กต.ประชุม 19 ก.พ. เตรียมแผนเจรจา"พระวิหาร"

สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 พ.ย.นี้ จะมีการจัดประชุมคณะกรรมการวิเคราะห์คำพิพากษาและแนวทางการดำเนินการ ประกอบด้วยหน่วยงานทั้งภาคพลเรือน ผู้ทรงคุณวุฒิ และกองทัพ ซึ่งไทยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการภายในให้ครบถ้วนตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ก่อนที่จะไปหารือกับกัมพูชา เพราะต้องมีความพร้อมในแนวทางและต้องมั่นใจว่าเป็นแนวทางที่ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย เนื่องจากเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ

“ขณะนี้ร่างการแปลเอกสารคำพิพากษาข้างต้นเสร็จแล้ว และอยู่ในระหว่างการตรวจทานและเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งในวันอังคารหน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการติดตามการพิพากษาคดีในครั้งนี้ ส่วนในต้นเดือนหน้าจะมีการพูดคุยกับทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายของทีมทนายฝ่ายไทย ในเรื่องของกรอบการเจรจานั้นจะมีการหารือในประเด็นสำคัญ พร้อมกับวางแผนงานรวมถึงการลงพื้นที่จริง เนื่องจากขณะนี้ยังมีหลายฝ่ายไม่เข้าใจและยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งจะนำความคิดเห็นจากการประชุมรัฐสภามาร่วมกำหนดแผนงานในการดำเนินนโยบายต่อไป”

ด้าน พิทยา พุกกะมาน ที่ปรึกษา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 37 ที่ประเทศกัมพูชา เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา กล่าวว่า หลังจากมีคำพิพากษา จากนี้จะเป็นเรื่องของการกำหนดขอบเขตของปราสาทพระวิหาร โดยการเจรจากันซึ่งยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่จึงจะสำเร็จ เมื่อกำหนดพื้นที่ชัดเจนแล้วคณะกรรมการมรดกโลกจึงจะสามารถเสนออนุมัติแผนบริหารจัดการมรดกโลกประสาทพระวิหารได้ภายในอธิปไตยของกัมพูชา จากนั้นประเทศไทยคงต้องให้ความร่วมมือกับประเทศกัมพูชาในการอนุรักษ์มรดกโลก

“ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในปีหน้า ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศกาตาร์ หากการเจรจาในเรื่องแนวเขตแดนยังไม่แล้วเสร็จ ประเทศไทยยังต้องคัดค้านการเสนอแผนบริหารจัดการมรดกโลกปราสาทพระวิหารของกัมพูชา ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมาก็ได้มอบหมายให้ยึดแนวทางนี้ ส่วนกรณีที่ประเทศไทยจะขอยื่นเสนอขึ้นเป็นมรดกโลกร่วมกันยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว และจะมีการรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่หรือไม่ก็แล้วแต่นโยบายของรัฐบาล”

ศักดิ์สิทธิ์ พลทรัพย์ศิริ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร กล่าวว่า ขณะนี้การตัดสินคดีของศาลโลกได้ผ่านไปแล้วและเชื่อว่าไม่มีกลุ่มมวลชนขึ้นไปเคลื่อนไหวอีก ฝ่ายความมั่นคงได้แจ้งให้อุทยานฯ เปิดการท่องเที่ยวได้ โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมบริเวณผามออีแดงได้ในวันที่ 16 พ.ย.เป็นต้นไป ส่วนสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ด้านเขาพระวิหารยังคงเป็นปกติ