วิกฤตไทยคลี่คลาย สถานฑูตมั่นใจพนร้อมเปิดทำการ
โพสต์ทูเดย์
— วิกฤตการเมืองไทยที่เริ่มผ่อนคลาย ส่งผลให้บรรดาสถานทูตเริ่มมั่นใจพร้อมกลับมาเปิดอีกครั้ง ในขณะที่ยังคงมีการประกาศเตือนการเดินทางมาไทยอย่างต่อเนื่องหลังจากที่รัฐบาลสามารถเข้าควบคุมเหตุการณ์การก่อจลาจลที่เกิดขึ้น ภายหลังกลุ่ม นปช. ประกาศยุติการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา และส่งผลให้สถานการณ์โดยรวมคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นนั้น สถานทูตต่างชาติประจำประเทศไทยโดยส่วนใหญ่ที่ได้ประกาศปิดทำการชั่วคราว เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ก็เริ่มกลับมามีความมั่นใจในความปลอดภัยและพร้อมที่จะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติอีกครั้งหนึ่ง โดยสถานทูตออสเตรเลีย สถานกงสุลสโลวีเนีย และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปของไต้หวัน ยืนยันว่าจะสามารถกลับมาเปิดทำการได้ตามปกติในวันจันทร์ที่ 24 พ.ค.นี้
เช่นเดียวกันกับสถานทูตอังกฤษ เจ้าหน้าที่สถานทูตได้เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่ผ่อนคลายและเริ่มที่จะกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง ทำให้คาดการณ์ว่าสถานทูตอังกฤษอาจกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 24 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ดีต้องรอประเมินสถานการณ์ให้แน่ชัดเสียก่อน และจะออกประกาศอย่างเป็นทางการผ่านทางเว็บไซต์ของสถานทูตในวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ค.
ก่อนหน้านี้สถานทูตสวีเดนและสถานทูตเช็ก ก็ได้เริ่มกลับมาเปิดทำการตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 พ.ค. ในส่วนของสถานทูตญี่ปุ่นและสวิตเซอร์แลนด์ก็เปิดทำการตามปกติ แต่ได้ย้ายที่ทำการออกไปนอกสถานที่ โดยสถานทูตญี่ปุ่นย้ายจากบริเวณถนนวิทยุไปยังสำนักงานชั่วคราวที่ชั้น 12 โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค และสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ ย้ายจากบริเวณถนนวิทยุไปยังสำนักงานชั่วคราวที่ชั้น 7 อาคารคอลัมน์ทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก
อย่างไรก็ดี ทางด้านสถานทูตสหรัฐจะมีเพียงเจ้าหน้าที่เข้ามาปฏิบัติงานภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินในวันจันทร์ที่ 24 พ.ค.เท่านั้น แผนกวีซ่าชั่วคราวและวีซ่าถาวรจะยังคงปิดทำการในวันดังกล่าว และสำหรับผู้ที่มีนัดสัมภาษณ์วีซ่าชั่วคราวในวันนั้น ทางสถานทูตสหรัฐจะเลื่อนวันนัดสัมภาษณ์ใหม่ และจะแจ้งให้ผู้ที่ถูกเลื่อนนัดสัมภาษณ์ให้ทราบทันทีที่สถานทูตพิจารณาว่าสถานการณ์มีความปลอดภัยเพียงพอ
สำหรับสถานทูตเบลเยียม แคนาดา และเนเธอร์แลนด์ ยังไม่มีกำหนดการที่แน่ชัดว่าจะกลับมาเปิดทำการตามปกติเมื่อใด ซึ่งต้องติดตามการประกาศอย่างเป็นทางการทางเว็บไซต์ของสถานทูตอีกครั้งหนึ่ง
ขณะเดียวกันถึงแม้ว่าบรรดาสถานทูตต่างชาติในประเทศไทยจะเริ่มมีความมั่นใจ และพร้อมที่จะกลับมาเปิดทำการตามปกติอีกครั้ง แต่ทว่าบรรดากระทรวงการต่างประเทศของอีกหลายประเทศ ก็ยังไม่วางใจกับสถานการณ์ในประเทศไทย โดยยังคงไว้ซึ่งการประกาศเตือนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
สตีเฟน สมิธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียจะยังคงการประกาศเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้เดินทางมายังกรุงเทพฯ ไว้ เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ในกรุงเทพฯ ยังคงมีความไม่แน่นอน และมีโอกาสที่ความรุนแรงจะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ มี 14 ประเทศที่ยกระดับการเตือนการเดินทางมายังประเทศไทยในระดับสูงสุด หรือประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ได้แก่ สหรัฐ อิตาลี อิสราเอล สเปน เยอรมนี เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จีน ฮ่องกง เวียดนาม และไต้หวัน
นอกจากนี้ ยังมี 25 ประเทศประกาศให้นักท่องเที่ยวทบทวนการเดินทางมายังประเทศไทย และ 50 ประเทศประกาศเตือนนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการเดินทางมายังประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การเมืองไทยช่วงสัปดาห์หน้านี้คลี่คลายไปในทิศทางที่ดี และบ้านเมืองกลับมาเป็นปกติสุขอีกครั้ง ก็มีความเป็นไปได้ว่าบรรดาประเทศต่างๆ จะลดระดับการเตือนนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการเดินทางมายังประเทศไทย


