ราชสกุล-ข้าราชบริพารเผยความประทับใจต่อในหลวง
ราชสกุล-ข้าราชบริพารเผยความประทับใจที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะร่วมเฝ้าฯรับเสด็จฯในวันฉัตรมงคล
ราชสกุล-ข้าราชบริพารเผยความประทับใจที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะร่วมเฝ้าฯรับเสด็จฯในวันฉัตรมงคล
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และราชสกุลสายต่างๆ ได้แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศและชุดขาวประดับเหรียญ เฝ้าฯรับเสด็จฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่เสด็จฯประกอบพระราชพิธีฉัตรมงคล ณ ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ บุรุษรัตนพันธุ์ และครอบครัว กล่าวว่า แม้อากาศร้อน แต่ไม่กังวลกับการแต่งกายเต็มยศเลยเพราะรู้สึกภาคภูมิใจ อิ่มเอิบใจ ที่ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 64 ปี ในปีนี้
"ตั้งใจมากันทั้งครอบครัว ไม่ได้รู้สึกว่าร้อนเลยค่ะ ดิฉันคิดว่านี่คือหน้าที่ต้องทำเพราะครอบครัวเราได้เข้าเฝ้าฯทุกปี ดีใจทุกครั้งที่ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เห็นว่าทรงมีพระพลานามัยขึ้น แข็งแรงขึ้น และการที่ทั้งประชาชนและข้าราชการ มารอเฝ้ามากมายในวันนี้ก็เป็นการแสดงออกได้ดีที่สุดว่าทุกคนรักในหลวง"ม.ล.วัลย์วิภา กล่าว
ย้อนกลับไปเมื่อราว 65 ปีก่อน ในวัย 7 ขวบ คุณหญิงใหญ่-หม่อมราชวงศ์สุพินดา จักรพันธุ์ ธิดาคนโตในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ได้มีโอกาสตามเสด็จ ท่านพ่อไปเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิดบ่อยครั้ง ซึ่งในขณะนั้นท่านพ่อของคุณหญิงได้ถวายงานนิพนธ์คำร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ อาทิเช่น แสงเทียน สายฝน ใกล้รุ่ง ยามเย็น และต่อมาได้ถวายงานโครงการในพระราชดำริด้านเกษตรกรรม ในขณะที่ดำรงค์ตำแหน่งองมนตรี
คุณหญิงใหญ่ ได้จดจำพระราชดำริ และติดตามพระราชกรณียกิจจากการถวายงานของท่านพ่อ และน้อมนำมาเป็นแบบอย่างในการทำงาน
ครั้งหนึ่งในชีวิต คุณหญิงรู้สึกปลาบปลื้มปิติ และภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯให้ผลิตการ์ตูน แอนิเมชั่นเรื่อง "พระมหาชนก"
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญ ถึงความทุกข์ยากของพสกนิกรของพระองค์ตลอดเวลา นั่นคือภาพที่คุณหญิงสุพินดาเจนตามาตั้งแต่เล็กจนโต
จากคำบอกเล่าของท่านพ่อ พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกาย และในการทรงงาน จะ ทรงลงลึกในรายละเอียด
เนื่องในวันฉัตรมงคลปีนี้ เป็นปีที่ 64 ปีแห่งการเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ นี้ คุณหญิงสุพินดากล่าวว่า ทรงมีพระปรีชาสามารถด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา แต่สิ่งที่อยู่ในพระราชหฤทัยคือ การพระราชทานความรู้ และแนวทางใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนา ชาวไร่ และเกษตรกรทั่วประเทศ
"ชาวไทยโชคดีที่ไม่มีพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในโลกที่ทรงงานหนักเท่าพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์นี้"คุณหญิงใหญ่กล่าว
ด้าน คุณจันทนี ธนรักษ์ รองราชเลขาธิการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า สิ่งที่ได้น้อมนำเมื่อเห็นการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือ ทรงประหยัดมากๆ ตัวอย่างเช่น กระดาษที่พระองค์ทรงงาน ทรงใช้กระดาษทั้ง 2 หน้า เมื่อมีซองจดหมายงานส่งทูลเกล้าฯถวายแล้ว เมื่อทอดพระเนตรแล้ว จะส่งซองกลับมาให้ใช้ต่อ
สำหรับหลักการทรงงาน ทรงสอนให้รู้จักทำงานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง และการทรงงานของพระองค์ที่ข้าราชบริพารเห็นคือ ทรงสอนให้ทำงานแบบเข้าใจคน เข้าใจว่าผู้ที่เราทำงานด้วยเป็นคนแบบใด เพื่อการเรียนรู้ที่เข้าใจคน จะได้ปกครองดูแลเขาได้ ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัว
"รู้สึกโชคดี รู้สึกคุ้มเกล้าคุ้มกระหม่อม อยู่รอดปลอดภัยเมื่อคิดถึงพระองค์ท่าน"คุณจันทนีกล่าว
ด้าน ม.ร.ว.ดิลก จุฑาธุช บุตรชายพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช เดินทางพร้อมภรรยา จุฬาลักษณา จุฑาธุช ณ อยุธยา ซึ่งเดินทางมาจากประเทศอังกฤษเพื่อร่วมงานฉลองวันฉัตรมงคลโดยเฉพาะ ระบุว่า ดีใจและภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้มาเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
"ทุกวันสำคัญผมกับภรรยาจะใช้ช่วงเวลานี้เดินทางกลับมาเมืองไทย ผมได้เข้าเฝ้าฯในหลวงครั้งแรกโดยตามท่านพ่อมากรุงเทพฯตั้งแต่ 12ขวบ แล้วการมาทุกปีก็เพื่ออยากได้เห็นพระองค์ท่านมีพระพลานามัยแข็งแรงตราบนานเท่านาน ได้เห็นในหลวงทรงแย้มพระโอษฐ์ก็รู้สึกว่าผมและครอบครัวได้รับพระเมตตาอย่างสูง" ม.ร.ว.ดิลก กล่าว


