posttoday

ตร.ทล.จับ10ล้อเบียดกระบะตกข้างทาง

01 มีนาคม 2557

ตำรวจทางหลวงจับคนขับสิบล้อเบียดกระบะจนตกขอบถนนพระราม2จนตกข้างทางตามที่ปรากฏในสังคมออนไลน์

ตำรวจทางหลวงจับคนขับสิบล้อเบียดกระบะจนตกขอบถนนพระราม2จนตกข้างทางตามที่ปรากฏในสังคมออนไลน์

ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ เเสงเพชร ผบก.ทล. พร้อม พ.ต.อ.อภิชัย  ดุษฎีพฤฒิพันธุ์ ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.ปริญญา กลิ่นเกษร สว.ส.ทล.1กก.2บก.ทล. ร่วมเเถลงผลการจับกุมนายอังกูลย์  บัวทอง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208/1 หมู่ 7 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี  หลังจากมีผู้นำภาพวีดีโอรถยนต์บรรทุกพ่วงขับขี่เบียดรถยนต์กระบะตกถนน บริเวณถนนพระราม2 (ทล.35) ระหว่าง กม.ที่ 52-53  ต.นาโคก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ลงยูทูป เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเเพร่หลาย
 
พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ กล่าวว่า หลังจากมีคลิปภาพดังกล่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ ตำรวจทางหลวงจึงได้มีการติดตามหาตัวผู้ขับรถบรรทุกคันดังกล่าว โดยสังเกตจากรถพ่วงตอนท้ายรถคันดังกล่าว ซึ่งมีจุดสังเกตทั้งหมด 6 จุด คือ 1.มีเสาผูกริบบิ้น ข้างซ้ายเเละข้างขวา 2. กระบะท้าย คานบนสุดช่องที่ 2 จากซ้ายมีรอยบุบเเตก บิดเบี้ยว  3. ติดป้าย "รถพ่วง" 4.ตำเเหน่งป้ายทะเบียน 5.ติดโลโก้บริษัท เเละ 6.ขนาดกันชนหลัง ซึ่งสะท้อนเเสง จากนั้นจึงได้ทำการสืบสวนเเละติดตาม กระทั่งทราบว่านายอังกูลย์เป็นผู้ขับขี่รถบรรทุกคันก่อเหตุ จึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวน ซึ่งจากการตรวจสอบนายอังกูลย์ไม่ได้เสพยาเสพติด หรือมีข้อหาติดตัว เเต่อย่างไร

จากการสอบสวนนายอังกูลย์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ขับขี่รถคันก่อเหตุตามที่ปรากฏในภาพวีดีโอจริง ซึ่งในวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 7 ธันวาคม 2556 เวลาประมาณ 09.00 น. หลังจากที่ตนขับรถไปรับดินลูกรังเพื่อส่งไปยังจ.สมุทรสาคร รอบเเรกเรียบร้อยเเล้ว ตนได้ตีรถกลับเพื่อไปรับดินลูกรังอีกครั้งหนึ่ง เเต่ระหว่างทางนั้นมีรถกระบะขับปาดหน้าปาดหลังตน ด้วยความคึกคะนอง จึงขับปาดหน้ากลับไปบ้าง จากนั้นตนเห็นคนขับรถกระบะทำท่าจะหยิบของบางอย่าง ตนเกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงตัดสินใจขับเบียดรถกระบะคันดังกล่าว ก่อนขับไปทำงานตามปกติต่อไป โดยไม่ได้ตั้งใจเเละไม่ทราบว่ารถกระบะคันนั้นตกถนน กระทั่งมาเห็นคลิปวีดีโอดังกล่าว ซึ่งต้องขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป ตนไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เเละรับปากจะไม่ทำอีก
  
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงเเจ้งข้อหาขับรถไม่คำนึงความปลอดภัยของผู้อื่น ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522  ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือ ปรับตั้งเเต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร ดำเนินคดีต่อไป

 **เครดิตภาพเฟซบุ๊ก NAKON45 อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ**

ข่าวล่าสุด

ชายแดนไทย–กัมพูชาปะทะเดือด เกมอำนาจยืดเยื้อข้ามปีใหม่