posttoday

จับวิภาส รักสกุลไทย มือโพสต์เฟซบุ๊ก....หมิ่นสถาบัน

01 พฤษภาคม 2553

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ควบคุมตัว วิภาส หรือ ก้อง รักสกุลไทย นักธุรกิจเจ้าของ Caza V1 Serviced Apartment ที่ จ.ระยอง อายุ 37 ปี เครือข่ายแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระยอง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ไปจนถึงวันที่ 11 พ.ค.นี้ เนื่องจากต้องสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 10 ปาก รวมทั้งพยานผู้เชี่ยวชาญ และรอผลการตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา

ตามคำร้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย. เวลา 11.15 น. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 913/2553 ลงวันที่ 28 เม.ย. 2553 ในความผิดฐานดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (3) (5) ที่นำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเผยแพร่ส่งต่อข้อมูลใดๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าการส่งข้อมูลนั้นเป็นความผิด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.–12 เม.ย. 2553 ผู้ต้องหาได้ทำการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์โดยการโพสต์ภาพและข้อความที่ไม่เหมาะสมในเว็บไซต์เฟซบุ๊กดอตคอม www.facebook.com ในชื่อ Wipas Raksakulthai ที่ผู้ต้องหาได้เป็นสมาชิก โดยศาลอนุญาตให้ฝากขังได้ และไม่อนุญาตให้ประกันตัวตามที่ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากจำนวน 5 แสนบาท ขอประกันตัว และให้นำตัวไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอได้ตรวจพบการเผยแพร่คลิปวิดีโอ รูปภาพ เสียง บทความ หรือข้อความไม่เหมาะสมที่มุ่งจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น โดยมีเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิดสอดคล้องกับแผนผังรวบรวมเครือข่ายกลุ่มบุคคลที่มีความคิดและพฤติกรรมล้มล้างสถาบันเบื้องสูงของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ภายหลังศาลอนุมัติหมายจับ ดีเอสไอได้นำกำลังชุดสืบสวนสะกดรอยเข้าจับกุมนายวิภาสได้ที่บ้านเลขที่ 8 ถนนคลองขุด ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมด้วยของกลาง

นายวิภาสเป็นนักธุรกิจในระยองที่มีความฝักใฝ่และมุมมองแนวคิดทางการเมืองคล้ายคนเสื้อแดง และได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกคนเสื้อแดง ดีเอสไอตรวจสอบพบความผิดในลักษณะเดียวกับนายวิภาสเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ โดยเฉพาะในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จึงขอฝากเตือนไปยังประชาชน โดยเฉพาะผู้บริสุทธิ์ที่พบเห็นข้อความหรือภาพที่ไม่บังควร ต้องหยุดพฤติกรรม ไม่ส่งต่อข้อความ เพราะโทษดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปีนายธาริต กล่าว

ทั้งนี้ ในวันที่ 3 พ.ค. เวลา 10.00 น. คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) จะประชุมเพื่อพิจารณารับคดีความมั่นคง มุ่งร้ายต่อสถาบัน หรือคดีล้มเจ้าเป็นคดีพิเศษ

ผู้ต้องหารายนี้ยังให้การภาคเสธ ยอมรับแค่ว่าเป็นกลุ่มที่มีความคิดเห็นทางการเมืองสนับสนุนคนเสื้อแดงจริง แต่มิได้เป็นผู้โพสต์ข้อความที่มีลักษณะหมิ่นและมุ่งร้ายดังกล่าวลงในเว็บไซต์

สำหรับนายวิภาส เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่น 109 หลังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กหมิ่นเบื้องสูงได้ระยะหนึ่ง ตัวแทนศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่น 109 จึงได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 29 เม.ย. สรุปว่าตามที่มีการส่งต่ออีเมลที่เกี่ยวข้องกับการจาบจ้วงสถาบันอันเป็นที่รักอย่างรุนแรง โดยระบุว่าศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบฯ รุ่น 109 คนหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการนั้น

ตัวแทนของรุ่น 109 ขอเรียนว่าพวกเราศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯ รุ่น 109 มีความไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากการกระทำดังกล่าวน่าจะเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา และกระทบกับความรู้สึกของคนไทยทั่วไปอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เกิดความโกรธแค้น และเกิดความรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในส่วนของผลกระทบต่อพวกเราทั้งหมดจากการกระทำของเพื่อนเราได้

ในเบื้องต้นขอแสดงจุดยืนดังนี้

1.ศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯ รุ่น 109 เชื่อมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

2.ศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯ รุ่น 109 เห็นว่าการกระทำใดๆ ที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือละเมิดกฎหมาย ผู้กระทำความผิดต้องได้รับการดำเนินคดีและการลงโทษตามที่บัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด

3.พวกเราในฐานะเพื่อนอยากขอวิงวอนทุกท่านว่า หากเพื่อนของเราได้กระทำความผิดในครั้งนี้จริง ขอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบของบ้านเมืองเท่านั้นที่จะเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมาย อย่าใช้ความรุนแรงหรือใช้กำลังประทุษร้ายตัวผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้ที่มีความใกล้ชิดของผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เนื่องจากจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯ รุ่น 109 ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันได้ ทั้งนี้พวกเราขอความกรุณาทุกท่านอย่าได้พาดพิงในทางเสียหายต่อโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สมาคมศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ส่วนการดำเนินการของศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯ รุ่น 109 ต่อผู้ถูกกล่าวหา อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการรุ่น ซึ่งจะแจ้งผลการดำเนินการให้ทราบในโอกาสหน้า

วิภาส เป็นเพียงรายแรก แต่ในขณะนี้ขบวนการล้มเจ้าและหมิ่นสถาบันในโลกไซเบอร์เช่นกรณีเฟซบุ๊กมีอีกหลายราย ตัวอย่างที่มีข้อความถูกบันทึกได้ รวมถึงสมาชิกชาวเฟซบุ๊กได้ช่วยกันโพสต์เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ สถานที่ทำงาน ไฮไฟว์ อีเมลของบุคคลที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบันมาโพสต์เพื่อให้มีการดำเนินคดี อาทิ วงศ์วิภา เกษชโลม ทำงานอยู่ที่ DHL ตำแหน่ง HR Manager อายุ 31 ปี หลังโพสต์ข้อความจนกระจายไปอย่างแพร่หลาย ทำให้ผู้ที่จงรักภักดีทั้งหลายช่วยกันกดดันหลากหลายวิธีเพื่อให้ผู้บริหารของ DHL รับผิดชอบต่อพฤติกรรมของวงศ์วิภา ในที่สุดทราบว่าเธอถูกให้ออกจากงานแล้ว

ณิชภูมิ ชัยอนันต์ ผู้กำกับอิสระ เป็นอีกรายที่ถูกเพ่งเล็งจากเจ้าหน้าที่ เพราะพบข้อความหมิ่นในเฟซบุ๊กเช่นกัน ณิชภูมิ เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย รุ่น MC’43 จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีผลงานหนังอิสระมาแล้วทั้งหมด 5 เรื่อง และเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มวายุฟิล์ม

รายต่อมา ปัญจพร ลิปิกรรัศมี หรือ เชอร์รี่ อายุ 19 ปี เป็นคนนครปฐม จบจากโรงเรียนเทพลีลา กรุงเทพฯ ก็เป็นอีกคนที่ถูกบันทึกการโพสต์ข้อความในลักษณะจาบจ้วงจากเจ้าหน้าที่ และกำลังถูกติดตามจับกุม

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ