พญาแร้ง
ก่อนไปเนปาล ผมเข้าใจผิดว่าพญาแร้ง (Redheaded Vulture) เป็นแร้งที่ตัวใหญ่กว่าใคร ถึงได้ชื่อเป็นพญา
ก่อนไปเนปาล ผมเข้าใจผิดว่าพญาแร้ง (Redheaded Vulture) เป็นแร้งที่ตัวใหญ่กว่าใคร ถึงได้ชื่อเป็นพญา
แต่พอเห็นตัวจริง ร่อนสวนไปมากับพวกแร้งสายพันธุ์หิมาลัยทั้งหลาย “พญา” ก็กลายเป็น “ไอ้เล็ก” ไปในพริบตา!
ขนสีดำๆ ตัดกับหนังหัวสีแดง เวลามองด้วยตาเปล่า จะรู้สึกเหมือนดูไก่ชนตัวผู้ ที่เอามาต่อปีกยาวเหยียดแบบเครื่องร่อน ผมว่ามันสวยสง่ากว่าพวกแร้งหิมาลัยนะ
ในอดีต พญาแร้งเป็นนกประจำถิ่นของไทย แต่ก็ประสาแร้ง ยากจะใช้ชีวิตอยู่ในประเทศที่ชักเจริญเกินไปซะแล้วอย่างเมืองไทย (นี่ขนาดยังไม่มีรถไฟความเร็วสูงพาดผ่านทุ่งนานะเนี่ย)
แต่ปัญหาร้ายกาจที่คุกคามพญาแร้งไทย คงไม่ใช่ความเจริญ แต่เป็นความใจทมิฬหินชาติที่แฝงกลืนอยู่กับความเป็นเมืองพุทธอย่างแยกไม่ออก แบบว่าปากพูดว่าเมืองไทยเราเมืองพุทธ แต่การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นของเล่น ก็กระทำกันอย่างกว้างขวางคู่ขนานไปด้วย เข้าใจยาก 555
ภาพโด่งดังในอดีตของพญาแร้งในไทย เป็นตอนลงกินซากสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี อันเป็นที่มั่นสุดท้ายของพวกมัน
ขนาดหนีผู้คนไปอยู่ซะไกลสุดหล้าฟ้าเขียวอย่างนั้น ยังโดนล้างผลาญจนสิ้นเผ่าพันธุ์ จากการวางยาพิษในซากสัตว์เพื่อล่าเสือโคร่ง โดยพวกพรานไพรใจสัตว์ แล้วพญาแร้งไปขอแบ่งปันเหยื่อพิษพวกนั้นเข้า
วงการปักษีวิทยาจึงประกาศเป็นทางการไปแล้วว่า พญาแร้งสูญพันธุ์แล้วจากเมืองไทย โดยที่เพื่อนบ้านของเราอย่างกัมพูชายังมีหลงเหลือ พอจะใช้เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักดูนกฝรั่งให้ดั้นด้นตะลุยพื้นที่กันดาร ไปส่องดูกันจนทุกวันนี้
สำหรับที่เนปาลเอง แม้ผมจะเจอพญาแร้งอยู่หลายครั้ง แต่ตัวเลขที่นักปักษีวิทยาประเมินไว้ พวกมันมีประชากรเหลืออยู่แค่ 200-400 ตัวเท่านั้น
สถานภาพระดับโลกอยู่ในเกณฑ์ “ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤต” (Critically Endangered) เลยทีเดียว
โชคดีตอนไล่ถ่ายรูปพญาแร้งที่เนปาล ผมไม่ยักรู้ข้อมูลนี้ ไม่งั้นอาจตื่นเต้นจนมือสั่น อิอิ


