเดียวกัน แต่จะมีขอทานที่เป็นชายวัยกลางคนเดินคู่กับกลุ่มวัยรุ่นเช็ดกระจก เพื่อขอเงินด้วย

ที่บริเวณลงทางด่วนด่านท่าเรือ เขตคลองเตย ช่วงไฟแดงด้านซ้ายเป็นสถานีตำรวจทางด่วน 1 เมื่อรถติดไฟแดงจะมีหญิงสาวอุ้มเด็กออกเดินเรี่ยไรเงิน และมีกลุ่มวัยรุ่นจะออกมาเช็ดกระจกเช่นกัน

ขอบคุณภาพจากคุณ Atthaphon Prachakseranee

ข่าวล่าสุด

รฟม.มอบของขวัญปีใหม่ ขยายเวลาวิ่งรถไฟฟ้า 4 สายถึงตี 2 ฉลองปี 2569