posttoday

พยานเห็นน้องแก้มมาพร้อมชายผมยาวที่ชะอำ

07 กรกฎาคม 2557

ผู้ว่าการรถไฟฯสั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกสถานีหาตัวน้องแก้มแต่ยังไม่พบเบาะแส ตำรวจคุมตัวพนักงานสอบ

เจ้าของร้านอาหารริมหาดชะอำเผยเห็นน้องแก้มมาพร้อมชายผมยาว แต่ไม่มีท่าทีพิรุธ เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบที่พักในพื้นที่ ด้านรฟท.เผยตรวจกล้องวงจรปิดยังไม่พบเบาะแส

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.พ.ต.ท.วุฒิเทพ เพ็ญแสง  สารวัตรตำรวจรถไฟสถานีรถไฟหัวหิน กล่วถึงกรณี น้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี ที่หายตัวปริศนาไป บนขบวนรถไฟสายสุราษฎร์ธานี -กทม.  ตั้งแต่วันที่  6ก.ค. ว่า ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ  ลงพื้นที่เขตติดต่ออำเภอหัวหิน กับบริเวณค่ายพระรามหก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้า หลังจากมีการตรวจพบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นจุดสุดท้ายที่สัญญาณโทรศัพท์มือถือของน้องแก้มหายไปโดยได้พยายามนำกำลังเข้าตรวจสอบในจุดที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีหลายจุด ทั้งในส่วนของสถานีรถไฟเพชรบุรีที่ขบวนรถจอด  จุดสัญญาณมือถือที่หายไปจุดสุดท้ายคือบริเวณค่ายพระรามหก  อ.ชะอำ  พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางขบวนรถไฟแล้ว 

อย่างไรก็ตามล่าสุดได้มาตรวจสอบที่  ร้านอาหารตามสั่ง ชื่อร้าน ปั้นป้ายอาหารตามสั่ง  ร้านอยู่บริเวณ  ซอยท่ารถทัวร์  ริมชายหาดชะอำ อ.ชะอำ  ซึ่งเจ้าของร้านอาหาร  ยืนยันกับเจ้าหน้าที่หลังเห็นภาพถ่ายน้องแก้มว่า  เมื่อที่ 6 ก.ค.เวลาประมาณ 14.00 น. พบน้องแก้ม สะพายกระเป๋ามาพร้อมกับผู้ชาย ผิวดำ ผมยาว สูงประมาณ 165 เซนติเมตร  โดยน้องแก้มและชายคนดังกล่าวได้เข้ามาสั่งอาหารรับประทานตามปกติ ซึ่งทั้งคู่ไม่มีอาการผิดปกติ แต่เหมือนกับเพื่อนมาด้วยกัน ไม่ได้ทะเลาะหรือมีท่าทีหวาดกลัวใดๆ จึงไม่ได้สงสัย เพราะคิดว่าลูกค้าทั่วไปมาเที่ยวทะเลแล้วมาทานอาหาร ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกจากร้านไปหลังรับประทานอาหารเสร็จแต่ไม่ทราบทิศทาง

ขณะนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบบ้านพัก เกสต์เฮ้าท์  และจุดท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงตลอดแนวชายหาดชะอำ เพื่อค้นหาน้องแก้มแล้ว แต่ด้วยชาดหาดชะอำมีที่พักขนาดใหญ่และเล็กจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลา แต่ทั้งนี้น้องแก้มก็อาจไม่ได้พักที่ชายหาดชะอำก็ได้ แต่อาจเดินทางต่อไปที่ใดที่หนึ่ง

ด้าน นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตามหาตัว น้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี ที่หายตัวปริศนาไป บนขบวนรถไฟสายสุราษฎร์ธานี -กทม.  ตั้งแต่วันที่  6ก.ค. ที่ผ่านมาว่า ร.ฟ.ท.ไม่ได้นิ่งนอนใจโดยได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการค้นหา อย่างเต็มที่และต่อเนื่อง  โดยได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รถไฟนำรถออกตรวจสอบตามหาตลอดบริเวณข้างทางรถไฟวิ่งผ่าน  รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ ซีซีทีวี ทุกสถานีที่ขบวนรถดังกล่าวผ่าน แต่ยังไม่พบเบาะแสน้องแก้ม

ทั้งนี้จากการสอบถามญาติ และรวบรวมข้อมูลในที่เกิดเหตุค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า น้องแก้มอาจหายตัวไปในเขต จ.เพชรบุรี ช่วงเวลาประมาณ 03.00-04.00 น. ของวันที่ 6 ก.ค.  และเพื่อให้การทำงานมีความคืบหน้า ร.ฟ.ท. ต้องการขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากใครพบเห็นและสามารถชี้เบาะแส ข้อมูลเกี่ยวกับน้องแก้มได้ รฟท. ได้ตั้งรางวัลในการชี้เบาะแส ไว้ให้เป็นสินน้ำใจจำนวน50,000 บาทด้วย

สำหรับรายละเอียดด้านการสืบสวนสอบสวนในคดีนั้นคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนไม่สามารถที่จะเปิดเผยรายละเอียดได้   ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานความคืบหน้าให้ตนทราบตลอดเวลา  ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจนำตัวไปสอบสวนนั้นส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานบนรถขบวนดังกล่าวซึ่งขณะนี้ตำรวจยังไม่ต้องตั้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด

“รถไฟฯจะเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารบนขบวนรถไฟให้มากขึ้น โดยได้สั่งการให้เร่งติดตั้งซีซีทีวีภายในขบวนรถไฟ ด้วยนอกเหนือไปจากบริเวณตัวสถานี  เพื่อเฝ้าระวังการก่อปัญหาอาชญากรรมบนรถ  รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ รวมถึงใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีในกระบวนการยุติธรรมหากเกิดคดีขึ้นบนรถ  ในระยะสั้นจะเร่งให้มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวีโดยเร็วที่สุด ราคาต้องไม่แพง คุณสมบัติสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ก็พอ ซึ่งคงจะใช้เงินไม่มากนัก เนื่องจากขบวนรถที่ใช้อยู่ปัจจุบันมีสภาพเก่าไม่ควรลงทุนติดตั้งกล้องแพง เบื้องต้นจะไม่ตั้งของบจากกระทรวงคมนาคมเพราะต้องใช้พิจารณานานมาก จะใช้เงินของรถไฟเองไปก่อน  ส่วนในระยะยาว ผมก็มีนโยบายชัดเจนว่า ขบวนรถใหม่ทุกคันที่รฟท.กำลังจะสั่งซื้อจำเป็นต้องมีระบบซีซีทีวีที่ทันสมัยทุกขบวน    เพราะต่อจากนี้ซีซีทีวีจะต้องเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของขบวนรถไฟไทย”นายประภัสร์กล่าว

นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. ยังไม่พบผู้สูญหาย ไม่ว่าจะเป็นสองข้างทางรถไฟวิ่งผ่าน และกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในสถานีใหญ่ก็ยังไม่พบการขึ้นลงของผู้ที่สูญหายแต่อย่างใด เบื้องต้นทาง รฟท.ได้รวบรวมรายละเอียดต่างๆส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไปแล้ว

ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.ได้ดำเนินการทุกขั้นตอนเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของเจ้าหน้าที่รถไฟฯที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนขบวนรถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวเจ้าหน้าที่ประจำรถจำนวน 5 คนไปสอบสวน ประกอบด้วย พนักงานรถนอนชายที่ทำหน้าที่ปูเตียง จำนวน 3 คน เจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วชายจำนวน 1 คน และพนักงานทำความสะอาดขบวนรถชาย ซึ่งเป็นพนักงานจากบริษัทภายในนอกที่รฟท.จัดจ้างเข้ามาดำเนินงานจำนวน 1 คน  ซึ่งภายหลังการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจไปปล่อยตัวพนักงานรถนอนไป1 คน เพราะมีหลักฐานชี้ชัดว่าพนักงานดังกล่าวไม่ได้อยู่บนรถที่เกิดเหตุรวมทั้งยังอยู่ระหว่างการพักผ่อนอยู่

ในส่วนพนักงานที่เหลืออีก 4 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อเก็บหลักฐาน   ทั้งนี้ทราบว่าจากการตรวจร่างกายพนักงานทำความสะอาดพบว่ามีร่องรอยขีดข่วนแต่ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานผลการตรวจร่างกายของบุคคลทั้ง4ไว้แล้ว

"ยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวมาก่อน  ไม่เคยมีกรณีคนสูญหาย จะมีก็เพียงกรณีการสูญหายที่เกิดจากผู้โดยสารไปนั่งหรือไปยืนสูบบุหรี่บริเวณรอยต่อขบวน เมื่อขบวนรถมีการเหวี่ยงตัวก็ทำให้ผู้โดยสารพลัดตกไปข้างทาง ซึ่งก็สามารถหาเจอทุกครั้ง ส่วนมากพบว่าตกอยู่บริเวณข้างทางรถไฟ แต่ครั้งนี้กลับเป็นการหายตัวไปบนขบวนรถ"นายทนงศักดิ์กล่าว

นายทนงศักดิ์ กล่าวว่า มาตรการเร่งรัดติดตั้งกล้องซีซีทีวีบนตัวรถไฟซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่นายประภัสร์เน้นย้ำให้ปฏิบัติในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าร.ฟ.ท. ปีนี้จะเร่งดำเนินการติดตั้งซีซีทีวีทั้งภายในและภายนอกขบวนรถไฟ ชนิดรถด่วน และรถเร็ว จำนวนรวม 50-60 ขบวนก่อน   โดยจะติดตั้งเฉลี่ยขบวนละ 10 ตัว

เนื่องจากเป็นรถไฟประเภทที่ผู้โดยสารใช้โดยสารในช่วงเวลากลางคืนซึ่งเป็นเวลาการนอนหลับพักผ่อน  อย่างไรก็ตาม  ปัจจุบันรฟท. ได้ดำเนินการติดตั้งซีซีทีวีบนขบวนรถไฟท้องถิ่นในเส้นทาง3 จังหวัดภาคใต้แล้วจำนวน 5 ขบวน  เฉลี่ยขบวนละ 10 ตัว  ซึ่ใช้เงินเงินในการดำเนินการประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนภายในท้องถิ่น  เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดปัญหาภัยจากการก่อการร้ายและความไม่สงบภายใน3จังหวัดทางภาคใต้อย่างต่อเนื่อง

บรรยายภาพ น้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปีที่หายตัวไป/ที่มาภาพจาก www.js100.com

ข่าวล่าสุด

ศึกไทย–กัมพูชา สองสมรภูมิ : กับดัก UNSCความเสี่ยงต้องระวัง