โคลอมเบียดุ ถล่มกรีซยับ 3-0
โคลอมเบียเปิดสนามฟุตบอลโลก 2014 เกมแรกได้อย่างดุดัน ไล่ถลุงกรีซไปแบบขาดลอย 3-0
ฟุตบอลโลก 2014
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นักแรก
โคลอมเบีย 3-0 กรีซ
สนาม เอสตาดิโอ มิไนเรา, เบโล โอริซอนเต้
14 มิถุนายน 2014
เกมนี้ออสตาร์ทตามเวลาที่บราซิลประมาณบ่ายโมง นัดเปดสนามของกลุ่มซีโคลอมเบียมาในเสื้อสีเหลืองชุดเก่งนำโดย เจมส์ โรดริเกวซ, อันเดรียส กวาร์ดาโด้ กัปตันทีม มาริโอ เยเปส วัย 38 ปี ขณะที่กรีซจัดชุดใหญ่มาในชุดสีน้ำเงินล้วนขาดเพียง จอร์จอส คารากูนิส เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งและที่มีชื่อเป็นเพียงตัวสำรอง
เริ่มเกมได้เพียง 5 นาที โคลอมเบียมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ อันเดรียส กวาร์ดาโด้ โยกหลบแบ็คซ้ายของกรีซแล้วเปิดเรียดเข้ากลางก่อนที่ เจมส์ โรดริเกวซ จะวิ่งข้ามบอลให้ ปาโบล อาเมโร่ แบ็คซ้ายวิ่งเติมมาแปด้วยขวาแฉลบ คอสตาส มาโนลาส เข้าประตูไป โคลอมเบียขึ้นนำไว 1-0
กรีซเกือบได้ประตูคืนทันควันจากจังหวะที่ จอร์จอส ซามาราส เปิดเรียดจากกราบซ้ายให้ พานาจิโอติส โคเน่ ซัดด้วยขวาแต่โชคร้ายที่ โคเน่ มาลื่นในจังหวะยิงบอลเลยผ่านหน้าประตูไปแบบได้ลุ้น
จากนั้นเป็นกรีซที่ได้ครองเกมมากกว่า แต่ยังไม่สามารถพาบอลไปถึงพื้นที่สุดท้ายได้มากเท่าที่ควร ส่วนโคลอมเบียที่คล่องและสปีดดีกว่าเน้นสวนกลับเร็วและใช้ความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นเป็นส่วนใหญ่
นาทีที่ 26 คาร์ลอส ซานเชซ มิดฟิลด์ตัวรับของโคลอมเบียมาโดนจดชื่อเป็นรายแรกหลังไปทำฟาวล์จังหวะที่ ซามาราส กำลังจะกระชากบอล เป็นตำแหน่งสำคัญที่ทำให้ ซานเชซ ต้องระวังตัวในช่วงที่เหลือมากขึ้นแล้ว
โฮเซ่ โอเลบาส แบ็คซ้ายของกรีซโยนฟรีคิกจากกราบซ้ายให้ โทโรซิดิส แบ็คขวาจอมบุกได้โขกเต็มๆ แต่สบัดหัวไม่พอบอลเลยไม่ตรงกรอบ พลาดโอกาสตีเสมอไปอีกครั้ง
ซามาราส แตะหลบ ฮวน คาร์มิโล่ ซูนิก้า แล้วทำท่าเหมือนจะตวัดเข้ากลาง ก่อนจะหลอกยิงด้วยซ้าย ยังดีที่ ดาบิด ออสปิน่า นายด่านของโคลอมเบียยังยืนปิดเสาได้ดี
ช่วงนาทีสุดท้ายกรีซน่าจะได้โอกาสตีเสมอสุด ธีโอฟานิส เกคัส ลากบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนจะโดย ซานเชซ สกัดบอล แต่บอลไหลมาเข้าทางบริเวณหัวกะโหลกให้ โคเน่ ได้บรรจงปั่นด้วยขวา ร้อนถึง ออสปิน่า ต้องงัดซูเปอร์เซฟปัดออกหลังไปได้ เป็นการเซฟที่ยอดเยี่ยมสำหรับนายทวารวัย 25 ปี จบครึ่งแรกโคลอมเบียนำกรีซ 1-0
ครึ่งหลังเริ่มได้ นาทีเดียวกรีซเกือบได้จุดโทษ ซามาราส ไปทิ้งตัวจากจังหวะที่ ซูนิก้า แหย่ขาสกัด แต่ ซามาราส ลุกขึ้นมาส่งสัญญาณให้กรรมการว่าไม่ฟาวล์
นาทีที่ 50 เจมส์ โรดริเกวซ มีโอกาสได้ซัดจากนอกกรอบเขตโทษด้วยซ้าย บอลพุ่งมาด้วยความแรงแต่ ออเรสติส คาร์เนซิส ยังทุบบอลออกไปได้
ใบเหลืองที่สองของเกมตกเป็นของ โซคราติส ปาปาสทาโธปูลอส เซ็นเตอร์ของกรีซที่ไปเข้าบอลจากด้านหลัง วิคตอร์ อิราบาโบ แบบน่าเกลียด หลังจากนั้น ดิมิทริส ซัลปิงกิดิส กรีซมาได้อีกหนึ่งเหลือง
กรีซที่เป็นฝ่ายตามหลังเริ่มขยับเปลี่ยนตัวไปก่อน โดย ส่ง ยอนนิส เฟตฟัตสิดิส ลงมาแทน ซัลปิงกิดิส ในนาทีที่ 57
นาทีที่ 58 เตโอฟิโล่ กูเตียร์เรซ มาบวกประตูที่สองให้โคลอมเบีย จากจังหวะที่ เจมส์ โรดริเกวซ เปิดลูกเตะมุมเรียดให้ อาเบล อากีลาร์ แตะเปลี่ยนทางให้ กูเตียเรซ จิ้มง่ายๆ เข้าประตูไป เป็นประตูที่ 13 ในนามทีมชาติโคลอมเบีย
กรีซน่าจะได้ประตูสุดๆ จากจังหวะที่ โทโรซิดิส เปิดใส่พานทองฝังเพชรให้ เกคัส ได้โขกหน้าปากประตูโล่งๆ แต่บอลเจ้ากรรมลอยไปชนคานแบบน่าเหลือเชื่อ
นาทีที่ 64 เฟอร์นานโด ซานโต๊ส อยู่เฉยไม่ได้แล้ว ตัดสินใจส่ง คอสตาส มิโทรกลู ดาวยิงจาก ฟูแล่ม ลงมาแทน เกคัส ที่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยในเกมนี้
ตั้งแต่นาทีที่ 69 กุนซือ โฮเซ่ เปเกร์มัน เริ่มหมุนเวียนผู้เล่นให้ได้ยืดเส้นยืดสายเริ่มตั้งแต่ถอด อากีลาร์ ออกแล้วส่ง อเล็กซานโดร เมฆิอา ลงมาเสริมแดนกลาง ก่อนจะเอา ซานติอาโก้ อาริอาส กองหลังวัย 22 ปีจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ลงมาแทน แล้วให้ แจ็คสัน มาร์ติเนซ ดาวซัลโวจาก เอฟซี ปอร์โต้ ลงมาค้ำแดนหน้าแทน กูเตียร์เรซ คนทำประตูที่สอง
ด้านกรีซเปลี่ยนเอา โคเน่ ที่ดูจะเงียบๆ ไปออกแล้วส่ง จอร์จอส คารากูนิส กองกลางตัวเก๋าวัย 37 ปีลงมาปั้นเกมรุกหวังตีตื้นให้ได้
กวาร์ดาโด้ ตอบส้นให้ เจมส์ แปด้วยซ้าย บอลติดปลายมือ คาร์เนซิส ก่อนจะไหลเข้าประตูไปให้โคลอมเบียทิ้งห่างเป็น 3 ประตู
จบเกมโคลอมเบียเอาชนะกรีซไปได้ 3-0 เก็บ 3 แต้มเต็มได้สำเร็จ เกมต่อไปโคลอมเบียจะไปพบกับงานหนักอย่าง ไอวอรี่ โคสต์ในวันที่ 19 มิถุนายน ส่วนกรีซจะพบกับญี่ปุ่นในคืนวันเดียวกัน
โคลอมเบีย
ดาวิด ออสปินา, มาริโอ เยเปส, คริสเตียน ซาปาต้า, ปาโบล อาร์เมโร่, อเบล อากีล่าร์, คามิโล่ ซูนิก้า, คาร์ลอส ซานเชซ, ฮวน กัวดราโด้, วิคตอร์ อิบาร์โบ้, เจมส์ โรดริเกวซ, เตโอฟิโล่ กูเตียร์เรซ
ผู้จัดการทีม: โฮเซ่ เปเกร์มัน
กรีซ
โอเรสติส คาร์เนซิส, โฮเซ่ โฮเลบาส, วาซิลิส โทโรซิดิส, โซคราติส ปาปาสทาโธปูลอส, คอสตาส มาโนลาส, คอสตาส คัตซูรานิส, พานาจิโอติส โคเน่, จานนิส มาเนียติส, จอร์จอส ซามาราส, ธีโอฟานิส เกคัส, ดิมิทริส ซัลปิงกิดิส
ผู้จัดการทีม: เฟอร์นานโด ซานโต๊ส


