เหตุล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน(ตอนจบ)
หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วผมได้อธิบายให้ผู้อ่านได้เห็นภาพของจักรวรรดิโรมันคร่าวๆ และได้เกริ่นถึงสาเหตุการล่มสลายไปบางส่วน สัปดาห์นี้ผมขออธิบายสาเหตุการล่มสลายของจักวรรดิโรมันที่เหลือต่อเลยนะครับ
หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วผมได้อธิบายให้ผู้อ่านได้เห็นภาพของจักรวรรดิโรมันคร่าวๆ และได้เกริ่นถึงสาเหตุการล่มสลายไปบางส่วน สัปดาห์นี้ผมขออธิบายสาเหตุการล่มสลายของจักวรรดิโรมันที่เหลือต่อเลยนะครับ
4) นอกจากปัญหาด้านการเก็บภาษีแล้ว จักรวรรดิโรมันสมัยนั้นยังต้องเผชิญกับโรคระบาดอีกแรงหนึ่ง จนบางวันมีประชาชนโรมันเสียชีวิตเพราะโรคระบาดสูงถึง 5,000 คน ต่อวัน ทำให้จำนวนประชากรโรมันลดลงอย่าง ต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อจำนวนประชากร ที่จะเอาไว้เกณฑ์เป็นทหาร
5) การเจริญเติบโตขึ้นเป็นลำดับของศาสนาคริสต์ที่สร้างปัญหาให้แก่จักรวรรดิโรมันเป็นอย่างมาก เนื่องจากพลเมืองชาวโรมันจำนวนมากที่ศรัทธาในศาสนาคริสต์ต่างพากันออกบวชและปฏิเสธที่จะแต่งงานและมีบุตร ซึ่งนอกจากทำให้ประชากรของจักรวรรดิลดลง ยังทำให้กองทัพมีขนาดเล็กลง และการเก็บภาษีเข้ารัฐ ก็ลดลงตามไปด้วย
นอกจากนั้นแล้ว คำสอนของศาสนาคริสต์ที่ให้ยึดถือสันติภาพและหลีกเลี่ยงการ สู้รบ ทำให้พลเมืองชาวคริสต์จำนวนมากปฏิเสธที่จะเป็นทหาร ทำให้ จักรพรรดิโรมันต้องหันไปเกณฑ์ทาส นักสู้ที่เรียกว่า “กลาดิเอเตอร์” และอาชญากรที่ก่อคดี รวมทั้งพวกป่าเถื่อน หรือบาร์บาเรียน ที่ขาดความจงรักภักดีต่อจักรพรรดิโรมันเข้ามาเป็นทหารเพื่อไว้ใช้สู้รบ
6) จากสาเหตุของการถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูง บวกกับความยากจนข้นแค้น ทำให้พลเมืองโรมันจำนวนหนึ่งถึงกับต้องออกไปจัดตั้งกลุ่มต่อต้านจักรวรรดิ หรือที่เรียกว่า “กลุ่มกบฏ บากอแด” ที่ระบาดไปทั่วจักรวรรดิในช่วง คริสต์ศตวรรษที่ 45 โดยกลุ่มต่อต้านจักรวรรดิดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะแบ่งแยกดินแดนออกเป็นเขตปกครองตนเอง จนทำให้จักรวรรดิต้องสูญเสียกำลังทหารและเงินตราไปเป็นจำนวนมากเพื่อปราบปรามให้สิ้นซาก
7) ขณะที่ทหารของจักรวรรดิมัวเสียเวลาออกดำเนินการปราบปรามผู้คนของตนเองที่ตั้งตัวเป็นขบถ ทำให้นักรบชนเผ่าเยอรมันเกิดความเข้มแข็งและสามารถบุกเอาชนะกองกำลังทหารของโรมันบริเวณพรมแดนได้อยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วงปีคริสต์ศักราชที่ 406-419 เป็นช่วงที่จักรวรรดิโรมันต้องสูญเสียดินแดนของจักรวรรดิจำนวนมากให้แก่นักรบหลายเผ่าจากเยอรมัน
8) การขยายอาณาเขตของจักรวรรดิโรมันออกไปจนกว้างขวางเกินขอบเขต ทำให้ยากต่อการปกครองและยากต่อการคัดสรรคนดีไปปกครองตามเมืองต่างๆ ทำให้จักรวรรดิเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นตามมาอย่างแพร่หลาย
9) ความอ่อนแอและการขาดภาวะผู้นำของกองกำลังทหารจักรวรรดิโรมัน รวมทั้งการขาดการฝึกฝนและความไม่เป็นธรรมในการปูนบำเหน็จรางวัลให้แก่ทหาร ทำให้กองทัพทั้งกองทัพอ่อนแอและ ขาดประสิทธิภาพ
10) การที่ “โอดัวเซอร์” ซึ่งเป็นนักรบเผ่าบาร์บาเรียนในกองทัพของจักรวรรดิโรมัน ได้ทำการปฏิวัติยึดอำนาจทั้งหมดจากจักรพรรดิ “ออกุสตูลุส” ในปี ค.ศ. 476 และสถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอิตาลี และนั่นก็เป็นจุดจบของจักรวรรดิโรมันตะวันตก ในขณะที่จักรวรรดิโรมันตะวันออก หรือที่เรียกว่า “จักรวรรดิไบเซนไทน์” ก็มีอันล่มสลายต่อมาในปี ค.ศ.1453
11) เหตุผลประการสุดท้ายที่ทำให้ทั้งจักรวรรดิโรมันล่มสลาย ได้แก่ เหตุผลด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น เงินเฟ้อ การขาดกระแสเงินตราหมุนเวียนในจักรวรรดิ การ กักตุนทองคำ การขาดดุลงบประมาณ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม


