ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ ในปี 2557
ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวเคราะห์ที่สว่างเป็นอันดับ 2 รองจากดาวศุกร์ มีขนาดใหญ่และมวลสูงที่สุด
ดาวพฤหัสบดี
ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวเคราะห์ที่สว่างเป็นอันดับ 2 รองจากดาวศุกร์ มีขนาดใหญ่และมวลสูงที่สุด การหมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร็วทำให้ดาวพฤหัสบดีมีรูปร่างเป็นทรงกลมแป้น เส้นผ่านศูนย์กลางในแนวศูนย์สูตรยาวกว่าในแนวขั้ว สามารถใช้กล้องสองตาและกล้องโทรทรรศน์สังเกตดาวบริวารของดาวพฤหัสบดีได้อย่างน้อย 4 ดวง
ดาวพฤหัสบดีโคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยคาบประมาณ 11.86 ปี ดาวพฤหัสบดีจึงขยับเข้าสู่กลุ่มดาวจักรราศีกลุ่มที่อยู่ถัดไปทางทิศตะวันออกปีละกลุ่มโดยประมาณ การหมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร็วของดาวพฤหัสบดีทำให้เมฆในบรรยากาศมีลักษณะเป็นริ้วสว่างกับคล้ำสลับกัน ริ้วสว่างเป็นส่วนที่อยู่สูง ริ้วที่คล้ำกว่าเป็นส่วนที่อยู่ลึกลงไป เมฆสีขาวอยู่สูงที่สุด ประกอบด้วยผลึกแอมโมเนีย ต่ำลงไปเห็นเป็นสีน้ำตาลอ่อนกับน้ำตาลเข้ม ส่วนที่เห็นเป็นสีน้ำเงินและม่วงน่าจะเป็นบริเวณที่อยู่ลึกที่สุด
จุดแดงใหญ่ (Great Red Spot) ที่เป็นเอกลักษณ์ของดาวพฤหัสบดีคือพายุขนาดยักษ์ พัดวนทวนเข็มนาฬิกา มีทรงรี ขนาดประมาณ 12,000 x 20,000 กิโลเมตร (ใหญ่กว่าโลกที่มีขนาด 12,756 กิโลเมตร) ตำแหน่งของจุดแดงใหญ่อยู่บริเวณละติจูด 22 องศาใต้ นอกจากจุดแดงใหญ่ ยังอาจเห็นพายุในรูปของจุดขาวและจุดมืด
ดาวพฤหัสบดีผ่านตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ในวันที่ 4 ม.ค. 2557 โดยอยู่ในกลุ่มดาวคนคู่ สว่างที่โชติมาตร –2.7 ครึ่งแรกของปีจึงเป็นช่วงที่จะเห็นดาวพฤหัสบดีอยู่บนท้องฟ้าเวลาหัวค่ำ ต้นเดือน เม.ย. ดาวพฤหัสบดีทำมุม 90 องศากับดวงอาทิตย์ จึงเห็นดาวพฤหัสบดีอยู่เหนือศีรษะขณะดวงอาทิตย์ตก และตกลับขอบฟ้าในเวลาตี 1
คืนวันที่ 23 พ.ค. ดาวพฤหัสบดีจะปรากฏใกล้ดาวเดลตาคนคู่ (Delta Geminorum) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์โชติมาตร +3.5 ที่ระยะห่างราวครึ่งองศา (เคยผ่านใกล้กันที่ระยะห่างเพียง 0.1 องศา เมื่อปี 2556) กลางเดือน มิ.ย. ดาวพฤหัสบดีเคลื่อนเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้นจนปรากฏอยู่ต่ำใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันตกในเวลาหัวค่ำ แล้วอยู่ร่วมทิศกับดวงอาทิตย์ในปลายเดือน ก.ค.
กลางเดือน ส.ค. หากท้องฟ้าเปิดอาจเริ่มเห็นดาวพฤหัสบดีอยู่ใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันออกในเวลาเช้ามืด ดาวศุกร์ผ่านมาอยู่ใกล้ดาวพฤหัสบดีในช่วงดังกล่าว โดยใกล้กันที่สุดในเช้ามืดวันที่ 18 ส.ค. 2557 ห่างกันประมาณ 0.4 องศา และเป็นช่วงที่ดาวเคราะห์ทั้งสองอยู่ใกล้กระจุกดาวรังผึ้งในกลุ่มดาวปู แต่อาจสังเกตกระจุกดาวได้ยากเนื่องจาก อยู่ใกล้ขอบฟ้า และมีเวลาสังเกตได้ไม่นานก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น
ดาวพฤหัสบดีอยู่บนท้องฟ้าเวลาเช้ามืดตลอดช่วงที่เหลือของปี โดยทำมุมห่างจากดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ กลางเดือน ต.ค. ดาวพฤหัสบดีออกจากกลุ่มดาวปูเข้าสู่กลุ่มดาวสิงโต กลางเดือน พ.ย. ดาวพฤหัสบดีทำมุมฉากกับดวงอาทิตย์ จึงขึ้นเหนือขอบฟ้าในเวลาประมาณเที่ยงคืน แล้วอยู่เหนือศีรษะในเวลาเช้ามืด
ดาวพฤหัสบดีมีดวงจันทร์บริวารที่ค้นพบแล้วมากกว่า 60 ดวง ดวงที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 4 ดวง สามารถเห็นได้ด้วยกล้องสองตา ได้แก่ ไอโอ ยูโรปา แกนีมีด และคัลลิสโต
ดาวเสาร์
ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในระบบสุริยะ มีรูปร่างเป็นทรงกลมแป้น เส้นผ่านศูนย์กลางในแนวขั้วสั้นกว่าในแนวศูนย์สูตรราวร้อยละ 10 บรรยากาศของดาวเสาร์ถูกแบ่งเป็นแถบและเขตต่างๆ แบบเดียวกับดาวพฤหัสบดี บางครั้งเกิดแถบเมฆสีขาวขึ้นในบรรยากาศ เรียกว่าจุดขาวใหญ่ (Great White Spot) ครั้งล่าสุดพบเมื่อปลายปี 2553
ดาวเสาร์มีวงแหวนสว่างล้อมรอบอยู่ในแนวระนาบศูนย์สูตร กล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็กสามารถแบ่งวงแหวนดาวเสาร์ออกได้เป็น 3 วง ได้แก่ วงแหวนเอ (A) บี (B) และซี (C) เรียงลำดับจากวงนอกถึงวงในสุด เมื่อสังเกตจากโลก ขอบวงแหวนจะหันเข้าหาโลกทุกๆ 1516 ปี ครั้งล่าสุดเมื่อปลายปี 2552 ปัจจุบันดาวเสาร์กำลังหันขั้วเหนือเข้าหาดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ วงแหวนดาวเสาร์จึงมีแนวโน้มขยายกว้างขึ้นในแนวเหนือใต้ โดยจะกว้างที่สุดในปี 2560
ต้นปี 2557 ดาวเสาร์อยู่บนท้องฟ้าเวลาเช้ามืด โดยอยู่ทางทิศตะวันออกในกลุ่มดาวคันชั่ง คืนวันที่ 10/11 พ.ค. ดาวเสาร์จะอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ สว่างที่โชติมาตร +0.1 หลังจากนั้นจะเริ่มเห็นดาวเสาร์บนท้องฟ้าเวลาหัวค่ำ
ปลายเดือน ส.ค. ดาวอังคารผ่านมาใกล้ดาวเสาร์ โดยที่ดาวเคราะห์ทั้งสองมีความสว่างเท่ากันที่โชติมาตร +0.6 ราวปลายเดือน ต.ค. ดาวเสาร์เคลื่อนเข้าใกล้ดวงอาทิตย์จนไม่สามารถสังเกตได้ อยู่ร่วมทิศกับดวงอาทิตย์ในวันที่ 18 พ.ย. ต้นเดือนถึงกลางเดือน ธ.ค. น่าจะเริ่มเห็นดาวเสาร์บนท้องฟ้าทิศตะวันออกในเวลาเช้ามืด จากนั้นดาวเสาร์จะทำมุมห่างจากดวงอาทิตย์มากขึ้นตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปี โดยเคลื่อนเข้าใกล้ส่วนหัวของกลุ่มดาวแมงป่อง
ดาวเสาร์มีดวงจันทร์บริวารที่ค้นพบแล้วมาก กว่า 60 ดวง ไททันมีขนาดใหญ่ที่สุด แต่ต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ในการสังเกต
ปรากฏการณ์ท้องฟ้า (2229 ธ.ค.)
ท้องฟ้าเวลาหัวค่ำมีดาวศุกร์เป็นดาวสว่างเด่นอยู่ทางทิศตะวันตก ดาวศุกร์เคลื่อนเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้นทุกวัน ทำให้ตกเร็วขึ้น ต้นสัปดาห์ตกลับขอบฟ้าประมาณ 2 ทุ่ม ปลายสัปดาห์ตกเร็วขึ้นอีกครึ่งชั่วโมง ดาวพฤหัสบดีอยู่ในกลุ่มดาวคนคู่ ราว 1 ทุ่มครึ่ง หรือก่อนหน้านั้นเล็กน้อย เริ่มเห็นดาวพฤหัสบดีอยู่เหนือขอบฟ้าทิศตะวันออก จากนั้นดาวพฤหัสบดีจะขึ้นไปอยู่เหนือศีรษะในช่วงกลางดึก ก่อนจะคล้อยต่ำลงไปอยู่ทางทิศตะวันตกในเวลาเช้ามืด
ดาวอังคารอยู่ในกลุ่มดาวหญิงสาว เริ่มเห็นเหนือขอบฟ้าตะวันออกในเวลาประมาณตี 1 หรือก่อนหน้านั้นไม่นาน ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์สว่างอีกดวงหนึ่งที่เห็นได้ในเวลาเช้ามืด ขณะนี้ดาวเสาร์อยู่ในกลุ่มดาวคันชั่ง ขึ้นมาอยู่เหนือขอบฟ้าราวตี 4 สังเกตได้เรื่อยไปจนกระทั่งฟ้าสาง
สัปดาห์นี้เป็นข้างแรม ดวงจันทร์ขึ้นในช่วงดึกและอยู่บนท้องฟ้าเวลาเช้ามืดของทุกวัน วันที่ 23 ธ.ค. ดวงจันทร์อยู่ใกล้ดาวหัวใจสิงห์ในกลุ่มดาวสิงโต จากนั้นสว่างครึ่งดวงในวันที่ 25 ธ.ค. วันถัดไปจะเห็นดวงจันทร์อยู่ทางขวาของดาวอังคารที่ระยะห่าง 5 องศา วันที่ 27 ธ.ค. จันทร์เสี้ยวอยู่สูงเหนือดาวรวงข้าวที่ระยะ 2 องศา เช้ามืดวันที่ 29 ธ.ค. ดวงจันทร์ผ่านใกล้ดาวเสาร์ ห่างกันเพียง 12 องศา
วันที่ 22 ธ.ค. ดวงอาทิตย์มีตำแหน่งค่อนไปทางทิศใต้มากที่สุด เวลาเที่ยงวันเราจึงเห็นดวงอาทิตย์อยู่ทางทิศใต้ ไม่ได้ผ่านเหนือศีรษะอย่างในฤดูร้อน วันนี้เป็นวันเหมายัน ขั้วโลกเหนือเบนออกจากดวงอาทิตย์มากที่สุด ซีกโลกเหนือจึงอยู่ในฤดูหนาว มีช่วงเวลากลางคืนยาวนานกว่ากลางวัน เราจึงรู้สึกได้ว่าดวงอาทิตย์ตกเร็วและขึ้นช้า ส่วนซีกโลกใต้มีฤดูกาลกลับกัน จึงอยู่ในฤดูร้อน บริเวณรอบขั้วโลกเหนือเป็นกลางคืนตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนรอบขั้วโลกใต้เป็นกลางวันตลอด 24 ชั่วโมง


