posttoday

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา..เที่ยววันเดียวคงไม่พอ

13 พฤศจิกายน 2556

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา..เที่ยววันเดียวคงไม่พอ

เป็นที่ยอมรับสำหรับชาวไทยและต่างชาติว่าประเทศไทยมีท้องทะเลสวยงาม

มีธรรมชาติที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอยู่หลายแห่ง ทางตอนใต้ของประเทศไทย ฝั่งทะเลอันดามันยังมีชายหาดที่สวยงามและปะการังที่สมบูรณ์กำลังรอให้ผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวดำน้ำ ชมปะการัง สำรวจโลกใต้ทะเล ไปเยี่ยมเยือนพวกเขาอยู่ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา” เป็นอีกสถานที่หนึ่งซึ่งกล่าวได้ว่าหากได้มาสัมผัสเพียงครั้ง จะต้องโหยหามาซ้ำให้ได้ ที่หมู่เกาะแห่งนี้ มีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย สามารถตอบโจทย์ของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี อาทิ การดำน้ำดูปะการัง หรือแม้กระทั่งการศึกษาระบบนิเวศ ที่เริ่มจากป่าดงดิบ จนถึงท้องทะเล

รู้จักที่มาของชื่อเกาะแห่งนี้กันสักหน่อย คำว่า เภตรา [เพ-ตฺรา] ตามพจนานุกรมมีความหมายว่า เรือ, เรือสำเภา แน่นอนว่าเกาะแห่งนี้ถ้ามองมาจากที่ไกลๆ จะมีลักษณะคล้ายเรือสำเภา เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ในคาบมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณช่องแคบมะละกาทางฝั่งตะวันตก ในเขตจังหวัดสตูลและจังหวัดตรัง มีเนื้อที่ประมาณ 308,988 ไร่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ประกอบด้วย เกาะเภตรา เกาะเขาใหญ่เกาะละโละแบนแต เกาะลิดี เกาะบุโหลน เกาะเหลาเหลียงและเกาะเปรามะ ภูมิประเทศ ส่วนใหญ่ เป็นภูเขาลาดชันสูง มีพื้นที่ราบบริเวณหุบเขาและชายหาด เขตอุทยานฯ ครอบคลุมพื้นที่ชายหาด ตลอดแนวฝั่งทะเลจากอำเภอละงูถึงอำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล โดยได้รับการประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2527 สถานที่ตั้งที่ทำการอุทยานฯ อยู่ก่อนถึงท่าเรือ ปากบารา 1.5 กิโลเมตร (ระหว่างหลัก กิโลเมตรที่ 55-56) แยกซ้ายเข้าเส้นทางลูกรังอีก 1.5 กิโลเมตร ห่างจากอำเภอละงู 8 กิโลเมตร ห่างจาก ตัวจังหวัด 58 กิโลเมตร

เกาะเภตราแห่งนี้เหมาะแก่การศึกษาระบบนิเวศเป็นอย่างมาก เพราะมีป่าดงดิบที่สมบูรณ์ เป็นป่ารกทึบทั้งในเรือนยอดไม้ใหญ่และพืชพื้นล่าง มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญคือ ตะเคียนหิน ตะเคียนทราย ยางสาวดำ ตะแบก ไฉน มะม่วงป่า พะยอม ศรีตรัง แคฝอย อินทนิล กระโดน ส้มเสี้ยว ฯลฯ และพืชพื้นล่าง เช่น หวาย เฟิน มอส ขิง ข่า ไผ่ ขณะที่ป่าชายหาดก็เป็นป่าโปร่ง พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ สนทะเล กระทิง ปอทะเล โพทะเลหูกวาง กาหยี จิกเล พืชพื้นล่างเป็นพวกเตยทะเลหรือลำเจียก และยังมีป่าชายเลนให้สัมผัสกับความหลากหลายของธรรมชาติได้อย่างแท้จริง เพราะป่าชายเลนที่นี่จะมีทั้ง โกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก โปรง ตะบูน ถั่วดำ ถั่วขาวฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าอีกหลายชนิด เช่น พะยูน นางอายหรือลิงลม ค่างแว่นถิ่นใต้ กระจง หมูป่า อีเห็น พญากระรอกและค้างคาวชนิดต่างๆ หากเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าหรือในป่าอาจจะได้เห็น นกยางทะเล นกออกเหยี่ยวแดง เหยี่ยวรุ้ง นกชาปีไหน นกเงือกกรามช้าง นกแก๊ก นกกาฮัง นกกะเต็นนกขมิ้นน้อย นกเขียวคราม นกแอ่นกินรัง นกแอ่นหางสี่เหลี่ยม นกนางแอ่นแปซิฟิก ซึ่งจะบรรยายให้หมดในคราเดียวคงทำได้ยาก

เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่นี่ประกอบด้วย ทางเดินป่า 2 เส้นทางได้แก่ ทางเดินป่าอ่าวลำพู-จุดชมวิวแหลมหว้าหิน ระยะทาง 400 เมตรและทางเดินป่าอ่าวลำพู–อ่าวมะพร้าว ระยะทาง 600 เมตร

ทางเดินศึกษาธรรมชาติ จำนวน 2 เส้น ได้แก่ เส้นทางจุดชมวิวผากล้วยไม้อยู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ–จุดชมวิวแหลมหินคน ระยะทาง 570 เมตรและเส้นทางศึกษาธรรมชาติจุดชมวิวเขาโต้ะหงายอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ–หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ เขาโต๊ะหงาย ระยะทาง 200 เมตร

เปลี่ยนบรรยากาศจากบก ไปลงทะเลกันบ้าง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา มีเกาะเล็กเกาะน้อยที่มีความสำคัญและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่นที่“เกาะบุโหลน” ซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรือปากบาราประมาณ 22 กิโลเมตร เมื่อน้ำลดเต็มแล้วนักท่องเที่ยวจะได้เห็นเหล่าปะการังเขากวางโผล่น้ำขึ้นมาอวดโฉมอยู่เต็มหน้าหาด หากสังเกตุดีดีก็อาจจะได้เห็นปลาดาวและสัตว์อื่นๆ ซ่อนตัวอยู่ระหว่างซอกปะการังก็เป็นได้ แต่อย่าเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สวยงามจนเผลอเดินไปเหยียบ พวกเขาเข้าละ กิ่งปะการังที่ยื่นตัวออกมา ก็ต้องระวังอย่าไปจับ และเวลาเดินก็ต้องระวังไปโดนพวกเขาหักด้วยนะ เพราะ 1 ปี เขาเติบโตได้แค่ประมาณ 10 ซม. เท่านั้น สำหรับนักดำน้ำ ควรมีการฝึกฝน และลอยตัวให้ได้เป็นอย่างดี ไม่เหยียบบนปะการัง เพราะปะการังเป็นบ้านของสัตว์น้ำหลายชนิด การดำน้ำที่นี่ ท่านจะอาจได้พบกับ ปักเป้าทะเล ปลากระทงแดง ปลาไหลทะเลปลากระบอก ปลากะพง ปลาจะละเม็ดดำ ปลาอินทรี ปลาโอ ปลาสินสมุทร ปลานกแก้ว ปลาสากปลาสิงโต ปลาโนรี ปลาผีเสื้อ ม้าน้ำ กุ้ง ปู หอย ปลิงทะเล และดาวทะเล เป็นต้น


นอกจากนี้ยังมีเส้นทางดำน้ำตื้น จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางดำน้ำบุโหลนไม้ไผ่อยู่ที่เกาะบุโหลนไม้ไผ่ ระยะทาง 22 กิโลเมตร เส้นทางดำน้ำหินขาว อยู่ที่เกาะลูกหินระยะทาง 26 กิโลเมตร และเส้นทางดำน้ำเกาะเภตรา ที่เกาะเภตรา ระยะทาง 29 กิโลเมตร

ใครมีเวลาว่างอยากให้ลองไปสัมผัสกิจกรรมต่างๆ ของที่นี่ รับรองว่าต้องติดใจอย่างแน่นอน แต่การเล่นน้ำนั่งเรือชมทิวทัศน์ กีฬา ดำน้ำ ดูนก ปิกนิก และการพักแรมค้างคืนการก่อกองไฟ ต้องทำในบริเวณที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ให้เท่านั้น นอกจากนี้ยังไม่ควรกระทำหรือส่งเสียงดัง เพราะนอกจากจะรบกวนผู้อื่นแล้ว ยังรบกวนเจ้าบ้าน (สัตว์) อีกด้วย การเดินศึกษาธรรมชาติไม่ควรเดินออกนอกเส้นทางถาวรที่ทางอุทยานได้กำหนดไว้ ผู้ที่นำเต็นท์ไปพักแรมจะต้องเตรียมเครื่องนอนและอุปกรณ์ในการพักแรมไปเอง หลังจากนั้นต้องเก็บและทำความสะอาดที่พักให้เรียบร้อย ที่สำคัญไปกว่านั้นคือการก่อกองไฟห้ามตัดกิ่งไม้ยืนต้นมาใช้เป็นฟืน และต้องระวังไม่ให้ไฟลุกลามไปยังที่อื่น ต้องดับไฟให้สนิททุกครั้งที่เลิกใช้งาน


วิทยา บุญชิต หัวหน้าอุทยานฯ บอกว่าการดำเนินงานของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เดินหน้าภายใต้วิสัยทัศน์ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในการควบคุม ดูแล และรักษาทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา โดยให้หน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมทำงานแบบบูรณาการกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วไปได้รู้จักอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เช่น เกาะลิดี เกาะบุโหลน และเกาะเหลาเหลียง มากขึ้น และช่วยกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบูรณะ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน


นักท่องเที่ยวท่านใดสนใจไปสัมผัสธรรมชาติแบบเงียบสงบ แนะนำให้ ติดต่อสอบถามได้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา 298 หมู่ที่ 4 บ้านตะโละใส ต.ปากน้ำ  อ. ละงู  จ. สตูล   91110 โทรศัพท์ 074-783-074, 074-783-504 โทรสาร 074-783-074 หรือ facebook/อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา