โค่นป่าแม่วงก์เสียหายพันล.
กรมชลฯอ้างเขื่อนช่วยปลดหนี้เกษตรกรนายกฯพร้อมถอยถ้ากระทบคนหมู่มาก
กรมชลฯอ้างเขื่อนช่วยปลดหนี้เกษตรกรนายกฯพร้อมถอยถ้ากระทบคนหมู่มาก
กรมชลประทานแจงสภา สร้างเขื่อนแม่วงก์ช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร รับโค่นป่าเสียหายพันล้าน
นายเกื้อศักดิ์ ทาทอง หัวหน้ากลุ่มสิ่งแวดล้อมโครงการ กรมชลประทาน ชี้แจงระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ สภาผู้แทนราษฎร ว่า ผลประเมินหากมีการสร้างเขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ จะสามารถช่วยเหลือด้านการเกษตรได้ 3 แสนกว่าไร่ ทำให้เพาะปลูกได้ทั้งฤดู และยังบรรเทาปัญหาน้ำท่วมบริเวณลุ่มน้ำแม่วงก์ได้ นอกจากนี้ยังเพิ่มผลผลิตด้วยการเลี้ยงปลา เลี้ยงกบ ทำให้เกษตรกรมีรายได้จาก 1.62 แสนบาท เป็น 2.85 แสนบาทต่อครัวเรือนต่อปี ซึ่งจากการลงพื้นที่พบเกษตรกรมีหนี้สินถึง 80%
นายเกื้อศักดิ์ เปิดเผยว่า ถ้าสร้างเขื่อนจะช่วยผลิตไฟฟ้า น้ำประปา ทำให้พื้นที่บริเวณโดยรอบชุ่มชื้น รักษาระบบนิเวศ ส่งเสริมการท่องเที่ยว มีการพัฒนาคลองส่งน้ำ ถนนเลียบคลองส่งน้ำ และยังเพิ่มมูลค่าที่ดิน
สำหรับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน จำเป็นต้องตัดไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีมูลค่าความเสียหายรวม 1,000 ล้านบาท ส่วนการนำไม้ออกจากพื้นที่ จะใช้หน่วยงานรัฐเข้ามาดำเนินการ จะไม่มีหน่วยงานเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้อง และการตัดไม้จะเป็นการตัดจากขอบนอก เพื่อดันสัตว์เข้าไปในป่าลึก
ทั้งนี้ จากการหารือร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะมีการปลูกป่าชดเชยบนพื้นที่ 3 หมื่นไร่ ซึ่งเป็นป่าเสื่อมโทรม ส่วนกรมชลฯ ก็จะจัดสรรงบประมาณให้ และจะดูแลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการ บริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวว่า ขณะนี้ กบอ.มีแผนที่จะจัดทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (อีเอชไอเอ) ฉบับใหม่ของโครงการเขื่อนแม่วงก์ โดยเน้นการระบายน้ำท่วม เพราะอีเอชไอเอฉบับของกรมชลประทานที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ เน้นแต่เรื่องชลประทาน โดยจะเริ่มทำได้ทันทีที่การทำประชาพิจารณ์โครงการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ในเดือน ต.ค.
“เขื่อนแม่วงก์บรรจุในแผนการสร้างเขื่อนของ กบอ.แล้ว แต่ถ้าจะด่า ขอให้ไปด่ากรมชลประทาน ที่ผ่านมากรมชลประทานไม่เคยเสนอแผนการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์เข้าในแผนงาน กบอ.เลย” นายปลอดประสพ กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำครั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้มองแค่การต้องสร้างเขื่อนอย่างเดียว แต่ต้องทำให้เกิดสมดุลทางธรรมชาติ และคำนึงถึงผู้ที่จะได้รับผลกระทบปลายทางด้วย ถ้ามีมากจะมาประเมินกันอีกครั้ง
เมื่อถามว่า ถ้าเป็นผลลบมากกว่า รัฐบาลยอมถอยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลเชื่อว่ามีทางออกอีกหลายทาง
“เราต้องรับฟังข้อคิดเห็นก่อน ถ้ายังมีเสียงคัดค้าน กระทบกับประชาชนหมู่มาก คงต้องรอ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
อีกด้านมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้สนับสนุนให้สร้างเขื่อนแม่วงก์ที่ชุมนุมหน้าที่ว่าการอำเภอลาดยาว จ.นครสวรรค์ ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ นครสวรรค์ อุทัยธานี และกำแพงเพชร ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของนายกองค์การ บริหารส่วนตำบลสระแก้ว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ที่เชิญชวนให้ประชาชนร่วมชุมนุมสร้างเขื่อนแม่วงก์


