เสนอตั้ง"ตำรวจศาล"คุ้มครองตุลาการ
ประธานศาลปกครอง เสนอแนวคิดตั้ง "ตำรวจศาล" คุ้มครองตุลาการฯ ให้ปลอดภัย สรุปงานรอบ13ปี พบปี56มีคดีฟ้องร้องมากที่สุด
ประธานศาลปกครอง เสนอแนวคิดตั้ง "ตำรวจศาล" คุ้มครองตุลาการฯ ให้ปลอดภัย สรุปงานรอบ13ปี พบปี56มีคดีฟ้องร้องมากที่สุด
นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครอง เปิดเผยผลการทำงานในรอบ 13ปี พร้อมทั้งประกาศเปิดทำการแผนกคดีบริหารงานบุคคลในศาลปกครองสูงสุด และศาลปกครองชั้นต้นทุกแห่งทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายในการเร่งรัดขั้นตอนการดำเนินกระบวนการพิจารณาและงานธุรการคดี เพื่อให้คดีแล้วเสร็จโดยเร็วทันต่อการป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และทันต่อการแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนหรือความเสียหายของคู่กรณี
นายหัสวุฒิ กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดทำการศาลมาจนถึงวันที่31 ธ.ค. 2556 มีคดีรับเข้าสู่การพิจารณาทั้งหมดจำนวน 94,920 คดี พิจารณาแล้วเสร็จจำนวน 74,000 คดี คิดเป็น 77.96%ของจำนวนคดีรับเข้าทั้งหมด ส่วนประเภทเรื่องที่ฟ้องต่อศาลปกครอง พบว่า 23% เป็นคดีเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล วินัยฯ รองลงมาเป็นคดีเกี่ยวกับอาคาร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คิดเป็น 17.71 % และคดีเกี่ยวกับการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ละเมิด คิดเป็น 17.64%
ทั้งนี้ สถิติคดีในพ.ศ. 2556 ถือเป็นปีที่มีคดีฟ้องรับเข้ามากที่สุด โดยนับจากเมื่อพ.ศ.2551-2555 มีคดีรับเข้าจำนวนเฉลี่ย 8,000 คดี/ปี แต่ในพ.ศ.2556 มีคดีรับเข้าถึง 13,019คดี พิจารณาคดีแล้วเสร็จจำนวน 9,447 คดี คงค้างอยู่จำนวน 20,920 คดี เป็นคดีที่ใช้เวลาในการพิจารณาไม่เกิน2ปี จำนวน7,080 คดี คิดเป็น 74.94%
สำหรับการพิจารณาคดีในแผนกคดีสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ 2ส.ค. 2554-31ธ.ค.2556 มีคดีเข้าสู่การพิจารณาแผนกสิ่งแวดล้อมจำนวน 4,866 คดี พิจารณาแล้วเสร็จจำนวน 2,120 คดี และอยู่ระหว่างการพิจารณาจำนวน 2,746 คดี
นายหัววุฒิ กล่าวอีกว่า การเปิดแผนกคดีบริหารงานบุคคล ถือเป็นคดีที่มากที่สุดที่ฟ้องเข้ามายังศาลปกครอง เช่น การฟ้องเพิกถอนคำสั่งที่เกี่ยวกับการ โยกย้าย การลงโทษทางวินัย และคำสั่งเกี่ยวกับสิทธิ์ประโยชน์ของทางราชการที่ต้องมีการชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งการพิจารณาจะมีองค์คณะพิจารณาพิพากษาเพื่อให้ทันต่อการเยียวผู้เสียหาย โดยพิจารณาคดี ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง ของพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
นายหัสวุฒิ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดจากผลของการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรศาล องค์กรศาล ไม่มีหน่วยงานใดที่เข้ามาปกป้อง ดังนั้นจึงต้องมีหน่วยงานที่เข้ามาคุ้มครอง หรือ ตำรวจศาล โดยอำนาจหน้าที่ขึ้นตรงกับองค์กรศาล เพื่อให้เกิดการทำหน้าที่ของตุลาการศาลอย่างตรงไปตรงมา จึงเป็นเรื่องสำคัญ
"เหตุการณ์ที่ศาลยุติธรรมถูกระเบิด หรือการติดตามไปยังบ้านของตุลาการศาล เรื่องแบบนี้ในต่างประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องไม่ให้เกิดขึ้น โดยศาลจะต้องเป็นผู้แต่งตั้งตำรวจศาลขึ้นเอง ผมเคยถูกขู่ฆ่า และไม่อาจรู้ได้เลยว่าใครมีเจตนาแบบนั้น ดังนั้นการจัดตั้งต้องขึ้นกับองค์กรศาล เพราะในปัจจุบันไม่มีหน่วยงานที่เข้ามาดูแลคุ้มครองศาล และตุลาการฯ เพราะการคุ้มครองจริงๆจะต้องเป็นหน่วยงานประจำ ซึ่งจะไม่อำนาจหน้าที่ในการจับกุม แต่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำที่บ้านของตุลาการฯได้อดเวลา เพราะที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุข่มขู่ในแต่ละครั้งจะมีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแล ซึ่งอาจยังไม่เพียงพอที่จะไว้วางใจได้ ซึ่งถ้าตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ก็เชื่อแน่ว่าบ้านเมืองจะเกิดความสงบเรียบร้อย "นายหัสวุฒิ กล่าว
นายหัสวุฒิ กล่าวว่า ภายหลังการตัดสินคดีแล้ว เรื่องของการบังคับคดีเป็นเรื่องสำคัญมี่ต้องทำให้ได้ จึงมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมารับผิดชอบ เป็นเรื่องของตุลาการฯที่ต้องเข้ามามีส่วนร่วมของการบังคับคดีด้วย แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยพบปัญหาที่ว่าไม่สามารถบังคับคดีได้


