อดีต...ไม้หนึ่ง ก.กุนที
ไม้หนึ่ง ก.กุนที เป็นเพื่อนสนิทกับ วรพจน์ พันธุ์พงศ์ สมัยเรียนที่ทับแก้ว และ ไม้หนึ่ง ก็เป็นคนชักนำให้ตัว วรพจน์
โดย...ทีมข่าวในประเทศ
ไม้หนึ่ง ก.กุนที เป็นเพื่อนสนิทกับ วรพจน์ พันธุ์พงศ์ สมัยเรียนที่ทับแก้ว และ ไม้หนึ่ง ก็เป็นคนชักนำให้ตัว วรพจน์ แบ่งความสนใจจากเรื่องฟุตบอลมาสู่เรื่องขีดเขียน กวี วรรณกรรม
ชื่อเล่นจริงๆ ของ ไม้หนึ่ง คือ “ไผ่” ที่มาของนามปากกาแปลกๆ เพราะชื่นชอบกีฬาแข่งวิ่งผลัด หรือกรีฑา และมักจะอยู่ไม้แรกหรือไม้หนึ่งเสมอ จึงนำมาตั้งเป็นนามปากกา ชื่อจริงของเขาคือ “กมล ดวงผาสุก”
ก่อนรู้จักกันในฐานะกวีนักกิจกรรมเสื้อแดง ไม้หนึ่ง ไม่ได้ยังชีพหลักด้วยการแต่งกวี แต่ทำมาค้าขายข้าวหน้าเป็ด จนมีร้านใหญ่โตอยู่แถวศาลายา
บทกวีของ ไม้หนึ่ง ส่วนใหญ่ลงตีพิมพ์ในคอลัมน์กระวีกระวาดในมติชน สุดสัปดาห์ ได้รับการยอมรับว่าคมคาย รู้จักเล่นคำ สื่อความคิดได้ชัด แต่ก็ถูกวิจารณ์อีกแง่หนึ่งว่าไม่เคร่งครัดกับขนบ เน้นสัมผัสความ ไม่สัมผัสคำ แต่มีผู้ชื่นชอบผลงานกลุ่มใหญ่และทำให้ชื่อเสียงในวงการกวีค่อนข้างแข็งแรง
หลังขึ้นอ่านบทกวีบนเวทีเสื้อแดงที่ผ่านฟ้าฯ และราชประสงค์ ไม้หนึ่ง ก.กุนที ออกรวมเล่มกวี “สถาปนา สถาบันประชาชน” ด้วยการช่วยเหลือของเพื่อนพ้องน้องพี่ใกล้ชิด ได้รับคำชมและคำวิจารณ์อย่างแพร่หลาย ทุกๆ ชิ้นงานกวีในเล่มนั้นสื่อความคิดของตัวเองแจ่มชัด เป็นฐานความคิดความฝันในการเคลื่อนไหวในโลกการเมืองฝั่งเสื้อแดง จนถึงวาระสุดท้าย
เชื่อหรือไม่ว่า ก่อนจะเคลื่อนไหวในฝั่งเสื้อแดงและใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ชื่อของ ไม้หนึ่ง ก.กุนที ในอีกนาม “อี๊ด อิสรนาวี” ซึ่งเข้าใจว่าเป็นชื่อจัดตั้ง ปรากฏชื่อเป็น “รองหัวหน้าพรรคแนวร่วมสังคมประชาธิปไตย” ได้รับการอนุมัติจัดตั้งเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2552 และเปิดตัวที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ไปเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2553 ก่อนเหตุการณ์เดือน พฤษภา 53 ไม่กี่เดือน
คนใกล้ชิดหลายคนหรือแม้แต่แฟนกวีของ ไม้หนึ่ง ยืนยันว่า ไม้หนึ่ง ฝักใฝ่ “ซ้าย” มานานแล้ว สะท้อนผ่านกวีหลายชิ้นต่อเนื่องกันนับสิบปี
ว่ากันว่า ไม้หนึ่ง ก้าวขึ้นเวทีเสื้อแดงเพราะการร้องขอมาจากแกนนำหลังเวทีราชประสงค์ เพื่อสร้างแนวร่วมศิลปิน และทำให้เวทีเสื้อแดง ไม่เฝือไปด้วยการปราศรัยด่าทอกันมากเกินไป การขึ้นเวทีเสื้อแดงของ ไม้หนึ่ง ตรึงใจผู้ฟังได้ด้วยบทกวีและภาษาพูดที่งามงดและลุ่มลึก สร้างสีสันให้เวทีคนเสื้อแดงได้เป็นอย่างดี จนสามารถปักหมุด ให้พื้นที่ศิลปินที่ฝักใฝ่ฝ่ายแดงมั่นคงแข็งแรงมากขึ้น
นี่เป็นเครดิตที่ ไม้หนึ่ง ได้รับมาตลอดจากนักเขียนเสื้อแดง
หลังเหตุการณ์ 19 พ.ค. 2553 ไม้หนึ่ง ต้องหลบหนีไปอยู่กัมพูชา (หรือที่ ไม้หนึ่ง มักเรียก “กัมปูเจีย” ในทุกวาระ) เช่นเดียวกับคนเสื้อแดงหลายๆ คน ก่อนจะกลับมาหลังเหตุการณ์เริ่มคลี่คลายและพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง มีงานหลักในการเคลื่อนไหวช่วยเหลือนักโทษการเมืองที่ถูกจับกุมคุมขังในปี 2553
มีทั้งเดินทางไปอ่านบทกวีและสื่อสารความคิด ปราศรัยในหมู่บ้านเสื้อแดงทั่วประเทศ และจัดรายการที่สถานีโทรทัศน์เอเชียอัพเดทร่วมกับ ผศ.สุดา รังกุพันธุ์ นักเคลื่อนไหวที่ทำงานควบคู่กับ ไม้หนึ่ง มาโดยตลอด
แต่แล้ว ไม้หนึ่ง มีอันต้องแตกคอกับกลุ่มนักกิจกรรมเสื้อแดงบางส่วน รวมทั้งกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์พฤษภา 53 เมื่อ ไม้หนึ่ง กับอาจารย์หวานผศ.สุดา รังกุพันธุ์ ไปสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขณะที่กลุ่มญาติฯ ต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะต้องการให้กระบวนการยุติธรรมนำคนสั่งล้อมปราบมาลงโทษให้ได้ กลายเป็นกระแสโจมตีระหว่างกันจน ไม้หนึ่ง ถูกกล่าวหาหนักหน่วงจากฝ่ายตรงข้ามว่า “หนุนออกหน้าออกตาเพื่อทักษิณ”
ชื่อ ไม้หนึ่ง มาดังอีกช่วงกรณีรางวัลพานแว่นฟ้ารัฐสภาไทย เพราะชื่อเขาไปเป็นประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองบทกวี และเป็นผู้ติดต่อ เพื่อนพ้องในแวดวงกวี นักเขียน ศิลปินฝั่งเสื้อแดง เข้าร่วมกันยกเครื่องรางวัลพานแว่นฟ้า ว่ากันว่า เป็นยุคที่รางวัลพานแว่นฟ้าถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางที่สุดครั้งหนึ่ง ด้วยข้อกล่าวหา “พานแว่นแดง”
ไม้หนึ่ง ก.กุนที จากกวีหนุ่มพ่อค้าข้าวหน้าเป็ด สู่ผู้นำความคิดในลำดับต้นๆ ของคนเสื้อแดง
ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุส่วนตัวหรือการเมือง แต่กระสุน 56 นัดได้พรากกวีที่มีสีสัน ความคิด กิจกรรมน่าติดตามมากที่สุดคนหนึ่งในปัจจุบันไปตลอดกาล
ขอแสดงความไว้อาลัยอย่างยิ่ง และไว้อาลัยให้กับประเทศหนึ่ง ที่ชีวิตคนไร้คุณค่า จนหยิบอาวุธมาฆ่าแกงกันง่ายดายเหลือเกิน


