posttoday

วัดภคินีนาถ สำนึกในพระกรุณาธิคุณสมเด็จพระเทพรัตนฯ

12 มกราคม 2557

ทุกวันนี้ท่านที่เพิ่งเข้าไปในวัดภคินีนาถ ที่ตั้งอยู่เชิงสะพานกรุงธน ย่านบางพลัด หลังจากว่างเว้นมานาน

โดย...สมาน สุดโต

ทุกวันนี้ท่านที่เพิ่งเข้าไปในวัดภคินีนาถ ที่ตั้งอยู่เชิงสะพานกรุงธน ย่านบางพลัด หลังจากว่างเว้นมานาน (เหมือนผู้เขียน) จะต้องแปลกตา แปลกใจในความงดงามอลังการของวัด เช่น บริเวณกุฏิและตัวพระอุโบสถ รวมทั้งภาพเขียนฝาผนัง ที่เฉิดฉายส่องประกายแห่งความงาม มีชีวิตชีวา หลังจากที่อยู่ในสภาพมัวหมอง และชำรุดทรุดโทรมมาระยะหนึ่ง

การกลับมาส่องประกายเฉิดฉาย ก็เพราะพระกรุณาธิคุณในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงอุปถัมภ์

หลวงพ่อพระมงคลสิทธิญาณ (วิสิทธิ์) อายุ 91 ปี เจ้าอาวาสวัดภคินีนาถวรวิหาร (พระอารามหลวง) ย่านธนบุรี เมตตาเล่าให้ผู้เขียนฟังและพาชมอุโบสถที่รับการบูรณะใหม่ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2557 วันที่ผู้เขียนไปถวายสักการะและมุทิตาจิต พระครูสิริสุวรรณวิเทศ หรือ ดร.พระมหาทองจันทร์ สุวํโส เจ้าอาวาสวัดทองธรรมชาติ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพระธรรมทูตแห่งวัดภคินีนาถ ว่า เนื่องมาจากการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานการเสวนาในพิธีฉลอง 100 ปี ชาตกาล น.อ.แย้ม ประพัฒน์ทอง เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2553 หลังจากจบการเสวนาแล้ว เสด็จพระราชดำเนินสู่พระอุโบสถและวิหาร เพื่อจะถวายดอกไม้ธูปเทียนบูชาอัฐิ น.อ.แย้ม ที่เคยเป็นพระอาจารย์ถวายอักษรภาษาบาลี เมื่อทรงศึกษามหาบัณฑิต (ปริญญาโท) ภาควิชาตะวันออก คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทรงพบความชำรุดทรุดโทรมภาพฝาผนังและพระอุโบสถ จนกระทั่งออกพระโอษฐ์ว่าชำรุดมาก อันเป็นที่มาในการบูรณะใหญ่

ส่วนบรรยากาศในการเสวนาเรื่อง ปัญญาแย้ม วันที่ 10 ม.ค. 2553 หรือเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา หลวงพ่อเล่าว่า การเสวนาวันนั้นสมเด็จพระเทพฯ ประทับฟัง ในขณะที่ผู้ร่วมเสวนาล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี ป.ธ.9) น.อ.สุรินทร์ คุ้มจั่น ผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ กองทัพอากาศ พลวัฒ ประพัฒน์ทอง อาจารย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประพจน์ อัศววิรุฬหการ คณบดีคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และตัวหลวงพ่อในฐานะเจ้าอาวาส แต่ละท่านที่ระบุนามเสนอเรื่องและประเด็นที่น่าสนใจทั้งสิ้น หลวงพ่อจึงยกเรื่องที่หลายคนในที่ประชุมไม่เคยเห็นและทราบมาก่อน นั่นคือ ชีวิตการเป็นพระภิกษุของ น.อ.แย้ม เพราะตัวหลวงพ่อเป็นเด็กวัด ในขณะที่ น.อ.แย้ม บวชพระอยู่ที่วัดภคินีนาถ ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากที่ประชุมมาก สมเด็จพระเทพฯ ทรงสนพระทัย ทรงบันทึกเรื่องที่หลวงพ่อพูดจนจบ

ท่านเล่าประเด็นเกี่ยวกับ น.อ.แย้ม เมื่อเป็นพระ หลวงพ่อว่า น.อ.แย้ม เป็นคนพอ เมื่อลาสิกขาครองชีวิตฆราวาสใช้ความรู้ที่ได้จากวัดสอนหนังสือพระและฆราวาสจนกระทั่งมีรายได้เลี้ยงครอบครัว บุตรธิดา 6 คน ล้วนแต่เป็นคนดีและเก่ง เช่น คนโตมีชื่อเล่นว่า ปุ๊ (คงเดช ประพัฒน์ทอง อดีตข้าราชการกรมศิลปากร) หากมีชีวิตต่อมา อาจได้เป็นอธิบดีกรมศิลปากรก็ได้ เป็นพลอากาศเอก 2 คน พลอากาศตรี 1 คน นาวาอากาศเอกหญิง 1 คน เป็นหมอชาวบ้าน วิชาความรู้ที่ท่านเขียน ท่านมอบให้เป็นสมบัติวัดภคินีนาถทั้งหมด

พอเสวนาจบสมเด็จพระเทพฯ ทรงพระดำเนินเข้าไปในพระอุโบสถ เพื่อถวายการบูชาอัฐิ น.อ.แย้ม ขณะทอดพระเนตรภาพเขียนจึงมีกระแสพระราชดำรัสว่าชำรุดมากแล้วนี่ น.อ.ปัญจะ จิตรโสภี บุตรเขย น.อ.แย้ม ได้กราบทูลขอพระบารมี พระองค์จึงตรัสชวนพระสหายและประชาชนร่วมกันทอดกฐินในปีนั้น

ครั้งนั้นทางวัดได้บอกชาวบ้านให้โดยเสด็จพระราชกุศล ได้เงินในการทอดกฐินประมาณ 3 ล้านบาท

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ดำเนินการบูรณะ โดยจะทำการบูรณะเฉพาะภาพฝาผนัง แต่ในเวลานั้นหลังคาพระอุโบสถรั่วด้วย หากฝนตกจะเป็นอันตรายต่อภาพเขียน หลวงพ่อจึงพูดกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ว่า ทำทั้งที เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ จะทำแค่นี้ไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงถามว่าจะให้ทำอย่างไร ให้บอกมาเถิด จะจัดให้ หลวงพ่อจึงเสนอให้เปลี่ยนหลังคาใหม่หมด เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ฟังแล้วก็เห็นด้วย จึงทำตามที่แนะนำ พร้อมทั้งทำพื้นพระอุโบสถและอื่นๆ จนครบถ้วน ขณะนี้ทางวัดกำลังบูรณะวิหารคดอยู่ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ ทั้งสิ้น

ขณะที่หลวงพ่อพาผู้เขียนไปดูพระอุโบสถ น.อ.ปัญจะ จิตรโสภี บุตรเขย น.อ.แย้ม อยู่ที่นั่น จึงได้ร่วมให้ข้อมูลด้วย พร้อมกับเล่าบรรยากาศเมื่อสมเด็จพระเทพฯ ทอดพระเนตรพระอุโบสถ ทรงพบแต่ความชำรุดทรุดโทรมถึงกับออกพระโอษฐ์ว่าชำรุดมาก น.อ.ปัญจะ จิตรโสภี จึงกราบบังคมทูลว่า เมื่อครั้งอาจารย์แย้มยังมีชีวิต ได้ปรารภเสมอว่า ถ้าได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท การบูรณภาพฝาผนังพระอุโบสถวัดภคินีนาถคงสำเร็จเรียบร้อย

พระองค์ทรงถามย้ำว่าจะให้ซ่อมฝาผนังหรือ จึงกราบบังคมทูลว่าพระเจ้าข้า จึงหันไปหาอาจารย์ประพจน์ อัศววิรุฬหการ คณบดีคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พระสหายว่าปีนี้เรามาทอดกฐินกัน

เมื่อได้ฟังพระราชดำริ จึงกราบบังคมทูลว่า อาจารย์แย้มคงจะชื่นใจ เพราะอาจารย์มีคติว่าเกิดมาทั้งที ต้องทำดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีไว้

น.อ.แย้ม ประพัฒน์ทอง เคยเป็นเด็ก เป็นสามเณร และเป็นพระวัดภคินีนาถ และไม่เคยลืมวัดนี้เลย เกิดวันที่ 1 ม.ค. 2452 ที่ปากคลองบางจาก ย่านบางพลัด สอบ ป.ธ.9 ได้เมื่อ พ.ศ. 2477 ถึงแก่กรรม วันที่ 22 ม.ค. 2528 อัฐิ น.อ.แย้ม อยู่ที่เจดีย์หน้าวิหาร ก่อนบูชาอัฐิ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบูชาพระประธานในวิหารก่อน และทรงเสี่ยงเซียมซี ได้หมายเลข 14 ตรัสด้วยพระอารมณ์ขันว่า 14 วาสนาดี แต่ไม่มีคู่

น.อ.ปัญจะ นำเรื่องนี้บอกชาวบ้าน ปรากฏว่าคนย่านวัดภคินีนาถ ถูกลอตเตอรี่กันทั่วในครั้งนั้น

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินทรงทอดผ้าพระกฐิน มีผู้โดยเสด็จพระราชกุศล 3 ล้านบาท โรงแรมริเวอร์ไซด์ เป็นผู้โดยเสด็จพระราชกุศลรายใหญ่ โดยทูลเกล้าฯ ถวายเงิน 1 ล้านบาท

ในการบูรณะนั้นได้รับความอนุเคราะห์เป็นพิเศษจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่มีงบบูรณะวัดที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์จักรี ซึ่งวัดภคินีนาถอยู่ในกรอบนี้ด้วย เพราะเป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าหญิงประไพวดี (บางแห่งว่าประภาวดี) กรมหลวงเทพยวดี พระราชธิดา ในรัชกาลที่ 1 ทรงบูรณะใหม่ จากเดิมที่มีชื่อว่า วัดบางจาก ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น วัดภคินีนาถ ในรัชกาลที่ 3

หลวงพ่ออธิบายเรื่องภาพเขียน ที่เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เป็นเจ้าของเรื่องในการบูรณะ ว่า ภาพทั้งหมดออกแนววัฒนธรรมจีน ตามสมัยนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3

ภาพเขียนลายแบบนี้สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เรียกว่า ลายฮ้อ ซึ่งมีที่วัดนี้เพียงแห่งเดียว

ข้อมูลจาก www. ว่าเป็นภาพเครื่องโต๊ะบูชาอย่างคติจีน นับเป็นงานจิตรกรรมที่น่าศึกษาและเป็นตัวอย่างที่ดีของการศึกษาศิลปะจีน เพราะเขียนได้อย่างมีชีวิตชีวาครบถ้วนตามระเบียบจีนคดี ตัวอย่างของภาพเครื่องโต๊ะบูชาเช่นนี้ยังปรากฏที่วัดมหรรณพาราม กรุงเทพฯ ซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เช่นกัน และอีกหลายวัด แต่ที่วัดภคินีนาถนั้นดูจะมีชื่อเสียงมากที่สุด อาจกล่าวได้ว่าความนิยมในการเขียนภาพทำนองนี้ เริ่มในสมัยรัชกาลที่ 3 นี้เอง ด้วยเหตุที่มีพระราชนิยมในงานศิลปะจีนอย่างยิ่งนั่นเอง

วัดภคินีนาถ สำนึกในพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีความกตัญญูต่อพระอาจารย์ การบูรณะพระอุโบสถ ภาพฝาผนัง จึงสำเร็จด้วยดี น.อ.ปัญจะ จิตรโสภี บุตรเขย น.อ.แย้ม สำนึกในพระกรุณาธิคุณว่าพระดำรัสที่สมเด็จพระเทพรัตนฯ ตรัสแก่ผู้เกี่ยวข้อง ยังก้องในโสตประสาทว่า เราจะทำให้ได้ จะทำให้สำเร็จ ไม่ต้องห่วง และวันนี้ก็เห็นแล้วด้วยพระบารมีในพระองค์ท่าน

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ