ลูกหลานพระยาละแวกปี2557
คนไทยที่ไปเอาคนเขมรมาเข่นฆ่าคนไทย เพื่อแสวงหาอำนาจและรักษาอำนาจของตนไว้ ไม่รู้จะเปรียบเทียบกับอะไรดี
โดย...ภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
พล.อ.เตียบันห์ รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา อ้างกับฝ่ายไทยว่าไม่มีทหารเขมรเข้ามาปฏิบัติการในการชุมนุมใหญ่ที่ กทม. หากตรวจพบว่ามีทหารเขมรคนใดเข้ามาก่อความวุ่นวายในเมืองไทย เขาจะจัดการลงโทษอย่างหนัก
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ผบ.หน่วยซีลของกองทัพเรือไทย ออกมายืนยันว่ามีเขมรเข้ามาจริง และมีรถตู้ป้ายเขมรสิบคันมาจอดอยู่ใกล้ที่ชุมนุม ซึ่งไม่มีใครบอกได้ว่ารถตู้ป้ายเขมรพวกนี้เข้ามาทำอะไรในช่วงที่สถานการณ์ตึงเครียด ทำให้คนไทยสงสัยว่ามันยังไงกันแน่ สรุปแล้วมีทหารเขมรเข้ามาจริงหรือไม่อย่างไร เพราะเรื่องภายในของเรา คนไทยก็ไม่ต้องการให้เขมรเข้ามาวุ่นวาย เนื่องจากเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเขมรช่วงปี 2553 มาก่อน
คำตอบเรื่องนี้ต้องย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2553 พบว่าพรรคฝ่ายค้านขณะนั้น ซึ่งมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลฮุนเซนอย่างมาก ได้ร่วมมือกันในการโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ เขามองอภิสิทธิ์เป็นคนขัดขวางผลประโยชน์ของเขมร
ฝ่ายค้านของ มร.ที. ขณะนั้นเมื่อประเมินกำลังเปรียบเทียบแล้วมีน้อยกว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งกุมอำนาจรัฐ พลังเสื้อแดงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ จึงต้องหากำลังเสริมเพื่อให้สามารถยันและพลิกเป็นฝ่ายรุก และต้องหา “หลังพิง” เพื่อซ่องสุมกำลังและหลบซ่อนตัว ฯลฯ ในการปฏิบัติการล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ กัมพูชาภายใต้ฮุนเซนเป็นคำตอบต่อโจทย์นี้ เขมรนับตั้งแต่ผู้นำประเทศลงมา|จนถึงระดับปฏิบัติงาน ได้ร่วมกับฝ่ายค้าน ขณะนั้นในการล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์อย่างเต็มที่ โดย มร.ที. บินมาพนมเปญเพื่อวางแผนและพบปะสั่งการแกนนำในเมืองไทยอย่างใกล้ชิด และสมุนในเมืองไทยบินไปพบเพื่อรับคำสั่งมาปฏิบัติการ
เมืองเสียมราฐที่อยู่ติดกับชายแดนไทยถูกใช้เป็นสถานที่พบปะ วางแผน ซ่องสุมกำลังและฝึกอบรมกองกำลังจากประเทศไทย โรงแรมใจกลางเมืองถูกใช้เป็นที่พัก หลบซ่อนตัวของแกนนำที่หนีการจับกุมตัวในไทย มีทหารเขมรมาให้การอารักขา มีการส่งคนไทยไปฝึกอบรมด้านการทหาร โดยมีทหารเขมรเป็นผู้ฝึกอบรมให้ หลังการอบรมคนเหล่านี้เดินทางกลับมาประเทศไทย โดยได้รับภารกิจในการลอบสังหารนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงขณะนั้น
คนไทยเมื่อปฏิบัติการก่อการร้ายและถูกหมายจับก็หนีไปซ่อนตัวอยู่ที่เขมร ซึ่งการเดินทางไปมาสะดวกที่สุด คนเขมรที่เข้ามาร่วมก่อการร้ายในไทย เมื่อถูกตำรวจไทยไล่ล่าก็หนีกลับไปเขมร ซึ่งมีความปลอดภัยมากที่สุด เพราะทางการไทยไม่สามารถตามเข้าไปจับกุมตัวได้ และไม่ได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลเขมร ซึ่งเข้าข้างฝ่ายทักษิณ ซึ่งเป็นฝ่ายค้านขณะนั้น
ในช่วงปี 2553 ที่เหตุการณ์ตึงเครียดมากที่สุด รัฐบาลเขมรได้สร้างสถานการณ์ที่ชายแดน ด้วยการยิงปืนใหญ่เข้ามาในฝั่งไทยเพื่อดึงกำลังจากกองทัพภาคที่ 2 ให้ห่วงพะวงอยู่กับชายแดนด้านเขมร เพื่อไม่ให้รัฐบาลดึงกำลังส่วนนี้ไปช่วยใน กทม. รวมทั้งพยายามยกระดับการปะทะชายแดนให้เป็น “สงคราม” เพื่อให้สหประชาชาติเข้ามาแทรกแซง ฮุนเซนได้ทุ่มทุกอย่างเพื่อช่วยให้ฝ่ายค้านขณะนั้นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ให้ได้ และประสบความสำเร็จในที่สุดโดยที่คนไทยเสียชีวิต บาดเจ็บล้มตายมากมาย หลังจากยึดครองอำนาจรัฐได้แล้ว จึงมีการตอบแทนเขมรด้วยการสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว ไม่คัดค้านกรณีเขมรขอตีความคำพิพากษาศาลโลกปี 2505 ให้คลุมพื้นที่ทั้งหมดของเขาพระวิหารเป็นของตน เป็นต้น
แม้ว่ากำลังฝ่ายค้านที่สู้กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ในปี 2553 ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดเป็นคนไทย แต่รัฐบาลเขมรก็มีส่วนช่วยเหลืออยู่มาก อาวุธสงครามที่นำมาใช้ปฏิบัติการในไทยในช่วงนั้นส่วนหนึ่งนำมาจากเขมร
เมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ภายใต้การชี้นำของ มร.ที. ขึ้นครองอำนาจ สองรัฐบาลได้ร่วมมือกันในความพยายามรักษาอำนาจไว้ให้อยู่นานที่สุด เวลานี้ทั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์และรัฐบาลฮุนเซนถูกขบวนการประชาชนออกมาต่อต้านคัดค้าน สองฝ่ายจึงต้องจับมือกันเพื่อทำลายขบวนการประชาชนในสองประเทศ อาทิ ฝ่ายไทยหาทางกีดกันไม่ให้วีซ่าแก่สม รังสี ซึ่งเป็นฝ่ายค้านในกัมพูชาเดินทางผ่านไทย
ขณะเดียวกัน เขมรก็ช่วยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในการต่อต้านกลุ่ม กปปส. แม้วันนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์สามารถคุมกำลังตำรวจไว้ได้อย่างเด็ดขาด แต่ยังไม่สามารถคุม 3 เหล่าทัพได้ ดังนั้น หากรัฐบาลยิ่งลักษณ์เพลี่ยงพล้ำ นักรบเขมรอาจถูกนำมาใช้เป็นกำลังเสริมในลักษณะกองโจรในการต่อต้านกองทัพไทย และกลุ่ม กปปส.อย่าคิดว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ และไม่ต้องมาเล่นคำว่าเขมรพวกนี้เป็นทหารหรือไม่ เพราะพวกนี้อาจเป็น “ทหารรับจ้าง” หรือเป็นหน่วยทหารภาคเอกชน ซึ่งจัดบริษัทแบล็กวอเตอร์มาจัดการให้เพื่อไม่ให้เกี่ยวพันกับรัฐบาลเขมรก็ได้ ในเมื่อฮุนเซนช่วยคนในตระกูลนี้ล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์และสถาปนารัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ แล้วทำไมเขาจะช่วยรัฐบาลยิ่งลักษณ์รักษาอำนาจไว้ต่อไปไม่ได้ ในความพยายามร่วมกันรักษา “ระบอบทักษิณ” ในไทย และ “ระบอบฮุนเซน” ในเขมรให้ดำรงอยู่ต่อไป
คนไทยฆ่ากันเองก็ว่าแย่แล้ว แต่คนไทยที่ไปเอาคนเขมรมาเข่นฆ่าคนไทย เพื่อนร่วมชาติของตัวเองเพื่อแสวงหาอำนาจและรักษาอำนาจของตนไว้ ไม่รู้จะเปรียบเทียบกับอะไรดี


