จากใจศิษย์เก่าถึงโรงเรียนสตรีวิทยา 2
รากฐานสำคัญอย่างหนึ่งที่เกิดปัญหาคอร์รัปชั่นในสังคมไทย หรือปัญหาอื่นๆ ตามมา ส่วนหนึ่งก็มาจากรากฐานการเรียนการสอนที่สั่งสมมา
โดย....จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
ท่ามกลางกระแสข่าวฉาวเรื่อง วงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา2 ขอเงิน 3.1 ล้านบาท จาก ตัน ภาสกรนที ถึงหน้าบ้าน โดยอ้างว่าไม่ได้เงินนี้ไปแข่งรายการสำคัญในเนเธอร์แลนด์ไม่ได้แน่นอน จนสังคมร่วมสืบค้น ขุดคุ้ยเรื่องราวออกมาตีแผ่ไม่เว้นแต่ละวัน ถึงขั้นมีการทำไทม์ไลน์ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ไปจนกระทั่งปัจจุบันว่าเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นมาบ้าง
เมื่อเป็นเช่นนี้เรื่องจึงร้อนถึงกลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวพันกับ ชื่อ "โรงเรียนสตรีวิทยา 2" ไม่ว่าจะเป็น อาจารย์ ศิษย์ปัจจุบัน หรือศิษย์เก่า โดยเฉพาะกลุ่มสุดท้ายซึ่งรวมถึงตัวผู้เขียนเอง ต่างก็แสดงความเป็นห่วงเป็นใย และไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องนี้ เพราะคงไม่มีใครอยากเห็นชื่อสถาบันของตัวเอง ติดหูสังคมในแง่ลบๆ ถูกว่าร้ายในทางไม่ดี
จากการสืบสาวบางกรณีที่น่าสงสัย เช่น เงินที่อ้างว่า เป็นค่าตั๋วเครื่องบิน ที่ต้องไปจ่ายก่อนวันไปเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด เมื่อไปสอบถามกับเหล่าผู้ทำบริษัทนำเที่ยว ตอบตรงกันว่า หากเป็นตั๋วเดินทางเป็นหมู่คณะที่ซื้อผ่านบริษัทนำเที่ยว ต้องจ่ายเงินทั้งหมดล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 10-15 วัน และต้องมีมัดจำล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 45 วัน ยิ่งเดินทางไปหลายประเทศจะยิ่งต้องจองตั๋วก่อนล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ดังนั้นประเด็นเหตุการขอเงินไปใช้เป็นค่าเดินทาง จึงต้องตอบสังคมให้ได้ว่า เหตุผลที่แท้จริงคืออะไร
ที่ผ่านมาศิษย์เก่าจำนวนมาก ได้พยายามไปแสดงความเคลื่อนไหวผ่านทางสังคมออนไลน์ของสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีวิทยา 2 แต่เรื่องทุกอย่างก็ไม่ได้มีความคืบหน้ามากนัก จึงเริ่มเกิดกระแสออกมารวมตัวกันเอง เพื่อหาแนวทางจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้ นอกเหนือจากการตั้งเพจลูกพิกุล รักพิกุลแล้ว ก็ยังมีกลุ่มแตกย่อยที่รวมตัวกันเอง เช่น กลุ่มศิษย์เก่าสตรีวิทยา 2 รุ่นที่ 23 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับหัวหน้าวงโยธวาทิต เป็นต้น
ตัวอย่างข้อเรียกร้องคือ ขอให้ออกมาชี้แจงเหตุผลที่สังคมสงสัย เช่น รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าจะต้องเข้าร่วม ต้องใช้เงินเท่าไหร่ เหตุใดจึงไม่เตรียมการล่วงหน้า เพราะเป็นเรื่องตลกมากที่ไม่มีเงินไป 2 วันก่อนวันเดินทาง ,การเข้าร่วมรายการการแข่งขันเป็นการขอเข้าไปร่วมหรือไม่, ใครเป็นผู้มีอำนาจดูแลรับผิดชอบเงิน ทั้งก่อนและหลังการเข้าร่วมรายการแข่งขัน, 4บุคคลที่อยู่ในคลิปเสียงคือใคร ทั้งหมดเป็นผู้ร่วมกระบวนการวางแผนใช่หรือไม่, อยากให้มีการชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่าย 13 ล้านบาทที่ทางผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ได้ทำจดหมายขอจากสพฐ. เหตุใดต้องขอถึง 13 ล้านบาท ในเมื่อตัวแทนวงโยทวาทิตมาขอเงินคุณตัน 3.1 ล้านบาทก็ไปแข่งได้แล้ว
ที่สำคัญคือ ใครเป็นคนเริ่มต้นคิด เรื่องที่จะไปขอยืมเงินคุณตัน, เด็กๆมีส่วนรู้เห็นในกระบวนการนี้หรือไม่ แล้วจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร และเงินที่ได้มาจากคุณตัน จะนำไปคืนได้หรือไม่ อย่างไร เมื่อไหร่
สำหรับสิ่งที่ศิษย์เก่าต้องการให้เกิดได้แก่ การออกมาแสดงความขอโทษกับการกระทำครั้งนี้แบบที่ตระหนัก สำนึกว่าตัวเองทำผิด เพราะความต้องการไประดับโลกเป็นความต้องการเฉพาะกลุ่มบุคคล นอกจากนี้ ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงเรียนควรเร่งหาหลักฐานชี้แจงความบริสุทธิ์ ถ้าไม่มี ก็ควรพิจารณาตัวเองออกจากโรงเรียนนี้ไป ถ้าไม่พิจารณาตัวเอง ก็ขอให้สมาคมฯ หรือหน่วยงานต่างๆ ในโรงเรียน ส่งเรื่องไปยัง สพฐ. เร่งรัดการตรวจสอบ และลงโทษ ไม่ให้มีการเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
ขณะเดียวกันหลังจากนี้ต้องมีการจัดวางงบประมาณสำหรับสนับสนุนกิจกรรมเด็กนักเรียน ภายใต้เงื่อนไขมีหลักเกณฑ์การอนุมัติงบและตรวจสอบชัดเจน มีหลักฐานบัญชีรายจ่าย เพื่อทราบว่าเงินนั้นนำไปใช้ถูกทิศถูกทาง ส่วนกรณีเงินที่ยืมจากคุณตันนั้น ทางผู้อำนวย รองผู้อำนวยการ และวงโยธวาธิตต้องรับผิดชอบหามาคืนเพราะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ส่วนสมาคมศิษย์เก่าฯ หากใครประสงค์จะช่วยก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน
ทศพร เนตรไสว อดีตประธานนักเรียนรุ่นหนึ่ง โรงเรียนสตรีวิทยา 2 กล่าวว่า ขอต่อต้านการคอร์รัปชั่นในโรงเรียน เรียกร้องให้มีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นของฝ่ายที่มีหน้าที่ตรวจสอบ ส่วนกรณีน้องวงโยธวาทิตนั้น ขอเรียกร้องให้น้องๆ แสดงความรับผิดชอบต่อเงินที่ได้ยืมไป น้องๆสามารถทำได้หลายอย่าง เช่น การออกแสดง หรือ การจัดงาน ที่ทำด้วยตัวเอง โดยต้องไม่เกี่ยวข้องกับทางโรงเรียนและห้ามใช้ชื่อโรงเรียนหาเงินเด็ดขาด เพราะวงโยธวาทิตนี้มิได้ประกอบด้วยนักเรียนในโรงเรียนอย่างเดียว อย่างไรก็ตามกลุ่มศิษย์เก่ายินดีช่วยเหลือในทางที่เหมาะสม
กรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับโรงเรียนสตรีวิทยา 2 นั้น เชื่อว่า ไม่ใช่กรณีแรกในสังคมนี้ เพียงแต่เป็นกรณีแรกๆ ที่ถูกนำออกมาตีแผ่สู่สังคม เนื่องจากเกิดในยุคสังคมออนไลน์มีอิทธิพลสูง และการส่งต่อข้อมูลทำได้รวดเร็ว แต่ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่อีกหลายๆ โรงเรียน น่าจะใช้เป็นแนวทางป้องกัน เพราะโรงเรียนคือหน้าด่านแรกในการอบรมบ่มนิสัยเด็กในวันนี้ให้เป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า
รากฐานสำคัญอย่างหนึ่งที่เกิดปัญหาคอร์รัปชั่นในสังคมไทย หรือปัญหาอื่นๆ ตามมา ส่วนหนึ่งก็มาจากรากฐานการเรียนการสอนที่สั่งสมมาด้วย หากไม่แก้ไขรากฐานนี้ให้ดี สังคมไทยก็คงมีแต่แย่ลงและแย่ลง


