ชาวบ้านโวยนายทุนรุกป่าสร้างบ้านหรู
อุดรธานี-ประธานสภาเกษตรกรพร้อมชาวบ้านตรวจสอบบ้านหรูถูกทิ่งร้างกลางป่าสงวนป่าบะยาว
อุดรธานี-ประธานสภาเกษตรกรพร้อมชาวบ้านตรวจสอบบ้านหรูถูกทิ่งร้างกลางป่าสงวนป่าบะยาว
เมื่อวันที่5ก.ค.57 นายบุญศรี สุขวาปี ประธานสภาเกษตรกร จ.อุดรธานี ตัวแทนหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อด.10 (วังสามหมอ) , สนง.สปก.อุดรธานี , สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.อุดรธานี , นายวิบูลย์ ศิลาพล กำนัน ต.บะยาว และชาวบ้านนานกชุม ต.บะยาว เดินทางเข้าตรวจสอบ บ้านร้างกลางป่าสงวนแห่งชาติป่าบะยาว ที่ชาวบ้านร้องเรียนว่า มีนายทุนเข้ามาอ้างสิทธิยึดครองหลังจากเคยตกเป็นข่าวดัง "รีสอร์ททัพช้าง" เมื่อปี 2542
คณะเดินทางไปถึงพบเพียง "บ้านร้างขนาดใหญ่" ถูกสร้างอยู่เชิงเขาเตี้ยๆ มีบ้านบริวาล 2 หลังสร้างไม่เสร็จอยู่ข้างๆ หันหน้าลงมาหาฝ่ายน้ำล้น และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก รายล้อมด้วยพื้นที่ป่าที่ยังอุดมสมบูรณ์ ไม่พบผู้อ้างตัวเป็นเจ้าของตามคำร้องเรียน ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ในปี 42 มีการออกเอกสาร สปก.4-01 รวม 6 แปลง 66-2-51 ไร่ มีการสร้างถนนลาดยาง ปักเสาพาดสายไฟฟ้ามาถึง,สร้างฝายล้ำล้นและอ่างเก็บน้ำ โดยมีนักการเมืองระดับประเทศ เข้ามาพัฒนาพื้นที่เป็นเหมือนรีสอรท์ เมื่อตกเป็นข่าวนายปลอดประสพ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ขณะนั้น บินมาตรวจสอบด้วยตัวเอง การก่อสร้างจึงหยุด
นายวิบูลย์ฯ กำนัน ต.บะยาว เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่เข้ามาหาปลาบริเวณฝายฯ หรือหาของป่าในบริเวณนี้และใกล้เคียง ก็จะถูกข่มขู่จากนายทุนนอกพื้นที่ ห้ามเข้ามาในพื้นที่ของเขา ซึ่งเป็นเจ้าของเอกสารสิทธิถูกต้อง หากเข้ามาอีกจะถูกดำเนินคดี และถูกฟ้องร้อง ชาวบ้านจึงมาพบร้องเรียน ว่านายทุนออกเอกสารสิทธิได้อย่างไร เพราะที่ดินบริเวณนี้กรมป่าไม้ เคยยึดพื้นที่บริเวณนี้กลับคืนมาแล้ว คนที่บุกรุกก็ถูกดำเนินคดี และชาวบ้านเข้ามาปลูกป่าทดแทน ให้เป็นพื้นที่ป่าคู่กับชุมชนตลอดไป จึงอยากให้มีการตรวจสอบพื้นที่นี้ใหม่
นายวิบูลย์ฯ กล่าวอีกว่า มีลูกบ้านมาหารือเรื่องนี้มากขึ้น พร้อมสอบถามว่า ทำไมชาวบ้านในพื้นที่ที่มากินตามที่ดินในเขต ที่เป็นป่าเสื่อมโทรม กลับไม่ได้ สปก.4-01 แต่นายทุนกับได้ครอบครอง ซึ่งช่วงนี้ทาง คสช.กำลังทำการปฏิรูปประเทศ ตนจึงรวบรวมรายชื่อชาวบ้าน ทำหนังสือยื่นต่อสภาเกษตรกร จ.อุดรธานี รวมถึงให้ทางสัสดีอำเภอ ที่เป็นทหาร ให้รายงานให้ทางมณฑลทหารบกที่ 24 ทราบ ถึงวันนี้ทางสภาเกษตรกรฯ ได้นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย มาร่วมประชุม รับฟังเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมลงพื้นที่จริง เพื่อทำการตรวจสอบ
นายบุญศรี สุขวาปี ประธานสภาเกษตรกร จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้มาดูข้อเท็จจริงกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง และได้ขอให้ สนง.สปก.อุดรธานี และ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.อุดรธานี ตรวจสอบหาข้อสรุป เพื่อมาแจ้งให้ชาวบ้านในพื้นที่รับทราบอีกครั้ง หากว่า สปก.ออกโดยมิชอบ ก็ให้คืนสิทธิให้กับชาวบ้าน โดยมีป่าไม้เข้าร่วมดำเนินการในฐานะเจ้าของพื้นที่ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น ทางสภาเกษตรกรฯได้แจ้งให้ทางทหารที่ มทบ.24 รับทราบแล้ว ซึ่งขณะนี้ทางทหารก็รอฟังข่าวว่า มีการดำเนินการถึงไหน อย่างไร โดยจะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบเขต หลักหมุด ของทั้ง สปก.และป่าไม้ อย่างละเอียดอีกครั้ง


