เสธ.แดงโดนสอย สะเทือนอารมณ์ ไม่สะเทือนการ์ด
...ธนพล บางยี่ขัน
จากเหตุการณ์ เสธ.แดงพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่อาสามารับหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับมวลชนคนเสื้อแดง ถูกซุ่มยิงที่ศีรษะจนตกอยู่ในอาการ
“โคม่า” จนกลายเป็นที่วิตกว่าเมื่อ “เสาหลัก” หายไปจะสะเทือนถึงกระบวนการรักษาความปลอดภัยของกลุ่มคนเสื้อแดงหลังจากนี้หรือไม่อารี ไกรนรา หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อธิบายว่า แม้ เสธ.แดง จะไม่อยู่ ก็จะไม่กระทบกับระบบรักษาความปลอดภัย เพราะตามปกติ เสธ.แดง ก็ไม่ได้อยู่ในโครงสร้างที่วางไว้ ซึ่งจะมีแกนนำการ์ดเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง สลับเป็น 3 ผลัด รวมแล้ว 4,0005,000 คน มาจากนักศึกษารามคำแหง การ์ดอาสา และมาจากกลุ่มผู้ชุมนุม
สำหรับโครงสร้างการ์ด นปช. เขาจะเป็นหัวหน้าดูแลในภาพรวม พร้อมกับมอบหมายให้แกนนำไปดูแลประจำด่านต่างๆ ทั้ง 6 ด่าน ได้แก่ ด้านถนนสีลม มีแกนนำรับผิดชอบคือ ขวัญชัย ไพรพนา พายัพ ปั้นเกตุ สุภรณ์ อัตถาวงศ์ และชินวัฒน์ หาบุญพาด จุดที่สอง แยกมาบุญครอง มี พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ และเจ๋ง ดอกจิก รับผิดชอบ
จุดที่ 3 แยกอังรีดูนังต์ ประแสง มงคลศิริ และสมชาย ไพบูลย์ รับผิดชอบ จุดที่ 4 แยกประตูน้ำ วรวุฒิ วิชัยดิษฐ และเสงี่ยม สำราญรัตน์ รับผิดชอบ จุดที่ 5 แยกเพลินจิต นิสิต สินธุไพร และวันชนะ เกิดดี รับผิดชอบ และจุดสุดท้ายบริเวณหลังสวนลุมพินี ผู้รับผิดชอบ ได้แก่ เพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มเชียงใหม่ 51
จากเหตุการณ์ลอบยิง
“เสธ.แดง” แม้จะไม่ทำให้หวาดกลัว เพราะถือว่าทำเพื่อประชาชน แต่ก็ทำให้การ์ด นปช.ต้องระมัดระวังสถานการณ์มากขึ้น โดยเฉพาะการออกไปนอกพื้นที่ชุมนุม แม้บางครั้งจำเป็นจะต้องออกไปรับกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่วงนอกไม่สามารถเข้ามาได้ ขณะที่ต้องเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ภายในไม่ให้ออกไปด้านนอกที่ทหารตรึงพื้นที่อยู่ส่วนเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่าง
“อารี” และ “เสธ.แดง” กับการทำหน้าที่จนกระทบกระทั่งกันหลายครั้งนั้น “อารี” ยืนยันว่าเป็นการทำตามหน้าที่ โดยเฉพาะเรื่องการถอยพื้นที่เพื่อเปิดให้รถเข้าโรงพยาบาลจุฬาฯ ตามมติแกนนำ นปช. แต่ทาง “เสธ.แดง” เห็นว่าเพื่อความปลอดภัยจึงไม่อยากให้ถอย ตนเองไม่อยากขัดใจจึงต้องยอมกลับมา และให้แกนนำไปเคลียร์ทีหลังขณะที่
“หัวหน้าการ์ดแหลมฉบัง” ซึ่งรับหน้าที่เฝ้าระวังด่านหน้าสวนลุมพินี ยืนยันว่า แม้ เสธ.แดง จะไม่ได้อยู่ดูแลสถานการณ์ แต่มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติมาเป็นระบบจะยังคงดำเนินต่อไป แถมต้องเพิ่มความเข้มงวด“
ไม่กลัว...ตอนนี้ใจมันเกินร้อยไปแล้ว ยิ่งมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ยิ่งกล้ามากขึ้นด้วยซ้ำ มันเลยขีดจำกัดความกลัวไปแล้ว ต่อไปอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”หัวหน้าการ์ดผู้นี้อธิบายว่า หลังจาก เสธ.แดง โดนยิง ทางการ์ดแต่ละจุดเพิ่มการป้องกันมากขึ้น มีการตรวจค้นหาอาวุธ วัตถุต้องสงสัยจากผู้คนที่จะผ่านเข้าออก ตรวจตราดูแลผู้ต้องสงสัยที่จะแทรกตัวเข้ามาปะปนในกลุ่มผู้ชุมนุม
บทบาทปกติของ เสธ.แดง ในช่วงที่ผ่านมาจะคอยแวะเวียนมาตามด่านต่างๆ ทั้ง 6 จุด รอบราชประสงค์ เพื่อคอยเช็กสถานการณ์และสั่งการปรับแผน จนถึงการพูดคุยทักทายกับบรรดาการ์ดและประชาชนทั่วไปอย่างสม่ำเสมอ
ทุกวันนี้การ์ดแต่ละคนก็ต้องทำหน้าที่ที่แบ่งเป็นกะ โจมตี ตรวจค้นกันอย่างเต็มที่ แม้อาวุธที่มีจะมีเพียงแค่ไม้ ก้อนหิน และหนังสะติ๊ก แต่ก็ทำอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมี
“หน่วยสนับสนุน” คอยจะเข้ามาช่วยเหลือหากมีเจ้าหน้าที่บุกรุกเข้ามาหัวหน้าการ์ดผู้นี้ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ยิง เสธ.แดง เล่าให้ฟังถึงนาทีนั้นว่า เป็นช่วงเวลาแป๊บเดียวที่ไม่ทันตั้งตัว ขณะนักข่าวต่างประเทศสัมภาษณ์ใกล้เสร็จสิ้นกำลังจะเดินออก การ์ดคนอื่นที่อยู่ใกล้เคียงก็ไม่ได้ระวัง อยู่ดีๆ ก็มีเสียงปืน
คล้ายกับแนวร่วม นปช.อีกคนหนึ่ง ที่เห็นว่าการยิง เสธ.แดง จะทำให้เหตุการณ์บานปลายนำไปสู่ความรุนแรงมากขึ้น เพราะ เสธ.แดง เป็นที่ชื่นชอบของคนเสื้อแดง เดินทางไปไหนมาไหนไม่มีอาวุธ มีแค่กระติกน้ำใบเดียว แต่กลับถูกยิงเช่นนี้ย่อมทำให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจมากขึ้น
แนวร่วม นปช.ผู้นี้ กล่าวว่า เจอ เสธ.แดง ก่อนถูกยิงทางฝั่งใกล้สยามสแควร์ช่วงเที่ยงๆ แถมยังได้ขอลายเซ็นไว้บนหมวก (พร้อมโชว์หมวกที่มีลายเซ็น) ตอนนั้น เสธ.แดง ยังบอกให้ระวังคนที่จะแฝงตัวเข้ามาปะปนกับกลุ่มผู้ชุมนุม
สุดท้ายเขายังยืนยันว่า
“ไม่กลัว ตอนนี้เกินคำว่าตายไปแล้ว” และยังยืนยันจะมาร่วมชุมนุมต่อไป เมื่อตอนเย็นจะมาแล้วแต่โดนปิดล้อมไม่ให้เข้า จึงต้องมาใหม่ในวันนี้ ซึ่งเชื่อว่าต่อจากนี้จะมีผู้ร่วมชุมนุมกันมากขึ้น!!!

