เทวทัตยุคใหม่
เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ผมติดค้างท่านผู้อ่านว่า จะนำเรื่องพระเจ้าอชาตศัตรูร่วมมือกับพระเทวทัตกระทำกรรมหนัก ต้องการเป็นใหญ่ทั้งอาณาจักรและศาสนจักร เพราะเห็นว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันดูจะละม้ายคล้ายกับเหตุการณ์ในครั้งนั้น
เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ผมติดค้างท่านผู้อ่านว่า จะนำเรื่องพระเจ้าอชาตศัตรูร่วมมือกับพระเทวทัตกระทำกรรมหนัก ต้องการเป็นใหญ่ทั้งอาณาจักรและศาสนจักร เพราะเห็นว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันดูจะละม้ายคล้ายกับเหตุการณ์ในครั้งนั้น
ท่านที่ทราบเรื่องดีอยู่แล้ว ก็ขอให้ช่วยตรวจสอบด้วยว่า ผมจำมาถูกต้องหรือไม่ ในช่วงเข้าพรรษาและสถานการณ์การเมืองวุ่นวายอย่างนี้ คุยกันเรื่องศาสนาดีกว่าครับ
พระเทวทัตเป็นพระญาติและมีชีวิตร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้า พระเทวทัตเป็นพระโอรสของพระเจ้าสุปปพุทธะผู้ครองกรุงเทวทหะแห่งแคว้นโกลิยะ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพระพุทธองค์ พระเทวทัตเป็นที่รู้จักกันดีจากเรื่องราวในคัมภีร์พระพุทธศาสนา ว่าเป็นผู้ที่มีความอิจฉาพระพุทธเจ้าแต่ครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์ และคอยจองล้างจองผลาญกับพระพุทองค์มาแต่อดีตชาติ และในชาติที่เกิดร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้า พระเทวทัตยังได้เป็นพระสงฆ์ที่ก่ออนันตริยกรรม คือพยายามลอบปลงพระชนม์พระพุทธเจ้าและก่อการสังฆเภท ทำให้คณะสงฆ์แตกแยกกัน
ส่วนพระเจ้าอชาตศัตรู เป็นพระโอรสของพระเจ้าพิมพิสาร พระราชาแห่งแคว้นมคธและมเหสีโกศลเทวี เมื่อครั้งที่ยังอยู่ในพระครรภ์ มเหสีโกศลเทวี พระนางทรงแพ้ท้อง อยากเสวยพระโลหิตของพระสวามี ด้วยความรักพระมเหสีและบุตรในครรภ์ พระองค์จึงรองพระโลหิตของพระองค์ไปให้พระมเหสีเสวย ทางด้านโหราจารย์ทำนายว่า ราชกุมารในครรภ์จะเป็นปิตุฆาต (ฆ่าพ่อ) พระนางโกศลจึงพยายามทำแท้งแต่ไม่สำเร็จ พระเจ้าพิมพิสารเมื่อทรงทราบก็ห้าม พอประสูติมีพระนามว่า “อชาตศัตรู” (แปลว่า ผู้ที่ไม่เป็นศัตรู)
ในวัยเยาว์ ทรงเลี้ยงดูพระโอรสเป็นอย่างดี และทรงสถาปนาเป็นมกุฎราชกุมาร เมื่อเข้าวัยรุ่นทรงมีสติปัญญาเฉียบแหลม แต่หลงผิดเชื่อคำยุยงของพระเทวทัต ซึ่งได้บำเพ็ญสมณธรรม จนได้ฤทธิ์ของปุถุชน เกิดความมักใหญ่ใฝ่สูง ได้แสดงฤทธิ์เหาะไปให้เจ้าชายอชาตศัตรูเห็น หลังจากนั้นเจ้าชายอชาตศัตรูจึงเกิดศรัทธายอมตนเป็นศิษย์และรับบำรุงอุปัฏฐากพระเทวทัต และด้วยการยุแหย่ของพระเทวทัต ว่าชีวิตคนเรานั้นไม่เที่ยงไม่แน่ว่าจะได้ครองราชสมบัติ จึงควรปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสารเสีย แล้วขึ้นครองราชย์แทน ส่วนพระเจ้าเทวทัตจะปลงพระชนม์พระศาสดาและทำหน้าที่ปกครองสงฆ์ พระเจ้าอชาตศัตรูก็หลงเชื่อ จับพระเจ้าพิมพิสารมาขังในคุกและทรมานโดยวิธีการต่างๆ จนพระบิดาสิ้นพระชนม์
แต่หลังพระบิดาสิ้นพระชนม์แล้ว พระเจ้าอชาตศัตรูก็สำนึกได้ว่าได้ทำกรรมอันหนักยิ่ง จึงทรงบำเพ็ญกุศลต่างๆ เพื่อลบล้างความผิดให้เจือจางลงไปบ้าง และทรงปฏิญาณตนเป็นอุบาสกบริษัท ตั้งมั่นในคำสอนของพระพุทธองค์
ส่วนพระเทวทัต ไม่สามารถปลงพระชนม์พระพุทธเจ้าได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด คงทำได้เพียงกลิ้งหินใส่พระพุทธเจ้า แต่สะเก็ดหินกระเด็นถูกพระพุทธเจ้าห้อพระโลหิตที่ข้อพระบาทเท่านั้น ภายหลังสำนึกได้ พยายามจะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า แต่ถูกธรณีสูบที่หน้าวัดพระเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี ไม่มีโอกาสเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
สำหรับเหตุการณ์ในปัจจุบัน รัฐบาลนี้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับวัดธรรมกาย ไม่รู้ใครชักชวนใคร แต่ที่แน่ๆ กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้บังคับให้ครูทั่วประเทศอบรมธรรมที่วัดเครือข่ายของธรรมกายเพียงแห่งเดียว การศึกษาอบรมธรรมไม่มีใครคัดค้าน แต่ที่สงสัยกันมากคือ ทำไมจึงต้องวัดธรรมกายเท่านั้น ทั้งๆ ที่วัดธรรมกายมีปัญหาการสอนธรรมว่าเป็นการสอนโดยบิดเบือนหลักธรรมที่แท้จริง ตามที่สมเด็จพระสังฆราชท่านทรงมีพระลิขิตถึงธัมมชโย แห่งวัดธรรมกาย ผู้เผยแผ่ธรรม และมีปัญหาเรื่องการยักยอกเงินวัดไว้ว่า
“ความบิดเบือนพระพุทธธรรมคำสอน โดยกล่าวหาว่าพระไตรปิฎกบกพร่อง เป็นการทำให้สงฆ์ที่หลงเชื่อคำบิดเบือน แตกแยกออกไปกลายเป็นสอง มีความเข้าใจความเชื่อถือพระพุทธศาสนาตรงกันข้ามเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ทำสงฆ์ให้แตกแยกเป็นอนันตริยกรรม มีโทษทั้งปัจจุบันและอนาคตที่หนัก ส่วนที่มิใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นการกระทำที่ถูกต้อง คือ ต้องมอบสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัดทันที การไม่ยอมคืนสมบัติให้วัด ในขั้นต้นอาจมิใช่มีเจตนาถือเอาเป็นของตน แต่เมื่อถึงอย่างไร ก็ยังไม่ยอมมอบคืนสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัด ก็แสดงชัดแจ้งว่าต้องอาบัติปาราชิก ต้องพ้นจากความเป็นสมณะโดยอัตโนมัติ ต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับผู้ไม่ใช่พระปลอมเป็นพระ ด้วยการนำผ้ากาสาวพัสตร์ไปครอง ทำความเศร้าหมองเสื่อมเสียให้เกิดแก่สงฆ์ในพระพุทธศาสนา”
แนวทางการสั่งสอนของวัดธรรมกาย เป็นคำสอนที่บิดเบือนพระพุทธธรรม แต่กระทรวงศึกษาธิการกลับบังคับครูทั่วประเทศให้ไปอบรมธรรมตามแนวทางของวัดธรรมกาย
นอกจากนี้ ตัวเจ้าอาวาสเองก็ต้องอาบัติปาราชิก พ้นจากความเป็นพระแล้ว และอาบัติปาราชิกนี้ เมื่อพ้นจากความเป็นพระแล้ว จะไม่สามารถบวชใหม่ได้อีกเลย
ทำไมรัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาฯ จึงได้ร่วมมือกับวัดที่มีปัญหาทั้งด้านคำสอนและตัวบุคคล การอบรมธรรมเป็นสิ่งที่ดี ไม่มีชาวพุทธคนใดคัดค้าน แต่ที่ค้างคาใจคือ ทำไมต้องเป็นวัดธรรมกาย ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีการชักชวนคนให้ทำบุญมากๆ จำนวนเงินที่มีคนทำบุญกับวัดธรรมกาย น่าจะไม่น้อยกว่าของเณรคำ แต่ DSI กลับไม่สนใจที่จะตรวจสอบ
ความจริงแล้ว วัดธรรมกายเองก็มีเรื่องลึกลับซับซ้อนอยู่เป็นจำนวนมาก เท่าที่ผมติดตามข่าว หลวงปู่พุทธอิสระ น่าจะได้ให้ข้อมูลเรื่องวัดธรรมกายกับ DSI แล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
เณรคำที่สร้างบารมีกับพระผู้ปกครองด้วยการแจกรถ ก็เป็นแค่ระดับเจ้าคณะ แต่วัดธรรมกายมีข่าวว่า เอาใจในทุกระดับ โดยเฉพาะในระดับสูงๆ เรื่องของธรรมกายจึงไม่มีหน่วยงานใดให้ความสนใจ
แม้แต่อัยการสูงสุดยังถอนฟ้องธัมมชโยในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานยักยอกเงินของวัด เมื่อปี 2549 ในขณะที่การพิจารณาคดีใกล้จะเสร็จแล้ว
ฤทธิ์เดชของเณรคำ ถ้าจะเทียบกับธรรมกายแล้ว ยังถือว่าห่างกันหลายขุม เณรคำเป็นเพียงเด็กอนุบาล ในขณะที่ธรรมกายจบดอกเตอร์แล้ว แถมยังมีรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ
DSI จึงไม่กล้าแม้แต่จะตรวจสอบ
ธรรมกายในวันนี้ จึงยิ่งใหญ่เหนือสมเด็จพระสังฆราช เพราะแม้พระองค์จะมีพระลิขิตแล้ว แต่ไม่มีใครที่คิดจะจัดการตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชเลย


