แมลงและเมือก ทำให้อาหารอร่อย
แมลง เส้นผมมนุษย์ ไวรัส ขี้เลื่อย และสารคัดหลั่งจากต่อมข้างทวารบีเวอร์ คือสิ่งแปลกๆ
แมลง เส้นผมมนุษย์ ไวรัส ขี้เลื่อย และสารคัดหลั่งจากต่อมข้างทวารบีเวอร์ คือสิ่งแปลกๆ ที่ผู้ผลิตเติมลงไปในอาหารของเรา แต่สารแปลกๆ ที่เติมลงไปนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ไม่เป็นอันตราย มันไม่ได้ทำอะไรนอกจากช่วยปรับปรุงคุณภาพอาหาร
ถ้าคุณพบเส้นผมในขนมปังที่ซื้อมาจากร้านเบเกอรี่ในละแวกบ้าน คุณอาจจะเลิกซื้อของร้านนั้นไปเลย แต่ที่จริงขนมปังที่คุณซื้อนั้นจำนวนมากมีผมปนอยู่ก้อนละราว 10 เส้น ผมเหล่านี้ไม่ได้มาจากตัวคนอบขนมปัง มันอาจจะเป็นผมของผู้ไปเยือนวัดในอินเดียซึ่งถอนผมมาบูชายัญเพื่อแก้บนก็ได้
ผมไม่ใช่วัตถุเจือปนอาหารแปลกๆ อย่างเดียวที่ผู้ผลิตใส่ลงไปในผลิตภัณฑ์ ขี้เลื่อย สารคัดหลั่งจากบีเวอร์ และเมือกจากแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอาการเน่าเละก็อยู่ในอาหารด้วยเหมือนกัน แม้สารที่เติมลงไปเหล่านี้ฟังดูน่าขยะแขยง แต่จริงๆ แล้วมันดีนะครับ
ในโรงงานขนมปัง การนวดแป้งปริมาณมหาศาลนั้นเป็นงานหนักหนาสาหัสมาก ดังนั้นผู้ผลิตจึงต้องทำให้แป้งโดห์นุ่ม เพื่อให้นวดง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมจากมนุษย์นั้นมีกรดอะมิโนซิสเทอีนราวร้อยละ 20 มันช่วยทำให้โดห์นุ่มได้ โดยกรดอะมิโนจะบีบตัวเข้าไปอยู่ในโมเลกุลของกลูเตนในแป้ง แล้วทำให้โมเลกุลที่พันกันยุ่งคลายตัวออก แป้งโดห์จึงนวดง่ายขึ้น อบออกมาแล้วจึงน่ากินขึ้นด้วย เส้นผมเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เพราะผู้ผลิตได้ขนมปังที่ดีขึ้นโดยใช้พลังงานน้อยลง ดังนั้น สหภาพยุโรปจึงอนุมัติให้ใช้ซิสเทอีนเติมลงไปในอาหาร โดยกรดอะมิโนนี้มีรหัสอีนัมเบอร์ คือ E920
แมลงบดช่วยลดอาการแพ้รหัสอีนัมเบอร์คือ รหัสของวัตถุเจือปนที่กำหนดโดยสหภาพยุโรป ใช้ในยุโรป รวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดยวัตถุเจือปนแต่ละอันดับนั้นมีที่มาที่ไม่น่ากินสักเท่าไร
E120 คือรงควัตถุสีแดงเข้มที่สกัดมาจากเพลี้ยหอยชนิดหนึ่งในอเมริกาใต้ ชื่อ Dactylopius coccus มันกินน้ำเลี้ยงตะบองเพชรเป็นอาหาร เวลาแมลงเกาะดูดน้ำเลี้ยง มันจะไม่เคลื่อนที่ นั่นทำให้ร่างกายอ่อนนุ่มของมันตกเป็นเหยื่อของแมลงผู้ล่าได้ง่าย เพื่อป้องกันตัวเอง เจ้าเพลี้ยหอยจึงสร้างสารสีแดงเข้มที่เรียกว่าคาร์ไมน์ขึ้นมาปริมาณมาก เป็นสารที่หากมีความเข้มข้นสูงจะมีรสชาติแย่ จึงทำให้ผู้ล่าไม่เข้าใกล้ ตัวของเพลี้ยหอยนั้นมีคาร์ไมน์ 20% ของน้ำหนักตัว อุตสาหกรรมอาหารใช้คาร์ไมน์ในการให้สีน้ำอัดลม แยม และอาหารอื่นๆ แต่ใช้แค่ 0.005% ซึ่งจะให้สีแดงสวยโดยไม่มีผลกระทบต่อรสชาติ


