posttoday

พระจันทร์สีเลือด

20 เมษายน 2557

จันทรุปราคาเต็มดวงเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2557 ไม่สามารถเห็นได้ในประเทศไทย

จันทรุปราคาเต็มดวงเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2557 ไม่สามารถเห็นได้ในประเทศไทย สื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริเวณที่เห็นจันทรุปราคาครั้งนี้ได้ดีที่สุด โดยเกิดขึ้นในคืนวันที่ 14 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ต่างพากันเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า พระจันทร์สีเลือด (Blood Moon)

จันทรุปราคาหรือจันทรคราสเกิดจากเงาของโลกทอดยาวไปตกที่ผิวดวงจันทร์ ปกติจันทรุปราคาเต็มดวงจะทำให้ดวงจันทร์มีสีแดงอยู่แล้ว เนื่องจากเงามืดของโลกที่บังดวงจันทร์ไม่ได้มืดสนิท แสงอาทิตย์เกิดการหักเหและกระเจิงในบรรยากาศโลก แสงสีแดงมีความยาวคลื่นยาวกว่าแสงสีอื่น จึงเกิดการหักเหได้มากกว่า เมื่อตกกระทบพื้นผิวดวงจันทร์ จึงทำให้ดวงจันทร์ขณะอยู่ในเงามืดของโลกเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม หรือน้ำตาล

เมื่อได้ยินคำว่าพระจันทร์สีเลือด สิ่งแรกที่นักดาราศาสตร์นึกถึงจึงน่าจะเป็นจันทรุปราคาเต็มดวงนั่นเอง แต่ที่มาที่ไปของพระจันทร์สีเลือดในคราวนี้ไม่ธรรมดา ช่วงปี พ.ศ. 25572558 มีจันทรุปราคาเต็มดวงเกิดขึ้นต่อเนื่องกัน 4 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 6 เดือน บางส่วนหรือทั้งหมดของสหรัฐอเมริกาสามารถสังเกตจันทรุปราคาเต็มดวงทั้ง 4 ครั้งนี้ได้ และเกิดในเทศกาลสำคัญทางศาสนา จึงมีผู้นำไปเชื่อมโยงกับคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิล

จันทรุปราคาเกิดในช่วงที่ดวงจันทร์สว่างเต็มดวง ดวงจันทร์มีตำแหน่งอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์เมื่อมองจากโลก และอยู่ในแนวที่เงาของโลกทอดยาวไปในอวกาศ จันทรุปราคาแบ่งเป็น 3 ชนิด ได้แก่ จันทรุปราคาเต็มดวง จันทรุปราคาบางส่วน และจันทรุปราคาเงามัว

พระจันทร์สีเลือด

 

จันทรุปราคาเต็มดวงเกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์ถูกเงามืดของโลกบังหมดทั้งดวง เห็นดวงจันทร์เป็นสีแดง ส้ม หรือน้ำตาล จันทรุปราคาบางส่วนเกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์ถูกเงามืดของโลกบังไปเพียงบางส่วน ดวงจันทร์จึงเพียงแค่แหว่งเว้าไปเท่านั้น ส่วนจันทรุปราคาเงามัวเกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์ผ่านส่วนที่เป็นเงามัวเท่านั้น ซึ่งเงามัวอยู่ล้อมรอบเงามืด มีความทึบแสงต่ำ เราจึงไม่เห็นดวงจันทร์แหว่งและไม่ค่อยน่าสนใจ

ปกติแต่ละปีปฏิทินจะมีจันทรุปราคาเกิดขึ้นอย่างน้อย 2 ครั้ง บางปีมี 3 หรือ 4 ครั้ง (5 ครั้งก็มี แต่พบน้อยมาก) ส่วนใหญ่เป็นต่างชนิดคละกัน การเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง 4 ครั้งติดต่อกัน โดยไม่มีจันทรุปราคาชนิดอื่นมาคั่นกลางไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ครั้งล่าสุดเกิดในช่วง พ.ศ. 2546-2547 ปัจจุบันเกิดในช่วง พ.ศ. 2557-2558 สามารถสังเกตเห็นได้ในประเทศไทย 2 ครั้ง คือ เวลาหัวค่ำของวันที่ 8 ต.ค. 2557 (ตรงกับวันออกพรรษา) และวันที่ 4 เม.ย. 2558

หนังสือ Four Blood Moons : Something is About to Change แต่งโดย จอห์น เฮกี พิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2556 ตั้งข้อสังเกตว่าการเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง 4 ครั้งติดต่อกัน ตรงกับวันสำคัญทางศาสนาและสอดคล้องกับคำพยากรณ์ตอนหนึ่งในคัมภีร์ไบเบิล

จันทรุปราคาเต็มดวงทั้ง 4 ครั้ง เกิดขึ้นในเทศกาลสำคัญของชาวยิวคือ เทศกาลอพยพ (Passover) กับเทศกาลอยู่เพิง (Tabernacles) มีขึ้นเพื่อระลึกถึงการอพยพหลังออกจากการเป็นทาสในอียิปต์ และการร่อนเร่พเนจรในถิ่นทุรกันดารของวงศ์วานอิสราเอล

เฮกีเชื่อว่าจันทรุปราคาเต็มดวง 4 ครั้งในวันสำคัญเป็นสัญญาณว่าจะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับอิสราเอลในตะวันออกกลางและส่งผลกระทบไปทั่วโลก อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์

นอกจากดวงจันทร์จะมีสีแดงในช่วงที่เกิดจันทรุปราคาเต็มดวง เรามีโอกาสเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดง ส้ม หรือเหลืองได้ในเวลาอื่น โดยเฉพาะในช่วงที่ดวงจันทร์เพิ่งโผล่เหนือขอบฟ้า หรือใกล้จะตกลับขอบฟ้า เนื่องจากแสงจากดวงจันทร์ต้องเดินทางผ่านบรรยากาศโลกเป็นระยะทางไกลกว่าเมื่อดวงจันทร์อยู่เหนือศีรษะ ทำนองเดียวกับการที่เราเห็นดวงอาทิตย์เป็นสีแดง เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นและดวงอาทิตย์ตก

หลังจากช่วงปีนี้และปีหน้าจันทรุปราคาเต็มดวง 4 ครั้งติดต่อกันครั้งถัดไปจะเกิดอีกในช่วง พ.ศ. 25752576 สามารถเห็นได้ในประเทศไทยทั้ง 4 ครั้ง โดยเกิดในคืนวันที่ 25 เม.ย. 2575 กลางดึกของคืนวันที่ 18-19 ต.ค. 2575 กลางดึกของคืนวันที่ 14-15 เม.ย. 2576 และช่วงหัวค่ำของวันที่ 8 ต.ค. 2576

ปรากฏการณ์ท้องฟ้า (2027 เม.ย.)

แม้ว่าจะผ่านช่วงที่ดาวอังคารใกล้โลกที่สุดมาแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เรายังเห็นดาวอังคารเป็นดาวสว่างสีส้มอมชมพูอยู่ทางทิศตะวันออกในเวลาหัวค่ำ ดาวอังคารอยู่ในกลุ่มดาวหญิงสาวเคลื่อนสูงขึ้นเรื่อยๆ จนผ่านจุดสูงสุดบนท้องฟ้าทิศใต้ในเวลา 5 ทุ่ม และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกในเวลาตี 5

ดาวพฤหัสบดียังคงเป็นดาวสว่างที่สุดบนท้องฟ้าเวลาหัวค่ำ มองเห็นอยู่ในกลุ่มดาวคนคู่ โดยอยู่สูงทางทิศตะวันตกค่อนไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเล็กน้อย สัปดาห์นี้ดาวพฤหัสบดีจะเคลื่อนต่ำลงจนตกลับขอบฟ้าราว 5 ทุ่มครึ่ง

ดาวเสาร์อยู่ในกลุ่มดาวคันชั่งขึ้นตามหลังดาวอังคาร โดยเริ่มเห็นอยู่เหนือขอบฟ้าทิศตะวันออกราว 2 ทุ่ม ดาวเสาร์ผ่านจุดสูงสุดบนท้องฟ้าทิศใต้ในเวลาตี 1 ครึ่ง แล้วเคลื่อนไปอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเวลาเช้ามืด เวลานั้นจะเห็นดาวศุกร์อยู่บนท้องฟ้าทิศตะวันออก ดาวศุกร์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้ามาตั้งแต่ก่อนตี 4 เล็กน้อย จากนั้นเคลื่อนสูงขึ้นสามารถเห็นดาวศุกร์ได้จนกระทั่งท้องฟ้าสว่างกลบแสงของดาวศุกร์

สัปดาห์นี้เป็นข้างแรม ดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้าเวลาเช้ามืดของทุกวัน ดวงจันทร์สว่างครึ่งดวงในวันที่ 22 เม.ย. จากนั้นเช้ามืดวันเสาร์ที่ 26 เม.ย. จะเห็นจันทร์เสี้ยวอยู่ทางซ้ายมือของดาวศุกร์ที่ระยะห่าง 4 องศา

คืนวันที่ 22 เม.ย. คาดว่าฝนดาวพิณจะมีอัตราตกสูงสุด ฝนดาวตกพิณเป็นหนึ่งในฝนดาวตกหลายกลุ่มที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยทั่วไปอัตราตกของฝนดาวตกพิณค่อนข้างต่ำ ภายใต้ท้องฟ้ามืดและเปิดโล่งอัตราตกจะไม่เกิน 20 ดวงต่อชั่วโมง บางปีมีอัตราสูงผิดปกติในช่วงเวลาสั้นๆ สังเกตได้ในช่วงตั้งแต่ 4 ทุ่มเป็นต้นไป โดยจุดกระจายอยู่ในกลุ่มดาวพิณ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และมักมีอัตราตกสูงสุดในช่วงเช้ามืดก่อนฟ้าสาง อย่างไรก็ตาม ปีนี้มีแสงจันทร์รบกวนตั้งแต่ตี 1 การสังเกตฝนดาวตกพิณ จึงทำได้ดีที่สุดในช่วงเที่ยงคืนถึงตี 1 เมื่อสังเกตในประเทศไทยคาดว่าจะตกในอัตรา 10 ดวงต่อชั่วโมง

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025