posttoday

แร้งจอมหักกระดูก

05 มกราคม 2557

หากให้เจาะจงเป้าหมายอันดับ 1 ของการดิ้นรนมาปีนภูเขาสูงที่เนปาลเพื่อถ่ายรูปบรรดาอีแร้งทั้งหลาย

หากให้เจาะจงเป้าหมายอันดับ 1 ของการดิ้นรนมาปีนภูเขาสูงที่เนปาลเพื่อถ่ายรูปบรรดาอีแร้งทั้งหลาย ผมตอบได้ไม่ลังเลเลยว่า มันคือ Lammergeier

แร้งตัวนี้ยังไม่มีชื่อไทยเป็นทางการ เพราะมันไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อนกไทย แต่หากจะเรียกเล่นๆ ว่า “อีแร้งเครา” ก็คงพอกล้อมแกล้มได้ เนื่องจากอีกชื่ออังกฤษของมันก็คือ Bearded Vulture จากการที่มีเคราดำห้อยอยู่สองข้างจะงอยปาก ราวกับหนวดทรง “เขี้ยวแมวน้ำ”

แต่ฝรั่งนักดูนกร่วมอุดมการณ์ที่โคจรมาร่วมมหกรรมอีแร้งด้วยกันก็ไม่เห็นใครเรียกชื่อมันว่า Bearded Vulture ทุกคนพร้อมใจกันขานชื่อ Lammergeier กันถ้วนหน้า อ้อ ออกเสียง “แลมเมอกาย” นะ มีผมคนเดียวที่ปล่อยไก่วันแรกเรียกว่า “แลมเมอเกีย” 555

เหตุผลที่อยากเจอแลมเมอร์กายร์ที่สุด เพราะผมเคยดูสารคดีชีวิตสัตว์โลกทางทีวี แล้วต้องทึ่งมากมายกับพฤติกรรมการใช้เครื่องทุ่นแรงในการทำมาหากินของมัน

แลมเมอร์กายร์ชอบหิ้วกระดูกสัตว์ บินขึ้นไปสูงจากพื้น 50150 เมตรแล้วทิ้งกระดูกลงมากระแทกก้อนหินข้างล่าง มันจะทำครั้งแล้วครั้งเล่าจนกว่ากระดูกจะแตกออก จากนั้นก็จิกกินไขกระดูก จัดเป็นนกชนิดเดียวในโลกที่ยังชีพด้วยไขกระดูก

บางเวลาแลมเมอร์กายร์ก็ไม่ยักหิ้วกระดูกมาทิ้งใส่หิน แต่เปลี่ยนเป็นคาบกระดูกแล้วฟาดกับก้อนหินดื้อๆ (วันนั้นอาจไม่มีอารมณ์ทิ้งบอมบ์)

มีรายงานแลมเมอร์กายร์ล่าสัตว์ที่ยังมีชีวิตเอามาเป็นเหยื่อด้วย เช่นเต่า กระดองแข็งๆ นั่นไม่ใช่ปัญหาแม้แต่น้อย พวกหิ้วแล้วทิ้งละลิ่วใส่ก้อนหินได้ผลพอกันทั้งกระดูกทั้งกระดอง

ถ้าล่าพวกกระต่าย มันจะหิ้วขึ้นไปทั้งเป็น แล้วปล่อยลงมากระแทกพื้น(โหดฉิบ)

หากแต่เป็นพวกแกะภูเขา จะใช้วิธีบินจู่โจม กางปีกไล่ให้เหยื่อตกใจพลาดตกหน้าผาตาย

ถึงจะหากินได้หลากหลาย แต่อาหารหลัก 8590% ก็ยังเป็นไขกระดูกสัตว์อยู่ดี นี่ผมชักสงสัยว่ามนุษย์ประเภทสั่งขาหมูเอาเฉพาะคากิ ไม่เอาเนื้อไม่เอาหนัง อาจเป็นแลมเมอร์กายร์กลับชาติมาเป็นคน 555