จองชัย เที่ยงธรรม ขอเป็นคนกลางนั่งประธานวุฒิ
ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง สมาชิกวุฒิสภา
ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นสถาบันเดียวที่ยังเหลืออยู่ในระบบรัฐสภา ที่หลายคนคาดหวังจะเป็นเวทีในการหาทางออกของปัญหาวิกฤตการเมืองที่ยืดเยื้อมานาน หากเกิดสุญญากาศ กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง รวมถึงคณะรัฐมนตรีที่ต้องพ้นตามไปด้วย
ฉะนั้น จึงทำให้ประมุขหรือตำแหน่งประธานวุฒิสภา ซึ่งจะมีการเลือกกันใหม่ หลังได้มีการเลือกตั้ง สว.จำนวน 77 จังหวัด เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะจะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่ง หากการเมืองเกิดสุญญากาศขึ้นมา
งานนี้ “จองชัย เที่ยงธรรม” สว.สุพรรณบุรี อดีต สส. และรัฐมนตรีจากพรรคชาติไทยหลายสมัย จึงไม่ลังเล ประกาศตัวลงแข่งขันในตำแหน่งประธานวุฒิสภาทันที
“แนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตทางการเมืองมันมีอยู่ในใจอยู่แล้ว ผมเตรียมไว้แล้ว แต่พูดออกไปไม่ได้ เพราะคนที่จะต้องไปทำหน้าที่ประธาน สว. ต้องเคารพมติ เคารพเสียงส่วนมาก ต้องมีแสดงความคิดเห็นกันในที่ประชุมเพื่อระดมความคิดแก้ไขปัญหา การแก้ปัญหาต้องใช้ที่ประชุมเป็นหลัก เรื่องความเห็นส่วนตัว ก็ไว้เป็นความเห็นส่วนตัว แต่ในที่สุดแล้ว ถ้าความเห็นส่วนตัวของเราไม่ได้รับการยอมรับจากที่ประชุม ก็ถือว่าใช้ไม่ได้เช่นกัน เพราะการยอมรับต้องยอมรับเสียงข้างมากในที่ประชุม ด้วยเหตุและผล” จองชัย พูดถึงแนวทางการทำงานหากได้เป็นประธานวุฒิสภา
“จองชัย” ยังได้พูดถึงคู่แคนดิเดตที่จะลงสมัครแข่งตำแหน่งประธาน สว.กับเขาว่า ถ้าพูดกันตอนนี้อย่าง ศรีเมือง เจริญศิริ สว.มหาสารคาม ก็ชัดเจนว่าอยู่กลุ่มสนับสนุนรัฐบาล สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สว.สรรหา รักษาการประธานวุฒิสภา ก็ชัดเจนว่าอยู่ในกลุ่มตรงข้ามรัฐบาล มันก็เกิดสองกลุ่มขึ้นมา
“ถ้าหากเอาสองกลุ่มนี้เข้าไปในสภา มันก็เป็นสองกลุ่มอย่างเก่า ผมเลยมาคิดว่าผมเป็นคนกลาง ช่องทางของผมคือเป็นคนกลาง ไม่สังกัดใคร ผมไม่ต่อต้านรัฐบาล และผมก็ไม่ต้านฝ่ายไม่เอารัฐบาล ผมเป็นคนกลาง ใครจะว่าไงก็ช่าง แต่ผมมีเหตุผลส่วนตัว ซึ่งหากผมเข้าไปก็จะไปประสาน ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำในสิ่งที่บ้านเมืองมันจะ อยู่ได้” จองชัย กล่าวถึงจุดเด่นของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าตั้งแต่ประกาศตัวมีการเช็กเสียงสนับสนุนบ้างหรือยัง “จองชัย” บอกว่า ตั้งแต่ประกาศตัวออกไปก็ยังไม่ได้เช็กเสียงว่าใครหนุนบ้าง แต่มาเช็กตัวเองก่อนว่าไปไหวไหม ถ้าไหวถึงจะไปเช็กเสียง คล้ายๆ กับหาเสียง อย่างเป็น สว.ไปหาเสียงกับคน 6 แสนกว่าคนในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี
“เราหาเสียงเป็นประธาน ก็หาเสียง 150 คน แต่หาเสียงมาเป็น สว. ไปหากับชาวบ้าน ประชาชน ก็เป็นอีกแบบหนึ่ง และการมาหาเสียงเป็นประธานวุฒิฯ มันก็อีก ระดับหนึ่งขึ้นมา แต่ยืนยันว่าเอาจริง เมื่อเอาจริง เราก็มาหาช่องทางว่าคนที่จะเป็นประธานต้องมาอย่างไรบ้าง ไม่ใช่นาย ก.สนับสนุน นาย ข.สนับสนุนเหมือนกัน มัน ไม่เพียงพอ” สว.สุพรรณบุรี กล่าว
ด้านกลยุทธ์ในการหาเสียงนั้น “จองชัย” บอกว่า ขณะนี้ก็เป็นที่รู้กันดีว่า สว.มันมีเป็นกลุ่ม กลุ่มนั้น กลุ่มนี้ กลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล หรือกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย กับรัฐบาล หรือตรงข้าม พวกนี้เจาะเขายาก แต่มันยาก ก็ต้องไปเจาะ แต่ไม่ว่าจะอยู่กลุ่มไหนก็ตาม เมื่อเข้าไป แล้วทุกคนต้องไม่มีกลุ่ม มีแต่แนวความคิดต้องเป็นใน ทิศทางที่แก้วิกฤตให้ได้ ถ้ายังไปสังกัดกลุ่มแบบนี้มันก็แก้ไขปัญหาไม่ได้ อย่างกลุ่มหนึ่งต้องการอย่างนี้ อีกกลุ่มก็ต้องการอีกอย่าง อย่างนี้บ้านเมืองก็ไปไหนไม่ได้ ยังเป็นสองฝ่ายอยู่
สำหรับที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้การสนับสนุนนั้น “จองชัย” ได้ปฏิเสธกระแสข่าวนี้
“ไม่มีเลย มีแต่ข่าวออกมาเท่านั้น คุณทักษิณไม่ได้มาคุยอะไรกับผมเลย คือครอบครัวชินวัตรยังไม่เคยคุยอะไรเลย และผมก็ไม่กล้าเข้าไปหาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน ผมไปหาแต่ตัวบุคคล อย่างคุณสุรชัย ก็รุ่นพี่รุ่นน้อง ที่เคารพกันก็พบกัน แต่ไม่ได้คุยในนามกลุ่ม คุยในนามส่วนตัว พวกที่สนับสนุนท่านทักษิณ หรือพวกพรรคเพื่อไทยที่ได้มาเป็น สว. ก็มาพูดคุยกันปกติ”
ทั้งนี้ จะมีก็แต่ตัว สว.ที่รู้จักมักคุ้นกันเข้ามาพูดคุย คือ สว.สายเลือกตั้งมันก็มาจากนักการเมืองรุ่นเก่าๆ สาย สว.สรรหาก็รู้จักกันเยอะ
“ผมเป็นคนมีเพื่อนเยอะ สว.สรรหา 73 คน ผมก็รู้จักมักคุ้นอย่างดีสักครึ่งหนึ่งได้ แต่ส่วนที่ไม่รู้จักก็ได้ยิน ชื่อเสียง เพราะอยู่ในสังคมเดียวกัน รู้ว่าใครเป็นใคร และผมไม่ถอนตัว แพ้ก็ไม่เป็นไร ก็เท่าทุน ชนะก็ได้กำไร แค่นั้นเอง แล้วจะต้องเดินหน้าหาเสียงไปเรื่อยๆ ตอนนี้มีเสียงอย่างไม่ขี้เหร่แน่นอน 4050 เสียงมีแน่นอน”
จองชัย บอกด้วยว่า การลงสมัครครั้งนี้ไม่ได้หารือกับบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เพราะต้องการความเป็นอิสระ “คือท่าน บรรหารก็มีมารยาท เหมือนจะมีการปฏิเสธเป็นนัยๆ เหมือนกัน คือตั้งแต่เป็น สว.แล้ว ก็ไปขอบคุณท่าน ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ของเมืองสุพรรณบุรี ท่านไม่ได้มาช่วยอะไร เพียงแค่ไม่ต่อต้านก็พอใจแล้ว ในสุพรรณบุรีหากท่านต่อต้านใคร คนนั้นเกิดยาก
เป็นที่รู้กันดีอยู่ว่าในสุพรรณบุรี ท่านสะสมบารมีมาเยอะ หากท่านไม่ต่อต้านผมก็เอาตัวรอดได้ หากท่าน ต่อต้านผมก็ไม่ได้ ผมจึงไปขอบคุณ และผมยังบอกท่านด้วยนะว่า ท่านครับ ผมอยากเป็นประธานวุฒิฯ ท่านก็ตอบว่า เออ ดีนะ แต่ช่วยตัวเองนะ เพราะพี่หมดแรงแล้ว ท่านพูดมาอย่างนี้ ก็ไม่ตื๊อกัน และจริงๆ ผมคิดว่าหากท่านมาช่วยจริงๆ ผมก็ไม่ได้เป็นคนกลางอีก”
อย่างไรก็ตาม “จองชัย” ยังบอกว่า หากบรรหารรักตัวเขา ก็แอบช่วยได้ เพราะ สว.ที่มาเป็นลูกศิษย์บรรหารก็มีเยอะแยะ ทั้งสรรหา เลือกตั้ง
“ถ้าท่านจะแอบหาเสียงช่วยเหลือผมท่านก็ทำได้ แต่เราไม่ต้องการให้เปิดเผย ท่านจะแอบช่วยใครก็ ช่วย เพราะหากไปเปิดเผยจะเสียหาย ผมไม่ต้องการ ติดลบ ภาพจะออกมาว่าไอ้นี่ไม่กลางจริง ทักษิณอาจจะ สั่งมาทางบรรหารให้ช่วยผม เดี๋ยวมันจะไปกันใหญ่” จองชัย ระบุ


