posttoday

โมฆกรรม

22 มีนาคม 2557

วันนี้สังคมไทยคงจะรับรู้ร่วมกันแล้ว ว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2557 นั้นได้มีคำวินิจฉัย

วันนี้สังคมไทยคงจะรับรู้ร่วมกันแล้ว ว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2557 นั้นได้มีคำวินิจฉัยโดยเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 ว่าการเลือกตั้งนั้นเป็นโมฆะ เนื่องจากไม่ได้เป็นการเลือกตั้งที่เป็นไปตามมาตรา 108 วรรค 2 ที่ว่า “การยุบสภาผู้แทนราษฎรให้กระทำโดยพระราชกฤษฎีกา ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันยุบสภาผู้แทนราษฎร และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร” เนื่องจากการเลือกตั้งไม่ได้เป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร

มีคนถามกันมากว่า โมฆะแล้วต้องทำอย่างไร โดยหลักกฎหมายที่ระบุถึงเรื่องโมฆะกรรม หรือการอันเป็นโมฆะไว้ และเป็นแม่บทแห่งการศึกษากฎหมายเรื่องโมฆกรรม คือ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งกำหนดว่าโมฆกรรมนั้นไม่อาจให้สัตยาบันแก่กันได้ นั่นคือ แม้ว่าผู้ที่เข้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการอันเป็นโมฆะนั้นจะอยากที่จะพูดคุยกัน หรือบ้างก็จะเรียกว่าเจรจากันไม่ให้เป็นโมฆะก็ทำไม่ได้ และผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดจะยกความเสียเปล่าแห่งโมฆะกรรมขึ้นกล่าวอ้างก็ได้ นั่นหมายถึงว่า การอันใดก็ตามที่เป็นโมฆะ ไม่ว่าใครที่มีส่วนได้เสีย ก็ยกเอาการนั้นขึ้นเป็นเหตุผลได้ ซึ่งในเรื่องของการเลือกตั้งนั้น ก็จะต้องถือว่าคนไทยทุกคนเป็นผู้มีส่วนได้เสียกันทั้งหมด ดังนั้นทุกคนจึงมีสิทธิที่จะยกขึ้นกล่าวอ้าง

หลายท่านยังคงสงสัยต่อไปว่า ศาลรัฐธรรมนูญโดยเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 ระบุว่าเป็นโมฆะเฉพาะส่วนที่ไม่ได้มีการเลือกตั้งเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร เพราะเหตุใดจึงระบุเช่นนั้น ก็คงจะเป็นเพราะเหตุว่าหากไม่ได้ระบุเอาไว้เช่นนั้น โดยหลักโมฆกรรมทั่วไป หากเป็นโมฆะแล้วย่อมกลายเป็นโมฆะไปเสียสิ้นและถือว่าเสียเปล่ามาแต่ต้น

หากมิได้ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นโมฆะเฉพาะส่วนนั้น ก็จะตีความไปได้ว่าพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งนั้นเป็นโมฆะทั้งหมด ก็จะต้องมาถกเถียงกันอีกว่าจะต้องเริ่มนับวันกันใหม่โดยเริ่มนับ 45 วัน ไม่เกิน 60 วันที่ไหน อย่างไร นอกจากนั้นสิ่งที่จะเป็นปัญหามากกว่าก็คือ จะกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันไปอีกว่า หากพระราชกฤษฎีกาเป็นโมฆะทั้งหมด นั้นเท่ากับว่าการยุบสภาเป็นโมฆะไปด้วยหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น ก็ต้องแปลว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกลับเป็นสมาชิกแห่งสภานั้นเหมือนไม่มีการยุบสภาเกิดขึ้น และคณะรัฐมนตรีก็กลับเป็นคณะรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน อย่างนั้นก็จะวุ่นวายกันไปใหญ่

ผู้คนก็ตั้งคำถามกันไปอีกว่า การวินิจฉัยเช่นนี้เป็นทางตัน หรือทางออกของประเทศไทย ซึ่งก็คงต้องบอกกันว่าไม่ใช่ทั้งทางตันและไม่ใช่ทั้งทางออก หากแต่เป็นคำอธิบายถึงสิ่งต่างๆ ที่หลายฝ่ายได้มีความพยายามที่จะอธิบายกันมาหลายเพลาแล้ว ว่าบ้านเมืองยังไม่พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง และหากขืนทำไปก็อาจจะทำให้การเลือกตั้งนำมาซึ่งความสูญเปล่า เสียเงินเสียทองกันไป

คำอธิบายนี้ไม่ใช่จะเป็นทางออก เพราะยังคงมีเรื่องที่จะต้องช่วยกันทำอีกมากมาย เพราะจะคิดกันแต่เพียงจัดการเลือกตั้ง และไปเลือกตั้งกันใหม่นั้น สังคมไทย ณ ขณะนี้ ก็ยังคงไม่พร้อมอยู่เช่นเดิม แต่หากจะบอกว่าเป็นทางตัน เนื่องจากศาลท่านไม่ได้ให้ทางเลือกไว้เลยก็ไม่ใช่ เพราะเมื่อมีคำอธิบายที่เห็นแล้วว่าจะต้องมีการดำเนินการกันอีกมากมาย ก็ทำให้เห็นเส้นทางเดิน

มาถึงจุดนี้ สิ่งต่างๆ ที่ไม่ได้เคยได้ทำมา ก็น่าจะถูกหยิบยกขึ้นพิจารณากัน โดยคำนึงถึงประเทศชาติเป็นสำคัญ เราก็น่าจะพอพากันฝ่าวิกฤตนี้ไปได้ ช่วยกันครับพวกเรา ร่วมแรงแข็งขัน ความสำเร็จย่อมเกิดขึ้น

ข่าวล่าสุด

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และเวสเทิร์นดิจิตอลยินดีผู้สำเร็จหลักสูตรเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อผลิตอัจฉริยะร่วมกับบีโอไอ